15+ The revenge of the brotherhood
42
ตอน
11.7K
เข้าชม
76
ถูกใจ
1
ความคิดเห็น
22
เพิ่มลงคลัง

1.0 The revenge of Brotherhood 

สงครามหุ่นยนต์รบพลังแค้น ฉันไม่ตาย เราสู้ตาย 

บทนำ 

หลังจากที่สงครามครั้งใหญ่จบลงไปเกือบ100ปี แต่ละประเทศต่างคิดค้นอาวุธใหม่ขึ้นเพื่อป้องกันประเทศของตน บางชาติก็ยังคงซื้อและใช้อาวุธและยุทโธปกรณ์จากประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งในขณะนั้นบางประเทศก็ยังคงใช้รถถังสมัยสงครามโลกและรุ่นเก่า แต่แล้ว เมื่อถึงยามที่ทรัพยากรมีจำนวนที่จำกัด บวกกับจำนวนประชากรโลกที่เยอะเกินไป จนไม่สามารถผลิตอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้ไม่มากนัก ทั่วโลกจึงเริ่มการพัฒนาที่ไม่มีใครคิดว่าสามารถทำได้ เวลาต่อมา มีเพียงไม่กี่ชาติ ที่ประสบความสำเร็จในโครงการพัฒนา ด้วยทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด 

'หุ่นยนต์รบ' 

หลายชาติจึงตั้งหน้าตั้งตาเร่งพัฒนาตามๆกัน เพื่อให้มีอาวุธสำหรับป้องกันประเทศของตนภายใต้ทรัพยากรอันน้อยนิดที่เหลืออยู่บนโลก ซึ่งจนแล้วจนรอดก็หนีไม่พ้นการจารกรรมและขโมยข้อมูล จึงเกิดสงครามขึ้นแบบลับๆ จนรุนแรงขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ต่างฝ่ายก็ต่างพยายามปิดข่าว ไม่ให้แพร่กระจายออกไปเพื่อไม่ให้ทั่วโลกแตกตื่น แต่อีกไม่นาน มันจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป.. 

"ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ด!! ตุ้บๆๆๆๆๆๆๆๆ" สิ่งต่อมาหลังจากที่หุ่นยนต์รบลำแรกถูกพัฒนาและทดสอบสมรรถภาพและขีดจำกัดในการรบสำเร็จ คือการจัดตั้งหน่วยหุ่นยนต์รบขึ้น ที่ขึ้นตรงกับทั้งกองทัพบก กองทัพอากาศ และกองทัพเรือ ทั้งโลกพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้หุ่นยนต์รบสามารถใช้งานได้จริง และมีประสิทธิภาพ ทุกประเทศเริ่มการฝึกหน่วยทหารหุ่นยนต์รบ ตามในแบบของใครของมัน 

. 

. 

. 

. 

"Viper-76 Viper-76 นี่คือCenturion-76ฟังอยู่หรือเปล่า?สถานการณ์เป็นอย่างไร ตอบด้วย เปลี่ยน.. แซ่ด..." อาวุธที่ถูกติดตั้งบนหุ่นยนต์รบ1ลำ ก็สามารถถล่มเมืองเล็กๆ1เมืองได้แบบสบายๆ น้อยคนที่จะรู้ว่าอำนาจในการทำลายล้างของมันสูงแค่ไหน ในระหว่างนี้ สงครามทุกอย่าง เกิดขึ้นแบบคลื่นใต้น้ำ รอเวลาที่จะเป็นสึนามิขนาดใหญ่พร้อมจะซัดเข้าชายฝั่ง 

23พฤษภาคม2033 

1955Hrs 

ชายแดนโปแลนด์-รัสเซีย ห่างจากคาลินินกราด 35 กิโลเมตร SE 

หน่วยViper-76 

ภารกิจทิ้งระเบิดที่รัสเซีย 

"ฟิ้ว! ฟุ้บๆๆๆ!" หุ่นยนต์รบทั้ง12ลำ ถูกส่งเข้าแนวรบเมื่อทราบข่าวหลังที่รัสเซียได้ลักลอบส่งผู้ก่อการร้าย20คน เข้าระเบิดพลีชีพที่โปแลนด์ แต่ยังดีที่ทหารโปแลนด์ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ และได้ขอให้กองทัพเยอรมันเข้าช่วยเหลือ 

"ได้ยินแล้วCenturion-76นี่คือViper-76อีกประมาณ8นาทีน่าจะถึงพื้นที่เป้าหมายแล้ว แซ่ด" หน่วยViper-76ประจำกองพันหุ่นยนต์รบที่76แวร์ไทม์ เยอรมัน หน่วยนี้ในบทบาทตั้งแต่ช่วงปี2025ถือว่าเป็นสุดยอดหน่วยหุ่นยนต์รบที่ดีที่สุด ในเยอรมัน และติดอันดับที่35ของหน่วยหุ่นยนต์ที่ประสิทธิภาพสูงที่สุดในเยอรมัน ด้วยหุ่นยนต์รบที่ไม่ค่อยนิยมนักถูกนำมาใช้งานในกองพันนี้ แต่ด้วยการฝึกที่ค่อนข้างสมจริง และเข้มข้น ทำให้เขามีชื่อเสียงมากๆ 

"คิดว่าพวกนายควรจะบินขึ้นไปที่ความสูง3800เมตรนะ" Centurion-76 จากกองพันเดียวกัน มีหน้าที่ก็เพียงแต่เฝ้าระวัง ให้พระเอกของกองพันบินไปสวยๆหล่อๆ 

"พูดมากน่าศูนย์ ผมได้ข้อมูลมาแล้วนะ พวกนั้นมีแค่SAMเองนะ อีก1นาทีเราจะทำเริ่มการรบกวนสัญญาณเรดาร์ของข้าศึก" แม้ว่าฝีมือจะดี แต่วินัยทหารก็ยังหย่อนยานอยู่บ้าง ฟริทซ์ มาวาเรซ มือดีประจำหน่วย ได้กล่าวต่อว่าศูนย์ ชายหนุ่มร่างสูงผิวคล้ำแบบชาวยุโรปที่ทำงานหนัก หุ่นบึกบึน มีผมสีดำขลับทรงอันเดอร์คัท ตาสีฟ้า ที่ใส่เครื่องแบบเป็นชุดหนังที่ระบุหน่วยViper-76 คนๆนี้ คือบุคคลอันตรายที่ถูกหมายหัวโดยข้าศึก ด้วยค่าหัว 1แสนเหรียญสหรัฐฯ 

"ก็เพราะSAMนั่นแหละ แล้วนายจะบินต่ำบ้าๆแบบนั้นเพื่อหลบจรวดมิสไซล์ที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับไหมล่ะ?” ศูนย์ฯถามฟริทซ์กลับแบบหงุดหงิด 

"ติ๊ดๆๆ....ทามอฟ แอนนา ฟริทซ์ ฟังให้ดีนะ นี่ไม่ใช่แบบที่เราเจอในโรม หรือทะเลเหนือ มันหนักกว่านั้น เราเข้าใกล้พื้นที่มากขึ้นแล้ว เริ่มทำการรบกวนได้ รองหัวหน้า" หุ่นยนต์พวกนี้ทำความเร็วได้สูงสุดที่620กม./ชม. หรือมากกว่านั้น ใช้เชื้อเพลิงชนิดทนทานจุดหลอมเหลวสูง ระบบคอมพิวเตอร์ขั้นสูง ใช้คนบังคับควบคุม และแน่นอน พวกมันสวมใส่อาวุธได้ ไวเปอร์ผู้พูดคนนี้ ที่มีผมสีส้มทรงลองทรงต่ำ ไว้หนวดที่ริมฝีปากบน เขาคือผู้หมวดประจำหน่วยรบพิเศษนี้ และแน่นอน ฟริทซ์คือรองหัวหน้า 

"รู้อยู่น่า ผู้หมวดไวเปอร์ ปิ๊บๆ อีก5กิโลเมตร ถึงจุดทิ้งระเบิดครับ" ตอนนี้พวกเขาบินอยู่ในระดับความเร็ว ที่ 500กม./ชม. ทามอฟ นักบินมือฉมังจากโปแลนด์ เขามีเซนเซอร์ตรวจจับทุกอย่าง และยิงปืนบนหุ่นยนต์แม่นสุดๆ แต่ละคนในกองพันนี้ใส่อุปกรณ์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากตอนนี้พวกเขาขาดแคลนยุทธปัจจัย สิ่งที่ทำได้คือการหาอย่างอื่นมาใส่แทน 

"ถ้างานนี้สำเร็จนะ ฉันจะทุ่มเงินในกระเป๋าเลี้ยงพวกนาย และคนในกองร้อยแบบเต็มอิ่มไปเลย" ร้อยโทไวเปอร์ยิ้ม พลางตอบกลับทุกคนในหน่วย 

"แข่งกันซดเบียร์กับผมดีกว่า ใครเมาก่อนคนนั้นออกเงิน ใครไม่เมาค่อยลุยได้เรื่อยๆ อย่างนี้สิค่อยสะใจ หมวด" ฟริทซ์ชื่นชอบเบียร์อยู่แล้ว ด้วยความคิดที่ว่ามันถูกกว่าน้ำเปล่า 

"ฮ่าๆๆๆ เดี๋ยวนายก็รู้กัน ฟริทซ์ ฉันกินนายจ่าย" พวกเขายังคงพูดหยอกกันแบบสนุกๆ 

"ผิดแล้วๆ หมวดจ่ายผมกิน จัดหนักแน่นอน" เพราะพวกเขาเก่งพอที่จะคุยไปยิงไปได้ 

"แซ่ดๆๆ...พวกนายหยุดคุยกันก่อน!" มีคนในหน่วยพบข้อผิดปกติบางอย่างเข้าแล้ว 

"พบอะไรผิดปกติ? ทามอฟ?" หัวหน้าหน่วยถามชายชาวโปแลนด์สกินเฮดคนนี้ที่มองไปยังจอเรดาห์ดัดแปลงของเขา 

"ติ๊ดๆๆ....3500 เมตร..หมวด เราอยู่ในความสูงเท่าไหร่ ผมว่าพวกมันน่าจะรู้ตำแหน่งของพวกเราแล้วนะ" หุ่นยนต์ของทามอฟแม้จะมีประสิทธิภาพสูงอันดับ3ในกองพัน แต่ไม่ใช่ว่าจะมีครบ ทุกอย่าง แอนนามีปืน12.7มม. 4กระบอก เรดาร์ วิทยุดักฟัง แต่ไม่มีระบบระบุพิกัด เพราะหุ่นยนต์ ในหน่วยนี้มักจะดัดแปลงกันเอง โดยใช้แค่ส่วนเฉพาะจุด ไม่ใช่ทั้งหมด อย่างที่บอก กองพันนี้ขาดแคลนอุปกรณ์ที่เหมาะสม 

"เราอยู่ในความสูง3672เมตร" เครื่องวัดความสูงของทามอฟ ก็แม่นยำที่สุดในหน่วย เพียงแต่มันเสีย 

"มันหมายถึงพวกเรา.....แซ่ด และพวกมันก็รู้ว่าเรากำลังดักฟังมันด้วย" พวกเขาถูกตรวจจับเข้าแล้ว 

"เราบินในขบวนตรงสินะ จัดขบวน Swan ฟริทซ์ปีกขวา ทามอฟปีกซ้าย ไป!" คือรูปขบวนรูปหงส์นั่นเอง โดยที่ผู้ฝูงจะบินไปอยู่ข้างหน้าสุด และจะมีอีก2ลำคอยบินตามหลังผู้ฝูงอยู่ทางปีกขวา 

"ฟิ้ว....." หัวหน้าไวเปอร์ลดความเร็วอยู่ที่450แล้วรีบจัดขบวนกัน....และพวกเขาทำได้ภายในเวลา1วินาที 

"เร่งความเร็ว550" 

"ฟี่ๆๆๆ....ฟู่ววววว"เครื่องยนต์ของหุ่นยนต์รบเหล่านี้เป็น เป็นเครื่องยนต์ชนิดไอพ่น 

"ขบวนสวยงามมาก มากกว่าที่ซ้อมรบในฮันโนเวอร์อีก ฮ่าๆๆๆ เธอว่ามั้ย แอนนา เคธ"ฟริทซ์ก็ยังไม่หยุดพล่าม พลางคุยเล่นกับสาวๆในหน่วย 

"ฉันเคธธี่ย่ะ!! เรียกชื่อใครกรุณาเรียกเต็มๆด้วย" ชาวต่างชาติบางคนจะถือเรื่องชื่อ หากไม่ได้สนิทกันจริงๆ จะเรียกชื่อจริงหรือชื่อจริงแบบย่อไม่ได้ ส่วนสาวผมบลอนด์ดัดลอนนามว่าแอนนานิ่งเงียบไม่พูดอะไร พลางตั้งสมาธิไปยังบนฟ้าสีส้มอ่อนที่กำลังเข้มขึ้นเรื่อยๆ 

"จ้าๆๆๆ เคธธี่" แต่ฟริทซ์สนิทกับเคธธี่มาแล้ว5ปี มันไมแฟร์เลย 

"พบอะไรอีกรึเปล่า? ทามอฟ?" ผู้หมวดถามทามอฟอีกครั้ง 

"ไม่พบแล้ว มองยากมากเลยครับ ผู้หมวดไวเปอร์" ทามอฟรายงานให้ผู้หมวดไวเปอร์ทราบ 

"เคธ ตาเธอแล้ว ใช้กล้องตรวจจับความร้อน" ผู้หมวดไวเปอร์สั่งเคธธี่ ที่มีกล้องตรวจจับความร้อน 

"รับทราบค่ะ หัวหน้า~" เคธนั้นดีกับผู้หมวดมาก ต่างจากฟริทซ์ที่คอยแหย่เธอมา5ปี 

"ยัยเคธลำเอียง ให้หัวหน้าเรียก" ฟริทซ์เซ็ง มือของเขาคอยกดปุ่มควบคุมต่างๆระหว่างบิน 

"จริงจังทุกคน..." ถึงเวลาตึงเครียดแล้ว คงหาเสียงหัวเราะจากมุขตลกฝืดๆไม่ได้แล้วในขณะนี้ 

"เข้าเขตเป้าหมายทางทหารของข้าศึกแล้ว" แอนนาแจ้งผู้หมวดไวเปอร์ 

"ใจเย็นๆน่า ผมว่ามันคงยิงไม่ถึงระยะของเรา....ปุ้งๆ!! ตุ้ม!" ยังพูดไม่ทันขาดคำ สิ่งที่ถูกกล่าวถึง ก็ได้ระเบิดใกล้ๆกับหุ่นยนต์ของทามอฟ ระบบป้องกันภัยทางอากาศของข้าศึกตรวจพบพวกเขาแล้ว 

"ไอ้เวร? ไหนบอกไม่ถึง?? บินขึ้นไปที่5000เมตร!" ร้อยโทไวเปอร์สบถ กลุ่มกระสุนแตกอากาศลอยขึ้นมายังน่านฟ้าที่พวกเขาบินอยู่ 

"ก็บอกแล้วไงว่าให้บินสูงๆ เป็นแบบนี้เดี๋ยวก็ได้ตายยกฝูงกันพอดี ปุ้ง!!" ศูนย์ซ้ำเติม และมีกระสุนนัดหนึ่งถูกที่ฟริทซ์จนเสียหาย 

"ตอนนี้ถังออกซิเจนผมมีรอยรั่ว เครื่องรบกวนสัญญาณพังไปแล้ว ผมบินได้ไม่ถึง5000หรอก" ยิ่งบินสูง ก็ยิ่งหายใจได้ลำบาก ฟริทซ์รายงานความเสียหาย 

"4500ล่ะ?" ผู้หมวดถามอีกครั้ง 

"ได้สุดๆก็ตรงนี้ล่ะครับ...ปุ้ง! เราต้องเปลี่ยนแผนเป็นการดำดิ่ง" นั่นเข้าทางฟริทซ์ เขาถนัดการบินแบบนี้ที่สุด 

"....บ้าที่สุด เราจะแบ่งเป็นสองทีม ฟริทซ์ นายนำการดำดิ่งได้ ส่วนฉันจะล่อปืนคนเดียวเอง! อย่าเพิ่งปล่อยแฟลร์จนกว่าจะถูกSAMล็อคเป้า" ไวเปอร์พยายามบินต่ำลงให้ปืนใหญ่เห็นเขาได้ง่ายขึ้น พวกนั้นจะได้ยิงใส่แต่เขา ฟริทซ์ทำการนำแทน 10ลำที่เหลือบินตามพวกเขา  

"แต่หมวด?" ฟริทซ์คิดว่าไม่ดีแน่ แต่... 

"เอาน่า แยกเลย!" หัวหน้าหน่วยตบไปที่หน้าผากตัวเอง1ที แล้วสั่งการต่อ(หมวกนักบิน) 

"ฟ่าววววว..." ทั้งหมดทำตามแผนที่วางไว้ 

"ฟุ่บๆๆๆ...." กระสุนเหล่านั้นแล่นผ่านพวกเขาไปแบบเฉียดๆ 

"ปุ้งๆๆๆ.....ปุ้บ!" และตามที่คาดไว้ ปืนทั้งหมดเล็งไปที่หัวหน้าหมวด ที่เสี่ยงตัวเพื่อให้ลูกทีมรอด 

"แป๊ง!! ติ๊ดๆ เกราะเครื่องยนต์เสียหายปานกลาง" หุ่นยนต์รบทุกลำก็มีระบบแจ้งเตือนโดนบ่งบอกส่วนที่เสียหายด้วยเสียง หรือบางทีอาจจะเป็นแค่ไฟเตือน ผู้หมวดถูกยิงโดยกระสุนแตกอากาศ 

"ดีกว่าโดนปีกล่ะน่า!" หุ่นยนต์รบที่มีระเบิดนั้นทั้ง10ลำ ตอนนี้เตรียมพร้อมที่จะดิ่งลงไปทิ้งระเบิดแล้ว 

"ฟุ้บ.....ปุ้งๆๆๆๆ" ไวเปอร์ทำมุม30องศา ทิ้งดิ่งลงไปหาพวกนั้น เพื่อดึงดูดความสนใจของศัตรูไม่ให้ไปหาทีมทิ้งระเบิด ขณะที่ทีมของฟริทซ์ดิ่งหัวปักพื้น และใกล้จะทิ้งระเบิดแล้ว 

"เฮ้!? หมวด!? ทำอะไรน่ะ!?" ในระดับความสูงต่ำกว่า2900 เมตร เขากำลังถูกล่า 

"เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆ....เป้งๆๆๆ.....เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.....ปุ้ง!!" กระสุนนั้น กระแทกไปที่ใต้ท้องหุ่นยนต์เต็มๆ พวกนั้นเปลี่ยนเป้าหมายมาหาทีมของฟริทซ์แทน 

"จากปีกขวา! ทามอฟถูกยิง" เสียงยิงที่รวดเร็วปานนั้น คงไม่ใช่ปืนใหญ่เป็นแน่ 

"อากาศยานข้าศึก! ทิ้งระเบิดได้ แซ่ดๆๆๆ...." และตรงใต้ท้อง คือที่เก็บแบตเตอรี่ แต่เหมือนว่าพวกเขากำลังตกเป็นเป้าแทน 

"ทามอฟ ทามอฟ!?.....บึ้ม!!" ประจุไฟฟ้าเหล่านั้นรั่วออกมาจนไปช็อตกับถังน้ำมันที่อยู่ตรงปีก ระเบิดไปในที่สุด ประกายไฟจากหุ่นยนต์รบของเขา ทำให้หุ่นยนต์รบอีก11ลำที่เหลือถูกตรวจพบในระดัยสายตาทันที 

"ทิ้งระเบิด ทิ้งระเบิด!" พาร์คเกอร์ที่บินตามหลังฟริทซ์โวยวาย แต่ทว่าวิทยุของเขาทุกคนถูกรบกวน 

"ยูเครนมีปืน85มม." กองทัพยูเครนอาสามาเอง 

"ตรวจจับได้1หน่วย! หุ่นยนต์รบ12ลำ!" ในระดับความสูง1500เมตร พวกเขาตัดสินใจทิ้งระเบิดทั้งหมด ตามที่พวกเขาได้ฝึกซ้อมกันมา 

"โยฮัน! ยิงเลย!" และเมื่อเขาตามทัน ฟริทซ์สั่งยิง 

"ครับท่าน! กริ๊ก! ปุ้ง!!" ทั้งปีกขวาและซ้ายมีปืนกล12.7มม. ปืนใหญ่20มม.และปืนขนาด88มม.(มีแค่ฟริทซ์และทามอฟ) ส่วนไวเปอร์มีปืนใหญ่20มม.และ37มม. 

"ฟิ้วๆๆๆๆ....พวกมันบินผ่านไป!" มีแค่หุ่นยนต์ของฟริทซ์ที่ดัดแปลงทุกอย่าง ต่างจากหุ่นยนต์ของคนอื่นที่ดัดแปลงเฉพาะส่วน 

"บึ้มๆๆ!!" การติดต่อสื่อสารกลับมาทันทีเมื่อระเบิดถึงเป้าหมาย 

"ระเบิดปล่อยไปแล้ว! เริ่มทำการโจมตีตอบโต้" 

"ปุ้งๆๆๆ...." พวกเขาเริ่มปะทะกันแล้ว ผู้หมวดบินกลับเข้ามาในจุดปะทะ และทำการต่อสู้กับอากาศยานข้าศึก 11 ต่อ 12 

"ปุ้งๆๆๆ! เพล้ง! ฟู่...." เคธธี่ถูกปืนต่อต้านอากาศยานยิงจนเกราะกับกระจกแตก 

"แค่กๆๆ....กึกๆๆๆ" แน่นอนว่าถังอ็อกซิเจนก็เสียหายตามไปด้วย เธอหายใจไม่ออก และเลือดก็ไหลท่วมหัวเธอ 

"เคธ!? ปั้งๆๆๆๆๆๆ.....เปรี้ยงๆๆๆ.....เป้งๆๆๆ" ปีกขวาของไวเปอร์เสียหายเล็กน้อยจากการที่ถูกหุ่นยนต์รบยูเครนไล่ยิง ในตอนนี้อยู่ที่10 ต่อ 12แล้ว 

"ค่อกๆ...แอ่ก....เฮือกกกก" เคธธี่ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะขาดอากาศหายใจ เธอเริ่มหน้ามืดและควบคุมหุ่นยนต์ไม่อยู่  

"Centurion-76นี่คือViper-76ต้องการกำลังเสริม! พิกัดEmil König57281.233พื้นที่ของภารกิจM" ไวเปอร์รู้ตัวว่าไม่ไหวแล้ว จึงขอการช่วยเหลือ 

"แซ่ดๆๆ....Viper-76 เราไม่สามารถส่งทีมไปช่วยเหลือคุณได้ ให้พวกคุณช่วยเหลือตัวเอง ถ้านายเก่งพอ นายพาลูกทีมกลับมาให้ครบ จบ...แซ่ด" ไวเปอร์ตกใจมากที่ไม่มีใครสามารถมาช่วยเขาได้ และมีศัตรูอยู่ข้างหลังเขา 

"แซ่ดๆ เฮ้?" เขาถูกตัดขาดแล้วพวกเขาทั้งหน่วย 

"ปุ้ง..ปุ้ง..ปุ้ง...ปุ้ง..กิ๊กๆ...ปืนฉันติด!" ปืน37มม.นั้นร้อนไวมาก บวกกับแอนนาชอบกดไกปืนแน่นเกินไป 

"ใจเย็นๆ ทุกคน เราหาทางกลับกันได้ ฟุ้บ!?" พวกเขาสู้รบกัน แม้จะถูกทอดทิ้ง แต่พวกเขาต้องรอดให้ได้ ฟริทซ์บินโฉบผ่านไวเปอร์ไปและหาเป้าหมายต่อไป 

"ฟริทซ์ จะไปไหน?" 

"จึก...ฟิ่บ...ฟุ้วววว" เขาปิดระบบเสียงและเปิดเฉพาะไวเปอร์ ฟริทซ์เขากำลังคิดทำอะไรบางอย่าง เพราะเขาเบี่ยงออกไปจากฝูงและต่อสู้ ในฉบับที่เขาถนัดมากที่สุด 

"เป้งๆๆๆ ปุ้บๆ ปุ้ง!!....บรึ้ม!" เป้าบนศูนย์เล็งของฟริทซ์ถูกทำลายทันทีเมื่อเขาถูกกระสุนหัวระเบิดของปืน88มม. ในตอนนี้ แต่ละฝ่ายอยู่ที่ 10 ต่อ 11 แล้ว 

"HVAP!...ก๊องๆ....กรึก!" คือกระสุนเจาะเกราะความเร็วสูง ที่ใช้ยิงเครื่องบินโดยเฉพาะ 

"ฟิ้ว...ฟริทซ์ นายบ้าไปแล้วหรือไง!?" หุ่นยนต์ของเขาหนักถึง13ตัน(รวมปืนที่หนัก4ตัน) ใส่ได้อยู่แล้ว 

"ฟิ่วววว...ฟี่ๆๆๆ" เขาเร่งเครื่องยนต์จนร้อนเต็มที่ ในขณะที่ทุกคนเริ่มต่อสู้กันแบบการรบติดพัน 

"อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ หมวด" สู้เขา ฟริทซ์ 

"ติ๊ด...ระดับความร้อนของเครื่องยนต์700องศาเซลเซียส" ในขณะที่เครื่องยนต์ของฟริทซ์ทนได้แค่ 

750 

"บึ้ม!!" การชุลมุนทำให้พวกเขาอยู่ที่ 10 ต่อ 8 แต่นักบินข้าศึกก็ไม่ใช่มือใหม่แต่อย่างใด 

"ย่าาาาา....กริ๊ก....ปุ้ง!!" เธอใช้แอร์เบรค หันหลังกลับ แล้วยิง แรงถีบกลับของปืนใหญ่ทำให้เธอไม่เสียความเร็วระหว่างถอย แล้วกลับลำบินได้ต่อ 10 ต่อ 7 

"....." ไวเปอร์ไม่เข้าใจฟริทซ์ 

"อย่าให้พวกมันจ่อท้ายเราได้ ไม่ชอบหน้าลำไหนก็อัดมันซะ!" คำสั่งต่อไปของไวเปอร์มาแล้ว 

"ฟู่วววววว" 

"มาวาริค! ฉันติดต่อฟริทซ์ไม่ได้!" แอนนามองหุ่นยนต์ที่แปลกประหลาดกว่าใครเพื่อนแล้วพยายามหลบหลีกเป้าปืนของข้าศึกทางด้านหลัง 

"ถึงเวลานี้! ฮึก!? ฉันไม่ใช่ตัวซวยเว่ย!....กริ๊ก แตกอากาศ กับ HVAP 

สลับกัน!....เคร้งๆ...ครึก!" ระบบป้อนกระสุนแบบรางรุ่นใหม่ ทำให้การบรรจุนั้น เร็วขึ้น และสามารถสั่งการด้วยเสียงได้ 9 ค่อ 7 

"ข้าศึกเหลือ 7เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆ เป้งๆๆ ปั้กๆๆๆๆ" ไวเปอร์คิดในใจ แต่คนที่ถูกยิงคือ มาวาริค 

"มาวาริค!?" ไวเปอร์เห็นมาวาริคที่ถูกยิง หุ่นยนต์รบของมาวาริค มัวร์ ไฟลุกพรึ่บขึ้นมา ทำให้เขาเริ่มรู้สึกแย่ลง 

"ผมโอเค หมวด! บินกลับไป! แป๊งๆๆๆ" ข้าศึกพุ่งเป้าไปที่ฟริทซ์แล้ว เหลือเพียงสองลำที่ยังโจมตีขบวนหลัก 

"เป้งๆๆ แฟ่ดๆๆๆๆๆ.......ฟู่" มาวาริคใช้เชื้อเพลิงผิดมาตรฐาน เข้าใช้แก๊สโซฮอล์110 ที่มีความไวไฟสูง บวกกับไอน้ำมันที่เกาะตามส่วนเครื่องยนต์ ตอนนี้เครื่องยนต์ทั้ง2ของเขาไฟลุก เขาก็ไม่ต่างอะไรจากถังเชื้อเพลิงบินได้ และก็ร่วงลงไปในที่สุด 

"ฟุ่บ.....ปึ้ง!!....ปึ้ง!" แอนนาไม่มีอาวุธเหลือแล้ว เลยต้องใช้ปีกชนปีก แอนนาทำสำเร็จ แต่ตัวเธอนั้นยังบินได้อยู่ 1ลำที่ไล่ตามเธอ 

"ปั้งๆๆๆ....เป้งๆๆ!" และก็ยิงใส่เธอ ถูกบ้างพลาดบ้าง แต่เธอก็ถูกกระสุนเข้าที่กลางลำตัว เสียชีวิตคาค็อคพิท ฟริทซ์มองคู่รักของตัวเองลุกเป็นไฟต่อหน้าต่อตา ข้าศึกเริ่มกระจายตามท้ายของฟริทซ์ 1 กิโลเมตร  

"ขอโทษนะ....กริ๊งๆ!" สร้อยคอของแอนนา ที่เธอให้ฟริทซ์มา สั่นไหวตามแรงความเร็ว 

"หน่วยที่ยังได้ยินฉัน กลับมาตามฟอร์เมชันด้วย" 

"แซ่ดๆๆๆ" หลังจากพยายามหลบหนีกลับเข้าเขตของโปแลนด์ ไวเปอร์รู้แล้ว ว่ามีเพียงเขาและฟริทซ์เท่านั้น ท่ามกลางข้าศึกอีก5ลำ ที่ตามหลังพวกเขามาติดๆ 

"ฟริทซ์! ไม่ต้องมาหาฉัน! เสร็จภารกิจแล้ว! กลับฐานไป!!" ไวเปอร์ถูกไล่ยิงอีกครั้ง และทำท่าBarrel rollหลบกระสุนที่ยิงใส่มา ฟริทซ์รู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น 

"เบี่ยงซ้ายไป หัวหน้า!" ฟริทซ์ขัดขืน เพราะว่าเขาชอบเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือหัวหน้าหมวดของเขา และเป็นแบบนี้มาตลอด นับตั้งแต่เขานั้นได้สังกัดเข้าหน่วยนี้ 

"กลับไป!" ความภักดีของเขาไม่มีข้อแม้ เหตุผล หรือหลักการใดๆมารองรับ ฟริทซ์เริ่มไล่ยิงใครก็ตามที่จ่อท้ายหัวหน้าของเขา 

"กรึก....ฟื้ดดดดดดดด...." เขาเร่งเครื่องจนสุดกำลัง ล็อคคันเร่งและอัดฉีดน้ำมันในระดับที่สูงที่สุด หรือจะพูดง่ายๆ ปรับระบบเครื่องยนต์ให้รับแรงอัดเกินขนาด มือของเขาดันคันเร่งไปสุดมือ ควันจากห้องเครื่องเริ่มมากขึ้นกว่าเดิม 

"ไปสิโว้ย!!" ไวเปอร์ตะโกนใส่วิทยุ พยายามให้ลูกน้องคนสุดท้ายที่เขามีหนีไป เพื่อที่เขาจะไม่รู้สึกแย่ไปกว่านี้ ฟริทซ์ดูระบบต่างๆ อีก1นาที เครื่องยนต์ของเขาจะระเบิดและบินไม่ได้อีก 

'ฉันไม่ทิ้งนายหรอกโว้ย ไอ้หัวหน้า! กริ๊ก!' ฟริทซ์คิดในใจ เพราะสำหรับไวเปอร์แล้ว เขามีบุญคุณต่อเขามากๆ เขายินดีพลีชีพให้หัวหน้าเขาราวกับสุนัขที่เลี้ยงไว้ยอมจับโจรที่ขึ้นบ้านจนตัวตาย 

"เปรี้ยงๆๆๆๆ" ข้าศึกยังคงยิงใส่ แต่พลาดเป้าไวเปอร์ที่เบี่ยงซ้ายสลัดอยู่ 

"ฟุ้บๆๆๆ" ข้าศึกนั้นพยายามยิงไวเปอร์ให้ร่วง โดยการยิงไป และเบี่ยงไปให้กระสุนกระจายออกไปทางซ้ายขวา แต่ก็ยังไม่โดนอยู่ดี 

"ฟี้ดดดด~" เขาใกล้จะถึงระยะปืนของเขาแล้ว ระยะที่เขาเท่านั้นมั่นใจว่ายิงมันได้ คือ 200เมตร 

"ฟุ้บๆๆ...แฟ้งๆๆๆ" ใกล้ถึงระยะปืนของฟริทซ์แล้ว ขณะที่ปีกซ้ายและเกราะส่วนที่หนาที่สุดถูกยิงเสียหาย 

"บอกให้กลับฐานไปไง ฟริทซ์! ได้ยินที่ฉันพูดไหม!?" 

"HVAP!....กรึก....แซ่ด ถอยกลับไปไม่ได้แล้วโว้ย! ผมไม่มีโอกาสแล้ว แต่คุณยังมี!!” ฟริทซ์ทนไม่ไหวแล้วเลยต้องจำขึ้นเสียงใส่คนที่เขาเคารพ แต่ด้วยน้ำเสียงอันดุดันนั้น แฝงไปด้วยความห่วงใย 

"กิ๊กๆๆ...แกร็ง" ข้าศึกหันปืน45มิลขึ้นแล้ว และจะยิงใส่ไวเปอร์อีกครั้งหลังรีโหลดเสร็จ เมื่อถึงเขตน่านฟ้าของโปแลนด์ 4ลำที่เกาะท้ายฟริทซ์เริ่มบินกลับไปยังเขตน่านฟ้าของตัวเอง ทิ้งให้อีก1ลำที่ไล่ยิงไวเปอร์ทำการไล่ต่อไป 

"ฟี้ดๆๆๆๆๆ748คราวนี้ล่ะ! กริ๊ก...ปุ้ง!" เครื่องยนต์ของฟริทซ์กำลังระเบิดจากน้ำมันที่ท่วมไอพ่น 

"ป๊อง...ป๊อง..."ภาพช้าเกิดขึ้นมาหลังจากที่กระสุนขนาดใหญ่ ถูกคัดปลอกออกมาจากรังเพลิง 

"ปุ้ง....บึ้ม!!" หัวกระสุนกระทบเป้าหมายเต็มๆ 

"หืม?ฟริทซ์!?" ไวเปอร์เหลือบมองข้าศึกข้างหลังที่ถูกยิงจนระเบิด 

"ฟี้ดๆๆๆๆๆ...ฟู่ว" ไม่มีใครรู้ว่าเครื่องยนต์ที่ผ่านการเปิดระบบความเร็วเกินพิกัดจะจบแบบไหน มีเพียงนักบินที่รู้อยู่แก่ใจ ฟริทซ์รู้สึกโล่ง  

"ฟริทซ์ นายใช้ระบบเกินพิกัดงั้นเหรอ!?" เพราะพวกเขาไม่ได้บ้าบิ่นไปมากกว่านี้เลย ไวเปอร์ทิ้งห่างฟริทซ์ แต่จริงๆ แล้ว ฟริทซ์ต่างหากที่ความเร็วตก ทั้งๆที่มือของเขาดันคันเร่งสุดแรง 

"ปิ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เสียงแจ้งเตือนที่มีความถี่.25วิ นั่นหมายถึง 'เครื่องยนต์ใช้การไม่ได้แล้ว' 

"ฟริทซ์!?..ฟู่วววว...." ผู้หมวดกางAirbrake ค่อยๆลดความเร็วลง และมองไปที่ฟริทซ์ 

"ไม่ทันแล้ว ผู้หมวด.....แฟ่ดๆๆๆๆ" ความร้อนที่สูงถึง753 องศาเซลเซียส มันสูงเกินไป ทำให้เครื่องยนต์ แผ่วเบา และดับลง สายน้ำมันที่ละลายทำให้น้ำมันภายในเกิดประกายไฟขึ้น 

"ฟุ่ววว....ฟริทซ์! ดีดตัวเร็วเข้า!" หมวดบินไปหาฟริทซ์ทันทีเมื่อเขากำลังร่วง เขากำลังอยู่นิ่งในความสูง3300เมตร 

"ปึกๆๆ....ปุ้ง!......ฟู่วววว" ฟริทซ์รู้ดีว่าระบบเกินพิกัดของเขาทำให้เก้าอี้ดีดตัวใช้การไม่ได้ แม้เขาจะดิ้นหาทางทำให้มันดีดตัวเขาออกมา แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำ 

"ฟริทซ์!!?" 

"พรึ่บ!!" ประกายไฟจากห้องเครื่องเข้าลุกลามในส่วนของไอพ่น ฟริทซ์ไม่พูดอะไรซักแปบ ก่อนที่จะพูดว่า... 

"หมวด...ขอโทษนะที่ผมทำผิดสัญญานะ...แต่ผมอยากให้หมวดรอดกลับไป.." ฟริทซ์มองหุ่นยนต์รบของไวเปอร์ที่บินวนรอบหุ่นยนต์ของเขา ที่กำลังไฟไหม้และดิ่งลงไปโหม่งโลก 

"ไม่ๆ....นายต้องไปกินกับฉัน..." 

"ผมคงไป...ไม่ได้....ผมดีใจที่หมวดรอด...หมวดต้องรู้จักน้องชายของผม...ฟรานส์ ถึงเขาห่ามๆไปหน่อย แต่เขาเป็นคนดี.....พรึ่บ!" จากเหล็กความร้อนสูงกลับลุกโชนขึ้นมา ระบบไฟฟ้าเริ่มถูกเผา ฟริทซ์รู้อยู่แก่ใจดี ยังไงเขาก็ไม่รอด 

"ฟริทซ์ ฉันจะช่วยนายเอง นายต้องรอด ขอบใจที่ช่วยฉัน จะดีกว่านี้ถ้าเรารอดไปด้วยกัน นะ" 

"ผมขออะไรอย่างนึง...ในฐานะทหารของหน่วย" ขณะที่เขากำลังขออะไรไป เขาทำมุมกับพื้นที่65องศา และความเร็วสูงขึ้นเร็วมาก 

"ได้สิ นายอยากได้อะไรล่ะ???"  

"หมวด..ต้องดูแลน้องชายผม....แทน....ผม....เฮือก" ชิ้นส่วนของเขาค่อยๆหลุดออกมาทีละน้อย ถังอ็อกซิเจนของเขารั่วหมด เริ่มหายใจไม่ออก 

"ฟริทซ์!? ฟริทซ์!!?" และการที่ดิ่งลงไปลึกพอสมควร ฟริทซ์เลือกตกเยอะมาก 

"ฟู้ววววว" เขาร่วงลงไปในความสูง 2500เมตรกับหุ่นยนต์ของเขา ความเร็วทิ้งดิ่งเท่ากับ 

799กม./ชม. ไวเปอร์พยายามคิดจะช่วยฟริทซ์ แต่ทำอะไรไม่ได้เลย 

"พรึ่บ...ฟู่..." ไฟเริ่มเข้าลุกลามทำลายระบบไฟฟ้าแล้ว 

"ไม่!!" 

"ปุ้งๆๆๆ...."คลังกระสุนของฟริทซ์ถูกไฟไหม้ 

. 

. 

. 

ตึ้ง....โครม....แก๊งๆ! และระเบิดลงเมื่อตกถึงพื้น 

v 

v 

v 

v 

ก็..สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกๆท่านเลยนะ ผมคือTheHolyWinds2000นะครับ และก็นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่อ้างอิงสถานที่จริงในแผนที่โลกเลยครับ เป็นการเปิดตัวครั้งแรกในเว็ปนี้เลยล่ะครับเพราะว่าที่ผมเขียนไปเขียนมาแก้ไปแก้มาถึง3ปีด้วยกัน แต่ด้วยความอายไม่กล้าลงเลยแช่อยู่อย่างนั้นล่ะ 5555 หากผิดพลาดตรงไหนก็ติชมกันได้นะครับ ผมพยายามทำให้นิยายเล่มนี้ของผมนั้นสมบูรณ์แบบและสมจริงที่สุดตามระดับสติปัญญาของผม ยังไงก็ เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ <3 

โปรดติดตามตอนต่อไป.... 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว