* เรื่องนี้เหมือนจะใสแต่หนักหน่วงตลอด *
เพราะ..."ผมพูดน้อย...แต่ (เอา) จริงจังนะครับ"
"คุณไม่ควรปลุกผม...อีกรอบด้วยกันนะ...เหมย!"
(โปรย)
“นี่คุณ นอนได้แล้ว ไม่ต้องลุกคุณเมามาก” คุณชายปริตต์พยายามประคองร่างผลักให้เธอกลับลงไปนอน
แต่หญิงสาวไม่ตอบอะไรมองจองไปที่ชายหนุ่มในชุดกึ่งทักชิโด้อยู่ตรงหน้าสำรวจไปทั่วตั้งแต่หัวจรดเท้า
“พี่ธรรม์”
‘แย่แล้ว’
“คุณนอนเถอะนะ”
“พี่ธรรม์ ทำไมทำแบบนี้ ฮือ ฮือ ทำไมทำกับเหมยได้ลงคอ ทำไม! ตอบมาสิ ทำไม” เธอทุบไปที่อกของชายหนุ่มอย่างสุดแรง แล้วซบอกแกร่งให้ธารน้ำใสในดวงตาหลั่งรินออกมา
“อีหมิวมันมีดีอะไร ถ้ามันดีนักแล้วจะมาแต่งงานกับเหมยทำมั้ย ฮือ ฮือ”
“…….”
ชายหนุ่มประคองเธอนั่งลงบนเตียงแล้วปล่อยให้เธอระบายออกให้พอใจ เผื่อว่าเธอจะเหนื่อยแล้วหลับไปเอง
“มันเอาเก่งนักใช่มั้ย มันยั่วเก่งถึงใจพี่มากสินะ ได้! เดี๋ยวเหมยจะทำให้พี่รู้ว่าเหมยก็ศิษย์มีครู ไม่น้อยหน้ามัน!”
‘โอ้ว...ไม่นะ’
คุณชายมาดเซอร์ถึงกับอุทานในใจเมื่อได้ยินประโยคนี้จากหญิงสาวตรงหน้า
“เอ่อ คุณ นอนเถอะ”
“หยุด!” กิ่งเหมยเอามือขึ้นมาปิดปากที่กำลังจะพูดเพ้งมองไปที่หน้าชายหนุ่มด้วยนัยตาเชื่อมเพราะฤทธิ์สุรา
“วันนี้พี่ธรรม์จะได้รู้ว่าเหมยก็มีดีไม่แพ้นังหมิว”
สิ้นคำเธอก็เอามือออกแล้วกดจูบลงไปที่ริมฝีปากได้รูปของคุณชายอย่างไม่ยั้งคิด สองแขนเรียวโผเข้ากอดสวมที่ลำคอแกร่งของชายหนุ่ม จูบรสแอลกอฮออร์ที่ดื่มมาพร้อมกับเกลี้ยวลิ้นที่เธอซุกไซ้เข้าไปยังโพรงปากของชายหนุ่มพาให้เขาเองถึงกับปล่อยอารมณ์เคล้มตามไปกับเธอ
“นี่คุณพอแล้ว คุณเมามากแล้วนะ” เขาผละเธอออกและพยายามตั้งสติ
“ไม่!”
เสียงตวาดกลับพร้อมผลักให้เขานอนลงบนฟูกที่นอนนุ่มสีขาวก่อนที่เธอจะขึ้นคล่อมร่างกำยำเอาไว้ อย่างทุลักทุเล
“เฮ้ยคุณ จะทำอะไร นี่นอนได้แล้ว”
“……”
หญิงสาวไม่ตอบคำ แต่กลับก้มลงมาจูบซุกไซ้ไปที่ลำคอแกร่งของเขา
“คุณพอได้แล้ว” เขาพยายามผลักเธอออกอีกครั้ง คราวนี้กิ่งเหมยยันตัวเองขึ้นนั่งแต่ยังคงคล่อมอยู่บนร่างแกร่งกลางลำตัวของเขา
“เหมยจำได้ที่อ่านเจอว่ามันต้องทำแบบนี้” คนเมาปลอดกระดุมเสื้อของเขาออกอย่างสะเปะสะปะ
“นี่คุณ”
“อยู่เฉยๆ สิ ยกมือขึ้นเลย ยกเอาไว้!” เธอจับแขนของเขาให้ชูขึ้นเหนือศีรษะและกลับมาจัดการกับเสื้อเชิ้ตของเขาต่อ ตอนนี้คุณชายก็เริ่มนึกสนุกกับหญิงสาวขี้เมาคนนี้แล้วสิ
เมื่อปลดเปลื่องเสื้อเชิ้ตแหวกออกก็เห็นแผ่นอกแน่นกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกร้ามเย้ายวนใจ หญิงสาวสัมผัสลงไปเบามือแต่ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ ดังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อ
“อ่ะ แล้วยังไงต่อดี” คุณชายที่อยู่ใต้ร่างถามขึ้น
เธอเงียบไม่ตอบอะไรเพียงแต่พยายามเพ่งมองตัวโอนอ่อนไปมา
“ทำเป็นมั้ย” เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงเย้ยหยั่นแต่นิ่งเรียบสไตล์เขา
“อย่ามาดูถูกเหมย!”
คุณชายลดแขนที่อยู่เหนือศีรษะลดเพื่อจะมาจับให้เธอกลับไปนอนดีๆ แต่แล้ว
“อย่าเอามือลงมา! บอกให้เอาไว้แบบนั้น”
“เฮ้อ...โอเค” เขาถึงกับถอนหายใจมองบนตอบกลับไป
คราวนี้หญิงสาวลดตัวถอยร่นลงมาแล้วเริ่มปลดเข็มของเขาออกตามด้วยกระดุมกางเกงแล้วจึงรูดซิบออกก่อนจะดึงรวดลงไปจนสุดปลายเท้า ชายหนุ่มไม่ไหวติงใดและรอดูพฤติกรรมของหญิงสาวว่าจะทำเช่นไรต่อ ตอนนี้ร่างกายของคุณชายเหลือเพียงกางเกงบล็อคเซอร์สีกรมท่าและเชิ้ตที่ถูกปลดกระดุมออกจนสิ้น
“เอ๊ะ ยังมีอีกตัว” กิ่งเหมยเปรยขึ้นก่อนจะจับขอบกางเกงชิ้นสุดท้ายของคุณชายออกไปคราวนี้เผยให้เห็นถึงความเป็นชายกลางตัวที่ตอนนี้ยังสงบนิ่ง แต่ที่ไม่สงบคือใจของคุณชายที่กำลังลุ้นว่าหญิงสาวจะทำอะไรต่อ
“นังหมิวมันทำให้พี่ได้ เหมยก็ทำได้ พี่ค่อยดูนะว่าเหมยเก่งกว่ามัน” กิ่งเหมยหันกลับมามองชายหนุ่มก่อนจะจับส่วนเอ็นแกร่งที่ยังไม่ถูกปลุกขึ้นมา
‘เอาจริงเหรอเนี้ย’
ฝากผลงาน e-book และ Audio book ด้วยนะคะ
https://bit.ly/3nokuoF
สามารถติดตามข่าวสารของผลงานนักเขียนได้ที่ https://www.facebook.com/rabbitinmoon