จบ  เพลงรักชาวเงือก ตอนที่1
4
ตอน
1.48K
เข้าชม
15
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
1
เพิ่มลงคลัง

(เรื่อสั้นขนาดยาว By Stephan Nai) 

                    คืนนี้เป็นคืนเดือนเพ็ญ พระจันทร์ดวงกลมโตสีเหลืองนวลสดใสใบใหญ่ อยู่ใกล้ๆเหมือนจะจูบเข้ากับโลก น้ำนิ่งใสแจ๋วไม่ติงไหว ทำให้มองเห็นท้องฟ้าเหลืองอร่ามด้วยแสงจันทร์ชัดเจน ลวงหลอกสายตาทำให้มองไม่ออกว่า อันไหนผืนฟ้าอันไหนผืนน้ำกันแน่      

                  คม นั่งนิ่งเหนือกาบเรืออวนเล็กของเขาท่ามกลางผืนน้ำทะเลวันเพ็ญสีทองอร่าม อวนที่ทอดไว้รอดักกุ้งเข้ามาติดลอยพลิ้วไปกับแรงคลื่นใต้น้ำ  ปกติแล้วในคืนเดือนเพ็ญ เขาจะจับกุ้งได้มากกว่าปกติเพราะกุ้งมักจะขึ้นมาเล่นแสงจันทร์เพื่อผสมพันธุ์มากกว่าวันไหนๆ ขายกุ้งครั้งนี้ได้เงินคงมากพอดู เขาเตรียมที่จะตกแต่งศรีนวล สาวบ้านใต้ที่คบหาดูใจกันมาแรมปีให้เป็นเรื่องเป็นราวในไม่กี่วันนี้ งานทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้เกือบหมดแล้ว เหลือแค่รอเวลาฤกษ์ดีก็จะได้ทำพิธีทางศาสนา ตกแต่งเป็นสามีภรรยากันตามประเพณีปฏิบัติ เขานึกไปถึงคำทำนายของหมอดูหลังค่อมคนหนึ่ง ที่บังเอิญเขาได้ไปเจอที่ร้านก๋วยเตี๋ยววันนี้ แกเดินถือป้ายคล้องคอ ดูหมอแลกค่าข้าวแค่ 20 บาท คมเห็นแล้วเวทนา จึงเลี้ยงก๊วยเตี๋ยวแกและให้เงินไปอีก 100 แกก็ดูให้อย่างดีใจ  

                     “นายหัวนี่จะมีโชคสองชั้นนะครับ ได้เมียสอง เมียแรกนี่ไม่ได้แต่ง แต่จะทำให้รวยมากเลยนะ อีกหน่อยจะมีเรือใหญ่เป็นสิบๆลำเลย ส่วนเมียสอง แต่งถูกต้องตามประเพณี มาช่วยทำมาหากินอีกทาง” หมอดูว่าไปเหมือนนั่งทางใน เพราะแกจับมือเขาแล้วหลับตาพูดไปเรื่อยๆ คมหัวเราะหึๆ 

                   “ลุงเก่งนะเนี่ย อีกไม่กี่วันผมจะแต่งงานแล้วจริงๆแหละ แต่ว่ามีเมียคนเดียว ยังไม่เห็นวี่แววจะมีเมียสองคนอย่างลุงว่าเลย คนจนๆอย่างผมผู้หญิงที่ไหนเขาจะแลละลุง เรืออวนก็ลำเล็กๆลำเดียวพอหาเลี้ยงตัวไปได้เท่านั้นแหละ” เขาบอกหมอดูหลังค่อมที่ยังคงจับมือเขาอยู่ 

                 “หือ ว่าได้รึ ของมันจะเป็นของเรามันก็ต้องเป็นของเรา แต่ว่า เมียอีกคนนี่พิเศษหน่อยนะ” หมอดูยังคงพุดต่อชวนให้เขาสงสัย 

                  “พิเศษยังไงลุง?”  

                “ความลับสวรรค์ลุงพูดไม่ได้ เอาเป็นว่าถึงเวลาก็จะรู้เอง ขอให้นายหัวโชคดีรวยๆนะครับ ขอบคุณที่ทำบุญทำทานคนแก่ ขอให้เจริญๆ” 

 

                  ชายหนุ่มจุดบุหรี่ขึ้นสูบอย่างสบายอารมณ์ ปล่อยหัวใจลอยล่องไปตามสายลมเย็นที่พัดผ่านร่าง เขานอนเอกเขนกหนุนแขนมองท้องฟ้า ชมความงดงามของพระจันทร์วันเพ็ญ สวยงามอะไรอย่างนี้ เมื่อเคลิบเคลิ้มด้วยความเพลียและลมเย็นที่พัดโชยมา คลื่นอ่อนๆโยกโคลงเรือลำน้อยของเขาเหมือนไกวเปลกล่อมนอน ชายหนุ่มผล็อยหลับไปนานเท่าใดไม่รู้  สะดุ้งตื่นอีกทีหนึ่ง เมื่อได้ยินเสียงแว่วๆแผ่วเบามาจากที่ไกลๆ ขับครวญทำนองเพลงอย่างเย็นยะเยือก สะท้อนผิวน้ำยามดึก ไพเราะอย่างแปลกประหลาดชวนขนลุก 

                   ชายหนุ่มหรี่ตามองหาที่มาของเสียงเพลงประหลาดนั้น เขาไม่กล้าขยับตัว ด้วยสงสัยใคร่รู้ที่มาของเสียงเพลง เรือลำน้อยของเขาลอยล่องออกมาไกลกลางทะเลโดยที่เขาไม่รู้ตัวว่าลอยมาไกลแค่ไหน และเกาะหินปูนทรงยาวกลางทะเลแห่งนี้ เขาไม่เคยเห็นมันมาก่อน  ทั้งที่ปกติเขารู้จักทุกตารางนิ้วของทะเลแถบนี้ดี  เรืออวนลำน้อยของเขาถูกกระแสลมและกระแสน้ำพัดมาถึงที่นี่ได้อย่างไรกัน?   และมันแพะเข้ากับโขดหินโสโครกรอบๆเกาะนั้นทำให้เรือหยุดไปต่อไม่ได้ เสียงเพลงประหลาดนั้นยังคงดังก้องผืนน้ำสะท้อนแว่วมา คมค่อยๆขยับกายยันตัวลุกขึ้น เหลียวมองดูซ้ายขวา มองเห็นทัศนียภาพอันแปลกประหลาดเบื้องหน้าของภูเขาหินทรงยาวที่อยู่กลางทะเล โดยมีโขดหินรายรอบอยู่เป็นบริวาร แสงจันทร์สะท้อนผืนน้ำสีทองวิบวับ เงาบางอย่างไหววูบอยู่ในน้ำตรงใกล้ๆภูเขาหินนั้น ผลุบโผล่ดำผุดดำว่ายล้อเล่นกับแสงจันทร์อย่างสบายอุรา โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกแขกแปลกหน้าแอบเฝ้ามองอยู่ มันดูคล้ายมนุษย์ผมยาวทั้งชายหญิง  คะเนดูสักประมาณสิบกว่าชีวิต  หากแต่มนุษย์ธรรมดาที่ไหนเลยจะกล้าหาญมาดำผุดดำว่ายกลางทะเลลึกในยามดึกสงัดอยู่เช่นนี้ มองไปรอบๆก็ไม่เห็นมีเรือมาจอดรอแต่อย่างใด หากจะเป็นเรือนักท่องเที่ยวพาแขกมาดำน้ำ ก็ไม่ใช่วิสัยที่จะมาในยามราตรีกาลเช่นนี้  ขณะที่เขากำลังแอบลอบมองเหล่ามนุษย์ประหลาดที่พากันว่ายน้ำเล่นสบายใจกลางแสงจันทร์และขับร้องเพลงที่เขาได้ฟังนั้น เสียงอวนที่เรือของเขาลากมาด้วยก็กระตุกตึ้งจนเรือเอียง เสียงขวดกระป๋องที่อยู่ในเรือกระทบกันดังโคล้งเคล้งสะท้อนลั่นไปในผืนน้ำ พวกเหล่าชาวมนุษย์น้ำนั้นพลันรู้ตัวว่ามีแขกแปลกหน้ามาเยือนโดยมิได้รับอนุญาต พากันตกใจดำดิ่งผลุบหายลงไปใต้ผืนน้ำอย่างรวดเร็ว แวบหนึ่งเขาเห็นหางปลาขนาดใหญ่ โผล่แว๊บขึ้นมาสะท้อนแสงจันทร์เป็นสีเงินยวง ก่อนจะดำหายลงไป  

                     คมหันไปดึงอวนที่เหมือนกำลังติดปลาตัวใหญ่  มันพยายามดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการภายใต้ผืนน้ำข้างเรือของเขา คมดึงสู้สุดชีวิต ถ้าปล่อยให้มันลากไปมีหวังเรือจม หรือไม่อวนก็ขาด กุ้งที่ดักได้วันนี้เป็นอันหมดกัน เงินที่หวังจะไปสมทบค่าสินสอดศรีนวลก็ต้องชวดไป เขาสู้กับเจ้าปลานั่นไม่คิดชีวิต ดึงยื้อยันกันอยู่อย่างไม่ลดละ คงต้องพึ่งพุทธคุณ เขาอาราธนาหลวงปู่ทวดที่แขวนไว้ที่คอขอให้ท่านช่วย  เป่าพรวดลงไปในน้ำ และออกแรงดึงเฮือกเดียวดึงเอาเจ้าปลายักษ์ที่พันกับอวนขึ้นมาบนเรือ แต่ก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็นข้างหน้า 

                    “เงือก!!” คมอุทานอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อเห็นร่างมนุษย์ผู้หญิงเปลือยเปล่าท่อนบน ผมยาวสยาย ครึ่งล่างตั้งแต่อวัยวะเพศลงไปเป็นหางปลาขนาดใหญ่สีเงินยวง เธอถูกพันร่างด้วยแหอวนของเขาจนดิ้นรนไม่ได้ นอนหายใจพะงาบๆอยู่บนท้องเรือ แววตาตื่นกลัวหายใจหอบจนตัวโยน ดูเหมือนปลาที่เกยตื้น รูปหน้าของเธอเรียวเล็ก ตำดำกลมโตคล้ายตาปลา จมูกนั้นมีรูปจมูกแต่ไม่มีสันดั้ง ผิวกายที่ขาวแต่มีเกล็ดที่บริเวณมือและนิ้วแต่ละนิ้วเป็นพังผืดเหมือนมือมนุษย์กบ หน้าอกงามกำลังตูมเหมือนบัวแรกแย้ม บ่งบอกว่าเป็นเงือกสาวคราวรุ่นๆ   ที่บริเวณหางมีแผลลึกจากการถูกอวนบาดเข้าไปจนมีเลือดไหลซึมออกมาที่ท้องเรือ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่สามารถดิ้นหลุดไปจากอวนของเขาได้ เพราะมันกินเข้าไปในเนื้อของเธอพอสมควร  ร่างทั้งร่างนั้นสั่นเทิ้มด้วยความกลัว แววตาหล่อนมองเขาอย่างอ้อนวอนขอชีวิต 

                     “เดี๋ยวนะ เดี๋ยวนะ” คมร้องบอกเงือกสาวด้วยความตะลึงพรึงเพริด นี่เขากำลังฝันอยู่ใช่ไหม คมหยิกตัวเอง เขาไม่ได้ฝัน เขาตื่นอยู่ และข้างหน้าในท้องเรือที่เขาเห็นก็คือเงือก เงือกตัวเป็นๆไม่ใช่เงือกที่เขาเคยเรียนในหนังสือเรียนสมัยมัธยม ในหนังสือเรื่องพระอภัยมณี นางเงือกเป็นคนครึ่งปลา เป็นสาวสวยงาม แต่นี่ไม่ใช่อย่างที่เขาจินตนาการไว้เลย  เธอเป็นเงือกที่สมจริงมากๆ จนดูเหมือนปลาที่หน้าคล้ายคนมากกว่า 

                 “เจ็บ เจ็บไหม?” เขาถามและคุกเข่าลงข้างๆหางของเธอที่โดนอวนบาดลึก และเมื่อเอื้อมมือไปจะแตะแผล เงือกสาวนั้นพยายามถดตัวหนีและส่งเสียงร้องแหลมเล็กฟังไม่เป็นภาษามนุษย์ คมมองเห็นฟันซีเล็กๆในปากของเธอเหมือนฟันปลา เธอส่ายหน้าเป็นการส่งสัญญาณว่าอย่าไปแตะแผลของเธอ 

                   “แผลลึกเลยนะเนี่ย ฉันปล่อยเธอไปเธอก็ตายอยู่ดี เธอว่ายน้ำไม่ได้หรอกโดนอวนบาดแบบนี้” เขาพยายามบอกและทำมือทำไม้ชี้ไปที่แผลของเธอ 

                    “เดี๋ยวฉันตัดอวนออกแล้วทำแผลให้ ทนเจ็บนิดนึงนะ” คมบอกและหันไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่เขามีติดเรือออกมา เมื่อเขาหยิบเอากรรไกรขึ้นมา เงือกสาวส่ายหน้าและพยายามถอยหนี เธอกลัวและไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร  

                     “เอาละ เอาละ เรามาทำความรู้จักกันก่อนก็ได้นะ ฉันชื่อคม” เขาชี้ที่ตัวเอง และออกเสียงดังๆ ให้เธอดูปาก 

                    “ฉันชื่อ คม แล้วเธอล่ะ เธอ?” คมชี้ไปที่ตัวเธอ เธอมองดูก็พยักหน้า และออกเสียงภาษาที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน เขาฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ รู้แต่ลงท้ายอะไรอาๆ คมถึงกับกลุ้ม 

                   “ขอโทษนะ ฉันฟังไม่ออกจริงๆ เอางี้” เขามองไปรอบๆและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า พระจันทร์วันเพ็ญยังคงฉายแสงนวล 

                  “ฉันเรียกเธอวันเพ็ญ วันเพ็ญ” คมเน้นปากให้เธอดู และชี้ไปที่ตัวเธอ เงือกสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ เธอฉลาดใช้ได้ 

                  “วาน  เอนนนนน” เธอพยายามเลียนเสียงของเขาอย่างยากลำบาก คมหัวเราะ เธอค่อยผ่อนคลายมากขึ้นและไม่กลัวเขาแล้ว เขาจึงเริ่มเอากรรไกรตัดอวนส่วนที่บาดเข้าไปในหางของเธอ ค่อยๆเลาะมันออก 

                 “อยู่เฉยๆ อย่าดิ้นนะ” เขาทำมือทำไม้ให้เธออยู่นิ่งๆ เงือกน้อยเจ็บแผลเหลือประมาณ ร้องครางอี๊ดๆอย่างน่าเวทนา คมเอายาแดงใส่สำลี พยายามทารอบๆบาดแผลของเธอ แม้ไม่รู้ว่ามันจะรักษาแผลของชาวเงือกได้อย่างมนุษย์ไหม? วันเพ็ญร้องอี๊ดจนตัวงอเมื่อโดนยาแดง  คมอดเจ็บไปด้วยไม่ได้ แต่ก็ต้องฝืนทำแผลต่อ เกล็ดตรงแผลของเธอหลุดลุ่ย  

               “เอาละ ทีนี้ผมต้องตัดอวนออกจากตัววันเพ็ญ” 

 เขาพยุงเธอให้นั่งขึ้นมา โดยมีมือเขาประคองจากด้านหลังค่อยๆตัดเอาอวนที่พันตามตัวเธอ จนเธอออกมาได้ พวกกุ้งที่ติดขึ้นมาด้วยกระโดดดึ๋งดั่งไปรอบๆลำเรือ  แสงจันทร์สาดแสงนวลกระทบร่างขาวเป็นยองใยนั้นดูงดงามไปอีกแบบหนึ่ง  สองร่างนั้นแนบชิดติดกันอยู่บนเรือลำน้อย  ร่างเงือกสาวเมื่อต้องมือมนุษย์ชายหนุ่มคราแรกก็สะเทิ้น และสัญชาตญาณในการสืบพันธุ์โดยมีพระจันทร์วันเพ็ญเป็นตัวขับเคลื่อน ก็ทำหน้าที่ของมัน  โดยไม่รู้ตัว กลิ่นฮอร์โมนที่สาวชาวเงือกปล่อยออกมาใช้เพื่อเรียกคู่ผสมพันธุ์ ฟุ้งตลบไปในอากาศรอบๆ มันยั่วยวนอารมณ์มนุษย์ผู้ชายอย่างคมจนเกินจะต้านทานไหว เพราะวันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง ธรรมชาติกำหนดให้ส่ำสัตว์ทั้งหลายมีหน้าที่สืบเผ่าพงศ์ไปตามสัญชาตญาณที่ติดตัวมา แม้แต่เงือก หรือมนุษย์ก็ไม่พ้นข้อนี้ คมดอมดมกลิ่นหอมเย้ายวนแปลกประหลาดนั้นจากกายของเงือกที่เขาเรียกว่าวันเพ็ญ น่าแปลกเหลือที่แม้ร่างของเธอจะเป็นคนครึ่งปลาและมีเกล็ดขึ้นประปรายตามตัวด้านบน แต่กลิ่นกายกลับไม่มีคาวเหม็นแม้แต่น้อย กลิ่นนั้นกลับกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของเขาอย่างรุนแรงจนไม่อาจอดรนทนอยู่ได้ ทั้งเงือกสาววันเพ็ญเองก็เช่นกัน เพราะทุกวันพระจันทร์เต็มดวง เงือกที่มีระดูแล้วต่างขึ้นมาอาบแสงจันทร์และร้องเพลงเกี้ยวกันเพื่อหาคู่สมสู่ นี่เป็นคืนแรกของหล่อนที่จะมาหาคู่เงือกหนุ่มๆดังเช่นนางเงือกสาวตัวอื่นๆ แต่ทว่าความบังเอิญที่ทำให้เธอว่ายพลัดออกมาจากฝูงและถูกอวนของคมพันเข้ากับตัว 

                  “วันเพ็ญ ตัวหอมจังเลย” คมกระซิบบอกเธอ เงือกสาวสั่นระริก แม้จะไม่เข้าใจภาษาที่เขาพูด แต่ภาษากายนั้นไม่โกหก เมื่อชายหนุ่มเริ่มสูดดมกลิ่นกายหอมรัญจวนจากซอกคอของเธอและปล่อยให้มือของเขาโลมไล้สองเต้าน้อยๆที่เพิ่งแตกพาน มันไม่นวลเนียนเหมือนของมนุษย์ เต็มไปด้วยเกล็ดลื่นๆแต่กลิ่นนั้นกลับเร้าอารมณ์อย่างประหลาด เงือกสาวครางอี๊ดเป็นเสียงแหลมสูงเมื่อถูกคมก้มลงโลมเลียมันอย่างไม่รังเกียจเมือกคาว    

ติดตามผลงานอื่นๆของ Stephan Nai ได้ที่เพจ Monsicha Phongstarnon 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว