ฉันเชื่อว่าในโลกใบนี้มีตัวละครอยู่เพียงแค่สามแบบ คือ

หนึ่ง ... คนที่เกิดมาเพื่อเป็นตัวเอก

สอง ... คนที่เกิดมาเพื่อเป็นเป็นตัวร้าย

และสาม ... คนที่เกิดมาเป็นเพื่อลูกกระจ๊อก

ซึ่งฉันคิดว่าฉันเกิดมาเพื่อเป็นแบบที่สาม คนที่เกิดมาเงียบๆ และจากไปอย่างเงียบๆ ไม่มีผู้ใดกล่าวขานถึง

ครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูกที่อยู่ในความทรงจำของฉันคือความรุนแรง การตบตี และด่าทอแทบทุกเมื่อเชื่อวัน จนมันส่งผลให้เด็กเล็กๆ คนหนึ่งกลายเป็นเด็กเก็บตัว พูดน้อย เข้าสังคมแทบไม่เป็น จนเหมือนเด็กมีปัญหา

และแล้ววันหนึ่งเมื่อถึงการแตกหักพวกเขาต่างคนต่างแยกทาง ต่างมีใหม่ ส่วนฉัน ... ฉันกลายเป็นส่วนเกิน เป็นภาระที่คนทั้งคู่ต่างไม่อยากจะแบกรับ จนในท้ายที่สุด ... ยายจึงรับไปเลี้ยงดูเพราะทนไม่ได้

ชีวิตผู้หญิงแก่ๆ ตัวคนเดียวในวัยที่สมควรจะได้รับการเลี้ยงดูและได้พักผ่อนยังคงต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ด้วยรายได้ที่ไม่ได้มากมายนักและยังต้องเลี้ยงฉันเพิ่มอีกหนึ่งปากจึงอัตคัด แต่ก็ยังพอได้กินได้เรียนหนังสือ แต่แล้วยายที่เป็นเหมือนแสงสว่างเดียวในชีวิตกลับจากไปก่อนฉันจะเรียนจบมัธยมปลายเสียอีก

และแล้ว ... ฉันก็กลับมาตัวคนเดียวอีกครั้ง

แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีที่ฉันเป็นเด็กเรียนเก่งได้ทุนเรียนหนังสือมาโดยตลอด ดังนั้นเรื่องเงินค่าเทอมฉันไม่จำเป็นต้องกังวลใจอะไร ขอแค่เพียงทำงานพิเศษให้เพียงพอต่อค่ากินอยู่ของตัวเองเท่านั้น หากแต่ไม่มีอะไรที่ยั่งยืนเสมอไป เมื่อตอนเข้ามหาวิทยาลัยกลับพลาดเสียได้ แทนที่จะได้ทุนเรียนหนังสือกลับต้องทำเรื่องกู้ยืมเงินเรียกหนังสือแทนและเนื่องจากไม่มีครอบครัวที่จะคอยส่งเสริมเลี้ยงดู การทำงานพิเศษจึงเป็นเรื่องปกติหรือต้องเรียกได้ว่าลำบากจนเป็นเรื่องปกติก็กว่าได้ แต่ก็ไม่เคยมองว่าจุดๆ นั้นเป็นปมด้อยในชีวิต ทำแค่เพียงก้มหน้าก้มตาทำงานเรียนหนังสือไป

จนเรียนจบ ได้บรรจุเข้าทำงาน ฉันก็ยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานพยายามที่จะใช้หนี้การศึกษาและลืมตาอ้าปากให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ทว่า ...

ค่ำคืนหนึ่งท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำ ฉันที่ยืนรอสัญญาณไฟข้ามถนนอยู่นั้นกลับถูกต้องกระบะวิ่งฝ่าไฟแดงมาชนอย่างแรงจนลอยกระเด็นข้ามไปไกล

เจ็บ!

ใครว่ามันจะรู้สึกชาหนึบก่อนจะเจ็บนั้นไม่จริงเลยสักนิด มันเจ็บจนชาจนไม่รับรู้ความรู้สึกอย่างอื่นแล้วต่างหาก รูปแขนขาที่บิดเบี้ยวผิดรูปไปจากเดิม เลือดที่กำลังไหลริน เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายรอบตัวไม่ได้ช่วยกระตุ้นการรับรู้ของฉันเลยสักนิด

สายตากลับเหม่อมองออกไปไกลแสนไกลเลยข้ามเสาไฟนีออนริมถนน ผ่านยอดตึกสูงระฟ้า จับจ้องความมืดมิดอนธการ สงสัยในชีวิตที่เลยผ่านมาของตัวฉันและร่ำร้อง

‘ฉันยังไม่อยากตาย ฉันยังมีชีวิตอยู่ ยังอยากที่จะใช้ชีวิตนี้ต่อไป’

ในสมองร่ำร้องแต่เพียงเท่านี้ ก่อนที่ทุกๆ อย่างค่อยๆ จางหายและมืดมิดลง

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว