บทนำ น้องคนเล็ก
“พี่พฤกษ์ รอภูด้วย”
เสียงเด็กน้อยร้องเรียกพี่ชายคนโตกับคนรอง ที่วิ่งหายเข้าไปในสวนผลไม้ของคุณย่า ดวงตาเอ่อน้ำของน้องคนเล็กวัยเจ็ดขวบกวาดสายตามองหา ไม่มีวี่แววที่จะวิ่งตามทันเสียแล้ว
“หายไปไหนแล้ว...”
สองเท้าพาตัวหมุนกลับ ขาเล็กๆพยายามก้าวขาสูงๆข้ามใบแห้งของต้นกล้วยที่คนงานตัดไว้
“กลับไปหาคุณย่าดีกว่า อ้ะ โอ้ย!”
ปากเล็กๆส่งเสียงร้องเมื่อขาสะดุดเข้ากับก้านกล้วยแห้งๆที่รอการเก็บกวาด น้ำตาที่เอ่อไหลผ่านแก้มขาว สองมือพยายามยันตัวลุกขึ้น
เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นมือใครคนนึงยื่นมาจับช่วยพยุงให้ลุกขึ้นได้ สองมือช่วยปัดเศษดินเศษหญ้าออกจากเสื้อผ้าให้
“เป็นอะไรหรือเปล่า? จะไปหาคุณย่าใช่ไหม?”
“มา...ขี่หลังพี่ เดี๋ยวพี่พาไปนะ”
คนพี่หมุนตัวหันหลังให้น้อง ส่วนคนน้องก็ขยับตัวก้าวขึ้นหลังแบบงงๆ ก่อนที่คนพี่จะขยับตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเกินมาตรฐานของเด็กชายวัยสิบสองปี
“พี่...พี่...”
หน้าคมเข้มที่ได้รับมรดกมาจากคุณปู่เหลียวมาหาเสียงเรียกคนอยู่บนหลัง
“พี่...ชื่ออะไร?”
“กรณ์ พี่ชื่อกรณ์”
“พร้อมหรือยัง ไปละนะ”
“ภู เป็นอะไรไปลูก”
อรดี สะใภ้คนเดียวแห่ง `บ้านสวนพฤกษพานิช’ เอ่ยถามลูกชายคนเล็ก ขณะลุกไปช่วยประคองคนมีน้ำตาลงจากหลัง
“หกล้มครับ แต่ไม่เป็นอะไรครับ”
เด็กชายวัยสิบสองปีตอบคำถามแทน ค่อยๆย่อให้คนตัวเล็กลงจากหลัง เอื้อมมือไปหยิบใบไม้แห้งที่ยังติดอยู่กับกางเกงออกให้
“วิ่งไม่ทันเจ้าพฤกษ์ เจ้าผา ตามเคย”
คุณย่าอารีย์ผู้เป็นเจ้าของบ้านเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู
“คนนี้น้องสุดใช่ไหม ชื่ออะไรนะเจ้าแฝดคนน้องนี้”
“พันภูค่ะ คุณพี่”
เธอตอบหญิงชรารุ่นพี่ ที่ตอนนี้มีหลานชายวัยสิบสองปีเดินมานั่งอยู่ข้างๆ หลายชายคนเดียวที่กำลังจะถูกส่งไปเรียนต่อในโรงเรียนประจำที่ประเทศอังกฤษ และวันนี้พามากราบลาเธอ
คุณย่ากานดา แม้จะดูชราในวัยสูงอายุ แต่ความสง่าน่าเกรงขามยังมีเค้าอยู่บนใบหน้า วางมือลงลูบหัวหลานชายเบาๆ พร้อมรอยยิ้มที่ส่งไปให้เด็กเจ้าน้ำตาที่นั่งตรงข้าม
“อืม...หนักแน่นมั่นคงดีนะ ร้อยผา กับ พันภู”