วิวาห์ลวงแค้นรัก
0
ตอน
437
เข้าชม
1
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
6
เพิ่มลงคลัง

บทที่ 1 

เช้าที่แสนจะสดใสของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าแอนนา การลืมตาตื่นขึ้นมาของเช้าวันนี้ทำ ให้เธอรู้สึกดีและแจ่มใสกว่าทุกๆ วัน เธอบิดตัวเล็กน้อยก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียงนอนที่แสนจะสบายของเธอ เธอเป็นผู้หญิงสูงกำลังปานลาง หุ่นก็ไม่อ้วนและไม่ผอม เป็นหุ่นที่กำลังดี ผมยาวหยักศกเล็กน้อยเป็นลอนมาม่า มีตาสองชั้นแต่หลบใน จมูกมีสันดั้งกำลังดี ปากหยักได้รูป หลังจากเธอลุกจากเตียงนอนเธอก็ตรงไปทำธุระในห้องน้ำทันที แกลับออกมาด้วยผ้าขนหนูพันอยู่บนตัว วันนี้เธอรู้สึกแจ่มใสและพร้อมกว่าทุกวันที่ผ่านมา เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเธอต้องผ่านความยากลำบากมาค่อนข้างเยอะ ทั้งต้องหาเงินเรียนเอง หาเงินเลี้ยงปาก เลี้ยงท้องตัวเองและที่สำคัญไปกว่านั่นต้องหาเงินมาใช้หนี้ที่เธอไม่ได้ก่อเอาไว้ แต่เป็นหนี้ก้อนโตที่พ่อและแม่เธอทิ้งเป็นมรดกตกทอดมาให้ แม่ได้จากไปเมื่อหลายปีก่อน ส่วยพ่อของเธอก็หีหายไปก่อนที่แม่ของเธอจะเสีย 

“ตายแล้ว ตายแล้ว สายแน่ๆ” เสียงเธอบ่นพร้อมกับพยายามรีบแต่งตัวให้เร็วที่สุด 

ณ บริษัทท็อปปิคอล จำกัด  

“สวัสดีแอนนา ทำไมวิ่งหน้าตั้งมาเลย หนีอะไรมา” มานีเพื่อนร่วมงานถามขึ้น 

“เราลืมว่าวันนี้มีนัดลูกค้าต้องไปเสนองานลูกค้ากับคุณนนท์ตอน แปดโมงอ่ะ แล้วก็เราลืมงานไว้ที่นี่ด้วยเลยวิ่งกลับมาเอางาน เราไปก่อนนะ เราสายแล้ว” พูดจบเธอก็รีบวิ่งออกไปจากออฟฟิศไป 

หลังจากที่วิ่งออกจากออฟฟิศด้วยความเร็วแปด ก็ต้องเบรกล้อตายตรงหน้าบริษัท  

“คุณนนท์ สวัสดีค่ะ”  

“วิ่งหนีอะไรมา ทำไมวิ่งเหมือนมีคนไล่ล่า” เขาพูดพร้อมหัวเราะ 

“งานต่ะ แอนลืมงานกลัวสายด้วย วันนี้เรามีนัดกับลูกค้าไม่ใช่หรอค่ะ ทำไมคุณนนท์ถึงมาที่บริษัทละค่ะ” ฉันพูดพร้อมทำหน้างง 

“พอดีผมแวะมา เอิ่มมม ดื่มกาแฟน่ะ” เขาพูดตะกุกตะกัก 

“สายค่ะสาย เรารีบไปกันเลยไหมค่ะ” เธอพูดพร้อมทำท่าทางให้รีบไป 

เขามองดูหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเอ็นดู นนท์ หรือ นนทนา บุนนาค เจ้าของบริษัทท็อปปิคอล เขามีพี่น้องทั้งหมด 3 คน เขามีพี่ชาย พี่สาวและก็เขาเป็นคนสุดท้อง เขาเป็นชายหนุ่มในฝันของผู้หญิงหลายๆ คน เขาเป็นผู้ชายอบอุ่น ที่ใครอยู่ใกล้ก็จะหวั่นไหวตกหลุมรักเป็นได้ ครอบครัวของเขาค่อนข้างที่จะมีฐานะ มีบริษัทใหญ่โตที่พร้อมให้เขาสานต่อกิจการ แต่เขาเลือกที่จะออกมาใช้ชีวิตของตัวเองและเลือกสิ่งที่เขาชอบด้วยตัวเอง จนเขาตัดสินถ้าได้ลองชอบแล้วเขาก็จะเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกับที่เขาเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเปิดบริษัท เขาได้ทะเลาะกับทางบ้านเรื่องการเข้าไปทำงานในบริษัทของพ่อเขา ซึ่งเขาไม่ชอบที่จะทำงานที่นั่น เขาอยากมีชีวิตที่อิสระที่เขาสามารถโบยบินไปไหนก็ได้ เขาท้อแท้มาก จนหนีไปเที่ยวต่างจังหวัดเพื่อสงบจิตใจ เขาไปไหว้พระที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งในอุโบสถนอกจากเขาก็ยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งนั่งไหว้พระและขอพรอย่างแน่วแน่ เธอพูดขอพรเบาๆ แต่มีเสียงออกมา  

“หลวงพ่อเจ้าค่ะ ช่วยให้ชีวิตลูกอยู่เย็นเป็นสุข ขอให้ชีวิตลูกรอดพ้นกับเคราะห์กรรที่เจออยู่ตอนนี้ด้วยค่ะ ลูกเหนื่อยจนไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรแล้ว เหนื่อยจนอยากจะลาตามแม่ไป ช่วยให้หนูเจอความสุขด้วยเถอะเจ้าค่ะ” 

 แล้วเธอก็ก้มกราบ เขาได้นั่งมองพร้อมมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น พอผู้หญิงคนนั่นหันหน้ามาพร้อมจะออกไปนอกอุโบสถ หัวใจของเขาเต้นรัว ปากกระตุกยิ้มอัตโนมัติ ซึ่งเขาไม่เคยเป็นมาก่อน เขาจำใบหน้าของหญิงสาวคนนี้ได้ดี จนหลังจากนั่นประมาณ 6 เดือนต่อมาที่เขาเปิดบริษัทและเปิดรับสมัครพนักงาน คนที่ทำให้เขาหัวใจเต้นรัวก็อยู่ตรงหน้าเขา หญิงสาวคนนั่นมาสมัครงานที่บริษัทของเขา เขาตัดสินใจได้ทันทีว่าจะรับเธอเข้าทำงานโดยแทบไม่ดูประวัติ ตั้งนั้นมาเขาก็ได้อยู่ใกล้กับคนที่ทำให้เขาหัวเต้นรัวมา 2 ปี ซึ่เธอคนนี้ก็ยังทำให้เขามีความสุขทุกครั้งที่เห็นหน้าเสมอ 

ทั้งสองไปพบกับลูกค้ารายหนึ่งที่กำลังจะแต่งงาน ลูกค้ารายนี้คือพี่ชายของนนท์นั่นเอง ซึ่งพี่ชายของเขามั่นใจกับบริษัทของน้องชายมาก จึงได้จ้างให้บริษัทของน้องชายเขามาออแกไนซ์งานแต่งที่แสนสำคัญนี้ ซึ่งเจ้าสาวเดินทางมาถึงที่หลังหลังจากที่ที่คุยเรื่องกันไปได้แค่คราวๆ ว่าที่เจ้าสาวของพี่ชายนนท์เป็นคนที่สวยมาก หุ่นดี ทุกอย่างดีหมด 

“สวยจัง” เธอหลุดเผลออุทานออกมาเบาๆ ชายสองคนที่นั่งอยู่ด้วยหันมาทางเธอพร้อมกับหัวเราะเบาๆ 

“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าค่ะ” เธอถามแบบงงงวย 

“เปล่านี้ครับ ไม่มีอะไร” นนท์พูดพร้อมยิ้ม 

หลังจากนั่น ผ่านไป 1 ชั่วโมง ก็ตกลงกันเสร็จ ว่าจะเอาคอนเซ็ปต์ไหน ต่างคนก็แยกย้ายกัน วันนี้นนท์มีนัดทานข้าวกับที่บ้านของเขา แต่เขาก็พยายามที่จะไปส่งแอนนา 

“ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ คุณนนท์ไปเถอะค่ะ แอนกลับไปที่บริษัทเองได้ อีกอย่างบริษัทกับบ้านคุณนนท์คนละทางด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงแอนนะคะ แอนกลับเองได้จริงๆ” เธอรีบพูดเพราะกลัวเจ้านายจะเสียเวลาขับกลับกลับมา 

“กลับเองได้จริงนะ” เขาถามแบบไม่สบายใจ 

“ได้จริงๆ ค่ะ แค่นี้สบายมาก งั้นแอนไปก่อนนะคะ มีงานต้องไปเครียร์ให้เสร็จ สวัสดีค่ะ” เธอพูดพร้อมเดินไปขึ้นรถเมล์ 

เขายืนมองจนเธอขึ้นรถล์เรียบร้อย แล้วเขาถึงจะไปขึ้นรถและขับออกไป 

เธอนั่งรถเมล์จนถึงป้ายที่ลง เธอลงจากรถเมล์และเดินเข้าซอยอีกนิดเพื่อที่จะเข้าบริษัทไปเครียร์งานที่ค้าง พอเธอเข้าบริษัทเธอก็ลุยทำงานจนไม่ได้ดูเวลาว่าค่อนข้างดึก เมื่อเธอเห็นว่าดึกแล้วจึงละมือจากงานเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านเพื่อไปพักผ่อนเพื่อจะลุยงานต่อพรุ่งนี้ เมื่อเธอเดินลงมากำลังจะเดินออกหน้าปากซอยก็มีกลุ่มผู้ชายสองสามคน มาดักรอเธอ เมื่อเธอเห็นจึงรีบหนี เพราะนั่นคือเจ้าหนีของพ่อแม่ที่คอยมารังควานเธอ เธอวิ่งสุดกำลังของเธอ และเธอก็วิ่งไปตัดหน้ารถคันหนึ่ง ทำให้รถคันนั้นเบรกกระทันหันจนเกือบชนกับเธอ คนที่นั่งบนรถรีบลงมาดูเหตุการณ์ที่เขาเจอ 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว