“หากโลกามิปรากฏร่างหญิงชาย นภากว้างอ้างว้างไซร้ไร้แสงสี ไร้ตะวันจันทร์จรัสรัชนี นรกสวรรค์ปฐพีเปลี่ยวร้างพลัน”

“หากโลกามิปรากฏร่างหญิงชาย 

นภากว้างอ้างว้างไซร้ไร้แสงสี 

ไร้ตะวันจันทร์จรัสรัชนี 

นรกสวรรค์ปฐพีเปลี่ยวร้างพลัน” 

 

สองปีก่อน บิดาพานางมาพบกับนางชีผู้นี้ หลังจากที่นางยืนกรานว่าอยากจะแก้แค้นให้มารดา และทำให้ฆาตกรชั่วได้รับความเจ็บปวดจากการสูญเสียผู้เป็นที่รัก เหมือนที่มันได้ทำกับครอบครัวของนาง 

และพลินี ก็เคยเป็นเหยื่อของฆาตรกรชั่วคนเดียวกัน... 

“จำไว้ว่า ความสวยงามบนใบหน้าเป็นเพียงเหยื่อล่อให้บุรุษก้าวเข้าสู่ห้องนอน แต่เรือนร่างที่เปี่ยมล้นเสน่ห์และมารยาสาไถแห่งกามมารมณ์ คืออาวุธอันเป็นกลเม็ดเด็ดพรายที่มัดใจชายให้หลงใหล”  

พลินีถามหญิงสาวอีกว่า 

“เจ้าเคยได้ยินเรื่องราวของราชินีคลีโอพัตราหรือไม่?” 

“ราชินีคลีโอพัตราเป็นหญิงงามที่เก่งกาจด้านกามา วีรบุรุษที่สามารถเลือกสาวงามจากจักรวรรดิใดก็ได้ในครึ่งซีกโลก อย่าง จูเลียส ซีซาร์ หรือ มาร์ก แอนโทนี ต่างลุ่มหลงพระนางอย่างหัวปักหัวปำ กระทั่งแลกยอมสละชีวิต...” 

แอนนาอีสมองสบตานางชีผู้สง่างาม  

“ถูกต้อง” 

“บุรุษที่ยืนอยู่เหนือผู้คนเหล่านั้น ย่อมมิใช่ลาโง่ เด็กสาวธรรมดาที่อ่อนต่อโลกอย่างข้า จะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับราชินีคลีโอพัตราได้อย่างไร”   

“ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ยกเว้นสันดานมนุษย์ จุดอ่อนของบุรุษผู้มีอำนาจคือความลุ่มหลง” 

“ความลุ่มหลง?” แอนนาอีสกล่าวตามประโยคสุดท้าย 

“ในตำราเสพกามาที่ถูกเขียนโดยนักบวชหญิงระดับสูงสุดแห่งยุคบรอนซ์ กล่าวว่า ธรรมชาติของบุรุษทุกผู้ทุกนามล้วนปรารถนาสตรีร่านราคะที่เชี่ยวชำนาญกามา หากอัตตาในกมลสันดานขัดแย้งความต้องการทางธรรมชาติ  

พวกเขายกย่องบูชาหญิงสาวพรหมจรรย์ไร้บาป แต่กลับหมกมุ่นในสรีระเนื้อหนังมังสา เที่ยวเสาะแสวงหาโอษฐกามและหว่างขาที่อ้าโอบรับน้ำรัก ซึ่งพวกเขาถะถั่งออกมายามสำเร็จความใคร่ 

แท้จริง... กลเม็ดเด็ดพรายที่ใช้มัดใจบุรุษคือการเสแสร้งว่าไม่ประสีประสา แลปรนนิบัติเอาใจทำให้พวกเขาฮึกเหิมในความเป็นชาย ด้วยมารยาสาไถแห่งกามารมณ์อันแยบยล...” 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว