Action! แสดงสิครับที่รัก - HunHan (FT.ChanBaek)

แฟนฟิก

Action! แสดงสิครับที่รัก - HunHan (FT.ChanBaek)

Action! แสดงสิครับที่รัก - HunHan (FT.ChanBaek)

Hangamfu

แฟนฟิก

0
ตอน
1.25K
เข้าชม
24
ถูกใจ
1
ความคิดเห็น
14
เพิ่มลงคลัง

 

 

8 มีนาคม 2014 เวลา 21.00 น.

 

คืนวันเสาร์ พบรถเฟอร์รารี่สีแดงสดรุ่นดัง ทะเบียน 77 ของนางเอกสาวลู่หาน ฉายา ‘ควีนแห่งวงการบันเทิง’ ได้ชนอัดก๊อปปี้เข้ากับเสาไฟฟ้าขนาดสูง สภาพรถพังยับเยิน พบผู้ตายหนึ่งรายคือ ‘นายชเวจี’ คนขับรถส่วนตัวของนางเอกสาวได้เสียชีวิตลงคาที่ ส่วนลู่หาน ถูกหามส่งโรงพยาบาลด้วยอาการแสนสาหัส

‘คุณหมอ’ผู้เป็นเจ้าของไข้ พยายามช่วยชีวิตของเธอเอาไว้จนสุดความสามารถ

แต่ทว่า...ถึงลู่หานจะรอดชีวิตมาจากความตายในครั้งนี้ได้ แต่เธอกลับกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา หมอกล่าวว่า ไม่สามารถคาดเดาระยะเวลาในการรักษาตัวให้หายกลับมาเป็นปกติได้ เนื่องจากเกิดความผิดปกติของทางระบบประสาท          ทำให้เกิดสภาวะของสมองหยุดทำงานชั่วคราว

‘แบคฮยอน’ เพื่อนสาวคนสนิท ควบด้วยตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวของลู่หาน เธอคอยเฝ้าดูแลอาการของนางเอกสาวอยู่ตลอดเวลา และได้แจ้งต่อหน้าสื่อว่าจะรักษาจนกว่าลู่หานจะฟื้นกลับมาเป็นปกติ ทั้งนี้ บรรดาแฟนคลับพากันรู้สึกเศร้าเสียใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยฉับพลันเป็นอย่างมาก ในเช้าวันที่ 9 มีนาคม จึงได้รวมตัวกันไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลอย่างหนาแน่น

เหตุการณ์ดังกล่าว กลายเป็นข่าวดังที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในวงการบันเทิงของเกาหลี จนกระทั่งช่วงเวลาผ่านไปหนึ่งปีก็แล้ว สองปีก็แล้ว นางเอกสาวยังดูเหมือนไม่มีวี่แววที่จะฟื้นขึ้นมาเลยสักนิด แต่ถึงเป็นอย่างนั้น ทุกคนก็ยังคงเฝ้าคอยให้กำลังใจ และรอการกลับมาอีกครั้งของลู่หาน

 

‘อันดับ 1 ทุกฉบับ!! ลู่หานครองพื้นที่สื่อ ฟื้นจากเจ้าหญิงนิทราแล้ว!’

‘ด่วน ฟื้นแล้ว! ลู่หาน! เธอจะมาคว้าอันดับหนึ่งในสื่อทั่วโลกอีกครั้ง!’

‘แฟนคลับมีเฮ! แบคฮยอนแจ้ง ลู่หานได้ตื่นจากเจ้าหญิงนิทราแล้ว!!’

 

26 เมษายน 2017

‘ข่าวด่วนข่าวดังประจำวัน ควีนแห่งวงการบันเทิง ลู่หาน ดาราสาวคนดัง    เดิมนอนหลับใหลเป็นเจ้าหญิงนิทรา ณ โรงพยาบาล XXYZ จนเมื่อเวลา 09.34 น.      เธอได้ฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากพักรักษาตัวเป็นอย่างดีในระยะเวลาอันยาวนานถึงสามปี’ เรื่องราวของเช้าวันนี้ กลายเป็นข่าวดีของเหล่าแฟนคลับ และวงการบันเทิงที่ได้รับนักแสดงสาวมากความสามารถคืนกลับมาอีกครั้ง เธอจะกลับมาดังในปี 2017

@ บริษัทโอฮันกรุ๊ป

‘โอฮัน’ ท่านคือ ผู้บริหารค่ายภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ภายในประเทศเกาหลีใต้ สำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโซล นอกเหนือจากค่ายภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จ      ยังเป็นบริษัทที่มีเครือข่ายย่อยอีกเป็นจำนวนมาก หนึ่งในบริษัทย่อย มีบริษัท          ปั้นนักแสดงหน้าใหม่ที่โด่งดังมาแล้วหลายต่อหลายราย เฉกเช่น ลู่หาน

11.00 นาฬิกา โอฮันนัดลู่หานให้มาเข้าพบที่บริษัท เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องสัญญาที่ได้หมดตัวลงในช่วงปี 2015 ซึ่งตอนนั้นลู่หานยังหลับใหลเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล จึงไม่ได้ทำเรื่องต่อสัญญากับทางบริษัท และทางบริษัทโอฮันจึงทำการยุติเรื่องสัญญาเอาไว้ก่อนชั่วคราว นอกเหนือจากการคุยธุระเรื่องสัญญา โอฮันยังมีโครงการจะสร้างภาพยนตร์ดังแห่งปีขึ้นมายื่นข้อเสนอให้ลู่หานรับแสดงเป็น          ตัวหลัก ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นโครงการใหญ่แห่งปีของบริษัทโอฮันกรุ๊ป จะกำกับโดย  ‘โอเซฮุน’ ลูกชายเพียงคนเดียวของโอฮันที่ส่งไปเรียนเมืองนอกเมืองนาตั้งแต่เด็ก

โอเซฮุนกลับมากรุงโซล ทำอาชีพเป็นผู้กำกับได้สามปี หลังจากที่เรียนจบ      โอเซฮุนเรียนรู้ประสบการณ์ในด้านต่างๆ ที่ตัวเองชอบมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ                      ซึ่งภาพยนตร์ของเซฮุนประสบความสำเร็จด้วยการทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ด้านวงการภาพยนตร์ จนทำให้เขากลายเป็นผู้กำกับที่โด่งดังไปทั่วโลก

โอฮันจึงคิดว่า มันคงจะสนุกน่าดู หากเขาจับผู้กำกับมีชื่อเสียงอย่างเซฮุน    และนางเอกแถวหน้าวงการอย่างลู่หานมาทำงานร่วมกันในภาพยนตร์เรื่องนี้           อีกอย่างลู่หานก็ไม่ใช่คนอื่นไกล เธอเป็นถึงลูกสาวของเพื่อนเขา แถมโอฮันยังเห็นแววลู่หานมาตั้งแต่เด็กๆ พรั่งพร้อมไปด้วยใบหน้าที่จัดว่าสวยมากอย่างลงตัว จึงทำให้โอฮันปั้นลู่หานมาจนดังถึงทุกวันนี้

 

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!!!

“ว่าไงๆ นั่นลู่หาน กับแบคฮยอนใช่ไหมลูก เปิดเข้ามาข้างในห้องได้เลยนะ    อาไม่ได้ล็อกประตู” โอฮันพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนเคาะประตูจากหน้าห้อง

สิ้นเสียงวัยกลางคน ประตูจึงถูกเปิดออก ปรากฎว่าเป็นลู่หานกับแบคฮยอนนั่นเองที่มาตรงตามเวลานัดเป๊ะๆ เหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด

“สวัสดีค่ะคุณอา”

สองสาวยกมือไหว้คนอายุเยอะกว่าอย่างนอบน้อมเหมือนเคย โอฮันเห็นแล้วถึงกับยิ้มตามในความน่ารัก และนอบน้อมไม่เคยเปลี่ยนแปลงของทั้งสอง

“นั่งๆ วันนี้อามีเรื่องจะคุยกับพวกเราสองคนเยอะแยะเลย”

“เรื่องอะไรเหรอคะคุณอา ซีเรียสหรือเปล่า” แบคฮยอนเอ่ยถาม

“ไม่ซีเรียสๆ อาแค่อยากจะถามลู่หานกับแบคฮยอนว่าหนูทั้งสองคนจะยังต่อสัญญากับค่ายอาไหมลูก หรือว่าทั้งสองคนเบื่อวงการบันเทิงแล้ว อาก็ไม่ว่ากัน”

“นึกว่าเรื่องอะไรเสียอีก ต้องต่อสิคะคุณอา ลู่หานคิดถึงการแสดงจะแย่แล้ว เอาสัญญามาให้ลู่หานเซ็นเลยก็ได้นะคะ ลู่หานจะได้มีต้นสังกัด ไม่เร่ร่อน ฮ่าๆ”

ลู่หานพูดเล่นติดตลก หากแต่ความเป็นจริงแล้ว คนอย่างลู่หานกับแบคฮยอน     ถึงจะไม่มีต้นสังกัด งานก็รอเพียบอยู่ดี ใครๆ ต่างก็อยากร่วมงานด้วย

“ฮ่าๆ ใครจะไปปล่อยให้เราสองคนเร่ร่อนลงกัน ลูกรักของค่ายอาเลยนะเนี่ย งั้นเอาสัญญาไปเซ็นก่อนเลยเจ้าเด็กดื้อทั้งสอง เซ็นเสร็จอามีเรื่องจะคุยต่อ”

โอฮัน ดันเอกสารสัญญาในมือไปให้ทั้งคู่เซ็น เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า        เด็กทั้งสองคนนี้มีต้นสังกัดแล้ว เพราะในยามมีข่าวเสียหาย หรือข่าวไม่ดีเข้ามา โอฮันจะเป็นคนเคลียร์ให้อยู่เสมอ และอันที่จริงแล้ว ข่าวพวกนั้นมักเป็นข่าวเกาะติดกระแสผ่านการโดนใส่ความจากบริษัทคู่แข่งซะมากกว่า ยิ่งบริษัทโอฮันถูกตั้งตัวเป็นคู่แข่งของทุกบริษัทที่อยากจะเป็นที่ 1 แทนโอฮันกรุ๊ป ศัตรูทางธุรกิจนั้นยิ่งเยอะ

“เรื่องต่อไปคือเรื่องอะไรเหรอคะคุณอา ซีเรียสหรือเปล่า” เมื่อทั้งสองสาวเซ็นสัญญาเสร็จ แบคฮยอนจึงเอ่ยทักขึ้นมาอย่างสงสัย

“แบคฮยอน แน่ะๆ กลัวจะเป็นเรื่องซีเรียสตลอดเลยนะเจ้าเด็กคนนี้ จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรมากมายหรอก เรื่องที่อาบอกจะคุยด้วย อาแค่อยากให้ลู่หานมารับแสดงภาพยนตร์ในบทบาทของนางเอกเรื่องหัวใจมาเฟียให้อาหน่อย”

“ฟื้นตัวขึ้นมาก็มีงานรอตัวแกเลยนะเนี่ยยัยลู่ ว่าแต่ รายละเอียดล่ะคะคุณอา”

“มันเป็นภาพยนตร์ใหญ่ท้ายปีของบริษัทอา ซึ่งอาอยากได้ลู่หานมาเป็นนางเอกภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้ไหมลูก หรือว่าถ้าหนูยังไม่อยากรับงานตอนนี้ก็ได้นะ อาตามใจเราเลย” โอฮันพูดอย่างเข้าใจอีกฝ่าย

ลู่หานกับแบคฮยอนหันไปมองหน้ากัน ทั้งสองคนพูดคุยปรึกษากันนิดหน่อย      ว่าจะรับงานนี้ดีไหม ตัวลู่หานเองก็เพิ่งฟื้นตัวได้ไม่กี่เดือนนัก แถมยังพักด้านการแสดงไปนานมากแล้วถึงสามปี อาจไม่พร้อมสำหรับอะไรหลายๆ อย่าง แต่อีกใจหนึ่ง ลู่หานอยากจะรับงานแสดงไว้ ในเมื่อคุณอาเสนองานมาให้ แปลว่ามันต้องสนุกมากแน่ๆ

เมื่อทั้งสองสาวได้พูดคุยตกลงกันเสร็จเป็นอันเรียบร้อยแล้ว ลู่หานเป็นคนหันกลับไปตอบตกลงที่จะรับแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ ดูแล้วคงจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ถ้าหากได้เป็นนักแสดงในภาพยนตร์ที่อาโอฮันเสนอมาให้ด้วยตัวเอง

“ตกลงค่ะ ลู่หานจะรับแสดงบทภาพยนตร์ในเรื่องนี้”

“ให้มันได้อย่างนี้สิ น่ารักมากเลยทั้งคู่ อาดีใจมากเลยนะเนี่ย งั้นเอาแบบนี้ไหม   อาจะคุยเรื่องค่าตัวกับรายละเอียดภาพยนตร์ผ่านแบคฮยอนก่อน แต่เดี๋ยวให้ลู่หานขึ้นไปชั้นบนสุดของบริษัทอานะลูก” โอฮันพูดขึ้น หลังฟังคำตอบอันเป็นที่ตนพอใจจบ

“................” ลู่หานพยักหน้าตอบรับ และตั้งใจฟังต่อ

“มันจะมีห้องทำงานใหญ่ๆ เขียนหน้าห้องว่า โอเซฮุน เดี๋ยวลู่หานขึ้นไปเอาบทภาพยนตร์มาลองอ่านก่อนนะลูก เผื่อว่ามันมีอะไรติดขัด อาจะได้บอกให้ชานยอลเอาไปแก้ไขไว้รอเลย บทจะได้พร้อมเวลาถ่ายทำจริงๆ”

“มันคือห้องอะไรเหรอคะคุณอา ทำไมชื่อห้องดูแปลกๆ”

“อ๋อ มันเป็นห้องพิเศษของเจ้าฮุนน่ะลูก ห้องใหญ่มาก ตอนนั้นอาหมดไปหลายต่อหลายบาทเลยแหละ”

ได้ทีขอเผาลูกชายตัวเองบ้างเสียหน่อย กลับมาถึงเกาหลีก็ดูดเงินพ่อไปหลายต่อหลายบาทเพื่อสร้างห้องชั้นบนสุดเพิ่ม ซึ่งห้องที่ถูกสร้างใหม่ แน่นอนว่ามันดูสวยที่สุดในตึกของบริษัทขณะนี้แล้ว เพราะห้องถูกออกแบบกันเองในพรรคพวก 96 ไลน์

“เจ้าฮุนเหรอคะ?”

“ลืมไปเลยว่าทั้งคู่ไม่รู้จักนี่ ใช่ไหมล่ะ เจ้าฮุน หรือเซฮุน เป็นลูกชายของอาเอง”

“อ่า... ไม่เคยรู้จักกันค่ะ ลู่หานเองก็เพิ่งจะรู้ว่าคุณอามีลูกชายด้วยในวันนี้เอง”

“เซฮุนเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกตอนที่ลู่หานยังเป็นเจ้าหญิงนิทราได้แค่สองเดือนกว่าๆ เดี๋ยวทั้งสองคนคงจะได้รู้จักกัน เพราะเจ้าเซฮุนเป็นคนกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้เอง บททั้งหมดจึงอยู่บนห้องของเจ้าเซฮุนหมด ลู่หานขึ้นไปเอาบทได้เลยนะลูก”

“เขาจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ ที่จู่ๆ ก็ขึ้นไปบนห้องของเขาแบบนั้น”

“ไม่ว่าอะไรหรอกลูก เพราะนักแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้เขาขึ้นไปเอาบทกันมาหมดแล้วล่ะ เหลือก็แต่ของลู่หานเนี่ยแหละ”

“อ๋อ โอเคค่ะ งั้นเดี๋ยวลู่หานขอขึ้นไปเอาบทก่อนนะคะคุณอา / ยัยแบคฮยอน เดี๋ยวลู่มานะ” ลู่หานพูด ก่อนจะขอตัวขึ้นไปเอาบทด้านบนสุดของตึกบริษัทโอฮันกรุ๊ป

@ บนห้องโอเซฮุน 

ลู่หานยืนเคาะประตูห้องได้สักพัก จนเวลาล่วงเลยไปแล้วหลายต่อหลายนาที ก็ยังไม่มีคนมาเปิด เธอจึงถือโอกาสเปิดเข้าไปในห้องโดยยังไม่ได้รับอนุญาต เผื่อว่าด้านในจะไม่มีคนอยู่ เดี๋ยวลู่หานจะยืนรอเก้อแล้วไม่ได้บทกลับไปอ่านกันพอดี

 

แก๊กๆ .... แอ๊ด.....

ลู่หานเปิดประตูเข้าไปภายในห้องที่ไม่ได้ถูกล็อกจากด้านใน เท้าเล็กย่องก้าวเข้าไปเบาๆ สายตากลมโตมองสำรวจรอบๆ ห้องไปด้วยอย่างเงียบๆ

เหมือนบ้านหลังหนึ่งเลยแฮะ

ขาเล็กก้าวเข้าไปที่โต๊ะทำงาน เพื่อหาสิ่งที่ตัวเองต้องการขึ้นมาเอา บนโต๊ะไม้ราคาแพงมีกล่องๆ หนึ่งเขียนไว้ว่าบทภาพยนตร์เรื่อง ‘หัวใจมาเฟีย’ ถูกวางเอาไว้      ลู่หานจึงเปิดกล่องแล้วหยิบบทออกมา หัวกระดาษเขียนกำกับไว้ว่าบทนางเอก

แต่ทำไมบทถึงมีน้อยจังนะ...

ลู่หานเปิดสำรวจดู ท้ายบทถูกเขียนไว้ว่า บทภาพยนตร์เรื่องนี้ ถูกแต่งสดโดย ‘ปาร์คชานยอล’ บทจะถูกส่งให้ทุกครั้งก่อนถ่ายในฉากถัดไปเพื่อกันการก๊อปปี้ นักแสดงจะรู้บทเพียงคร่าวๆ และฉากที่ต้องแสดงในตอนแรกแค่เพียงเท่านั้น

บทน้อย เพราะคนเขียนบทกำลังกันการก๊อปปี้อยู่นั่นเอง แบบนี้ต้องดังแค่ไหนกันเชียวถึงมีการกันก๊อปปี้ แสดงว่าต้องเคยมีประวัติโดนก๊อปปี้มาสินะ งั้นบทที่อยู่ในมือลู่หานก็มีเพียงเท่านี้น่ะเหรอ แบบนี้กลับเลยก็แล้วกัน ในเมื่อหมดธุระแล้ว

ขวับ.... ปึก! 

ลู่หานกำลังจะกลับลงไปด้านล่าง แต่พอพลิกตัวกลับไป หน้าดันกระทบเข้ากับอกแกร่งของใครบางคนด้านหลัง ที่ไม่รู้มายืนซ้อนตัวเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ มิหนำซ้ำ      ยังเห็นเนื้อกายเปล่าๆ กับกล้ามหน้าท้องแน่นเป็นมัดๆ ไร้ชิ้นส่วนของเสื้อผ้าปกปิดอยู่ แถมด้านล่างยังมีเพียงแค่ผ้าขนหนูปิดบังท่อนล่างเอาไว้แค่นั้นอีก! -////-

นี่มัน... ไอ้โรคจิตที่ไหนกัน!!

“น... นายเป็นใครอะ! เป็นโรคจิตหรือเปล่า เข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง คอยดูนะ!       ฉันจะแจ้งยามมาจับนายลากออกไปจากห้องนี้! แล้วฉันจะ....”

ลู่หานกำลังโวยวายไปได้แค่เพียงสองถึงสามประโยค ก่อนจะเงยหน้าขึ้น เพื่อมองคู่กรณีอย่างเอาเรื่อง แค่เพียงเธอเห็นใบหน้าหล่อคมคาย นัยน์ตาสีดำเข้มคมกริบอันทรงเสน่ห์ สันจมูกโด่ง ริมฝีปากบางเฉียบสีสดดูเย่อหยิ่ง ผมยาวระต้นคอเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ คำพูดทุกอย่างดันหยุดชะงักค้างไปเฉยๆ ซะอย่างนั้น

เสมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง จนเซฮุนพูดขึ้น

“หึ คำถามนั้น ฉันควรถามเธอมากกว่าหรือเปล่า แล้วรู้ไว้ด้วยว่าฉันไม่ใช่พวก     โรคจิตอย่างที่เธอคิด ฉันจะถอดหมดทั้งผ้านี่เลยก็ได้ มันเรื่องของฉัน”

“ถ...ถอยไป! ฉันจะกลับ” สภาพของคนตรงหน้า ลู่หานเลือกที่จะเลี่ยงมากกว่าเถียงด้วยคงจะดีกว่า

“เดี๋ยว! ฉันชื่อโอเซฮุน เป็นผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้ ชื่อเธอ... ฉันไม่อยากรู้จัก แต่บทที่อยู่ในมือ เธอแค่แสดงภาพยนตร์ของฉันออกมาให้ไม่เจ๊งก็พอ เข้าใจ?”

“ชิ! ฉันชื่อโอเซฮุน เป็นผู้กำกับ แหวะ!! ใครเขาจะไปอยากรู้จักนายกันล่ะ!”

“เธอว่าไงนะ...” เซฮุนเอ่ยถามเสียงเย็น เมื่อคนตัวเล็กล้อเลียนเขา

“ฉันชื่อลู่หาน เป็นนางเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้ ชื่อนาย...ฉันเองก็ไม่อยากรู้จัก แต่นายเป็นถึงผู้กำกับ นายควรจะทำภาพยนตร์ที่ฉันต้องเล่นให้ดีที่สุด ไม่เจ๊งก็พอ! เข้าใจ?” ลู่หานพูดเน้นช่วงท้ายประโยคอย่างตั้งอกตั้งใจล้อเลียนอีกฝ่าย

“นี่เธอพูดจายอกย้อนฉันงั้นเหรอ!” เซฮุนถามเสียงดังขึ้น

“คำพูดนายมันจดลิขสิทธิ์ไว้หรือไง อีกอย่าง นายแต่งตัวแบบนี้คิดจะยั่วให้ฉันข่มขืนนายใช่ไหมล่า เอ๊ะ! หรือว่า... นายเป็นพวกโรคจิตชอบโชว์ของลับกันนะ         แต่บอกไว้ก่อนเลยนะโอเซฮุน ฉันไม่ชอบดูอะไรเล็กๆ หรอกนะ”

“ลู่หาน!” เซฮุนเริ่มใส่อารมณ์ เมื่ออีกฝ่ายทำปากดีใส่เขา

“อย่าเสียงดังสิ ฉันกลัวนายจะเจ็บคอตายก่อนเริ่มถ่ายทำ หึ ไปก่อนดีกว่า     ไม่อยากอยู่กับคนแถวนี้นานๆ เอาไว้รอเจอกันตอนเปิดกองนะคะ คุณผู้กำกับโรคจิต”

โรคจิตอีกแล้วงั้นเหรอ

เขาเพียงแค่อาบน้ำเสร็จ พอเดินออกมาดันเห็นใครสักคนกำลังก้มๆ เงยๆ ทำอะไรสักอย่างจึงรีบเดินมาดูเผื่อว่าเป็นพวกหัวขโมยแค่นั้นเอง

ใครมันจะไปรู้ว่าจะเจอนางเอกปากจัดซัดแรงขนาดนี้ หึ! ได้ลู่หานได้ เปิดกองเมื่อไหร่ เธอกับฉันได้เจอกันแน่ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ลู่หาน!

“ยัยลู่! ทางนี้ๆ ฉันอยู่นี่ ทำไมแกถึงไปนานจังเนี่ย ฉันรอแกจนคุณอาออกไปประชุมได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว แกก็ยังไม่มาอีก ว่าแต่ ทำไมแกถึงได้ทำหน้าเป็นตูดลิงงั้นอ่ะ แสดงว่าไปทะเลาะกับใครมาอีกล่ะสิ เป็นยังไงไหนเล่า”

หน้าลู่หานดูไม่เป็นมิตรกับฝูงชนเลย ดูท่าจะหงุดหงิดแฮะ เป็นอะไรของมันนะ

“มานานเพราะ...ช่างเถอะ! แบค แกรู้ไหมว่าฉันไปเจอลูกชายคุณอามา!”

“แกจะเสียงดังทำไมเนี่ยลู่หาน อาฮะ เจอเซฮุนแล้วยังไงต่อ”

“ลูกชายคุณอาโคตรจะปากจัดเลยเหอะ! นี่เขาบอกฉันว่า ให้ฉันเล่นบทให้ดี  ไม่ทำให้ภาพยนตร์เขาเจ๊งก็พอ ฉันอยากจะกรี๊ด นี่มันท้าทายฝีมือกันชัดๆ!”

“เฮ้ย จริงดิ? ก็ดีแล้วนี่ เพราะปกติแล้วแกเจอแต่ผู้กำกับอยากจะลวนลามหรือไม่ก็ตามใจแกจนคนในกองหมั่นไส้ แต่ถ้าคุณเซฮุนเป็นแบบนั้น มันก็เป็นผลดีต่อตัวแกนิดนึงแล้วป่ะ แกจะได้ไม่รำคาญไง”

“ฉันจะประสาทตายไปเสียก่อนนะสิ นี่ขนาดเจอกันวันแรกนะ ยังพูดคำว่าเจ๊งใส่หน้ากันขนาดนี้ ถ้าต้องเจอกันทุกวันไม่กัดกันตายไปเลยหรือไง!”

“เอาน่า แกชอบอะไรที่ท้าทายไม่ใช่เหรอ นี่ล่ะ ถือว่าท้าทายสุดๆ แล้ว เชื่อฉัน”

“เฮ้อ งั้นวันนี้แกกลับไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะนั่งแท็กซี่ไปเดินระบายอารมณ์ที่ห้างแถวนี้สักหน่อย”

“เฮ้ย ได้ยังไงกันเล่า เดี๋ยวก็โดนแฟนคลับ หรือปาปารัสซี่รุมเอาหรอก”

“แค่ใส่หมวก ใส่แว่นเดินก้มๆ ก็ไม่มีคนสังเกตเห็นแล้ว ส่วนแกกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ขอฉันไปเดินเล่นแถวๆ ห้างเสียหน่อยก็แล้วกัน อารมณ์ไม่ค่อยดีเลย    เดี๋ยวถ้าอารมณ์ดีแล้วจะกลับ”

“เฮ้อ เออๆ งั้นฉันตามใจแกก็แล้วกัน ระวังตัวด้วยนะลู่หาน มีอะไรก็โทรหาฉันได้ตลอดเวลาเข้าใจไหม เบอร์ใหม่ฉัน 090722XXXX”

“ฉันไม่ใช่ลู่หานอายุ 17 แล้วนะ หยุดห่วงเป็นเด็กได้แล้ว แกก็อายุเท่าฉันป่ะ”

“ชิ! อย่าให้พรุ่งนี้ต้องขึ้นเป็นข่าวหน้าหนึ่งก็แล้วกัน แกเที่ยวทีไร ข่าวเพียบ!!”

“ฮ่าๆ อะไรกันเล่า รับทราบน่า จำได้หมดแล้วค่ะ คุณแม่คนที่สองของลู่หาน”

 

@ห้างสรรพสินค้า

ลู่หานเดินเข้าไปในโซนร้านหนังสือ เพราะเธอชอบอ่านอะไรเพลินๆ มันทำให้สมองไม่ซีเรียส รู้สึกผ่อนคลายไปอีกแบบ

แต่ในระหว่างเดินไปกำลังจะหยิบหนังสือเล่มหนึ่ง ลู่หานดันได้ยินเสียงคน   คุยกันกระทบหู ทำให้เธอชะงักแล้วรีบเดินหลีกหนีไปเพื่อกันความวุ่นวายให้ตัวเอง

“เฮ้ย แก นั่นใช่ควีนลู่หรือเปล่าอะ”

“ไหนๆ เออ! ใช่แน่เลยๆ แค่สันจมูกก็รู้แล้ว กรี๊ด! นั่นมันควีนลู่!”

ซวยแล้ว นี่ยังแต่งตัวเนียนไม่พออีกเหรอ แต่งตัวมาในสภาพไม่ได้เหมือนดาราเลยนะ ก่อนจะมาเดินเชิดอยู่ในห้างนี่ได้ฉันไปซื้อชุดเสื้อยืด กางเกงเจๆ มาใส่แล้วนะ! ฮือ จะเป็นข่าว หรือเจอแฟนคลับในสภาพกางเกงเจๆ แบบนี้ไม่ได้! ฉันต้องวิ่ง!!

ปึกกกก!!!!

“อ๊ะ! ขอโทษนะคะ เผอิญว่ารีบ ไม่ทันได้มอง....”

ลู่หานรีบวิ่งจนไปชนกับใครคนหนึ่งเข้า คนตัวเล็กรีบเงยหน้ามองอีกฝ่ายเพื่อจะขอโทษด้วยใจจริงอีกครั้ง แต่ดันซวยไปเจอคู่กรณีอย่างเซฮุน หมอนี่เจอทีไรก็ทำให้อารมณ์เสียตลอดเวลาเลยหรือเปล่านะ!!

ในขณะที่เซฮุนยังดูมึนๆ อยู่ ว่าทำไมจู่ๆ ลู่หานถึงรีบร้อนเหมือนหนีอะไรมา   สักอย่าง จนวิ่งมาชนเขาเต็มแรงขนาดนี้ อีกอย่างทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้...

“กรี๊ด! ควีนลู่ เฮ้ยๆ! นั่นมันคุณเซฮุนนี่นา มาด้วยกันหรอกเหรอ ถ่ายรูปเร็ว”

“เฮ้ย! นี่เธอพานักข่าวมาหรือไงลู่หาน!”

เซฮุนได้ยินเสียงคนเรียก จากที่ดูงงๆ ถึงกับตื่นตัวเลยทีเดียว ตอนแรกเขาอุตส่าห์มาห้างแบบสบายๆ แต่นี่ลู่หานดันพานักข่าวมาหรอกเหรอ! ซวยที่สุด!

“มานี่เลย! เจอเธอทีไร ฉันซวยชะมัด!!”

“นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย ปล่อยฉันนะ! คิดว่าฉันอยากเจอนายนักหรือไง!”

คนตัวเล็ก โดนเซฮุนจูงมือ ฉุดให้วิ่งตามอย่างไว เพื่อหลบหนีผู้คนกลุ่มนั้น

ลู่หานวิ่งไปด้วย ด่าคนตัวสูงไปด้วย ให้ตาย ดูปากหมอนี่สิ มันน่าไปด้วยซะ    ที่ไหน ถ้ารู้ว่าจะวิ่งมาแล้วเจอเซฮุนนะ ลู่หานขอยืนโง่ๆ ให้แฟนคลับรุมยังดีกว่าอีก

“อย่าเสียงดังลู่หาน ถ้าเธอไม่เงียบ! ฉันจะจูบเธอกลางห้างให้นักข่าวถ่ายไปทำข่าวเลยดีไหม เงียบซะ! เธอนี่มันพาฉันซวยแท้ๆ เลย คนยิ่งไม่อยากเป็นข่าวอยู่!”

“นักข่าวบ้าบออะไรของนาย ไอ้โรคจิต นี่ปล่อยฉันสิ! ฉันไม่ให้นายเอาจูบแรกฉันไปง่ายๆ หรอกนะ ชิ! แล้วนั่นมันเหล่าแฟนคลับต่างหาก ตาบอดหรือไง มั่ว!”

“โรคจิตมากไหม ได้ฉันเป็นสามีขึ้นมาอย่ามาอ้อนสามีจ๊ะ สามีจ๋าใต้ร่างก็แล้วกัน หยุดบ่นแล้ววิ่งซะ! ฉันไม่อยากเป็นข่าวกับเธอนักหรอกนะ เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม!”

“โอ๊ย! เซฮุน จะวิ่งไปไหนอีกเล่า! ฉันเหนื่อยแล้วนะ!”

เซฮุนหันไปมองแฟนคลับยัยตัวแสบที่ดันรู้จักเขา วิ่งตามมาในระยะไกลๆสายตา ร่างสูงรู้สึกรำคาญคนตัวเล็ก จึงหยุดอุ้มลู่หานพาดบ่าแล้ววิ่งแทน ก่อนที่เขาจะวิ่งเข้าไปในลานจอดรถล็อก A ที่รถของเขาจอดอยู่

“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลยนะ! โอเซฮุน! ปล่อยสิ! ไอ้เซฮุนบ้า นายปล่อยฉันนะ บอกว่าให้ปล่อยไงเล่า!”

“เธออยากโดนฉันจูบปิดปากนักหรือไง จะเงียบ ไม่เงียบ!”

ลู่หานหายใจแรงๆ โมโหจัดจนควันแทบจะออกจากหู นี่มันวันซวยอะไรของเธอเนี่ย ทำไมต้องวิ่งมาเจอกับคนอย่างโอเซฮุนด้วยนะ!

เซฮุนคว้ากุญแจรถออกมากดปลดล็อก พลางยัดลู่หานเข้าไปภายในตัวรถ ส่วนเขาเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ ออกรถไปทันทีด้วยความเร็วสูง ลู่หานรีบหลับตาแน่นไปด้วยความหวาดกลัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดจะโวยวายอะไร เพราะเดี๋ยวโวยวายขึ้นมาจะโดนโอเซฮุนขู่เรื่องจูบขึ้นมาอีก ไอ้คนป่าเถื่อนเอ้ย!

“เธอพักที่ไหน เดี๋ยวฉันจะขับไปส่ง”

“ไม่ต้อง! ฉันกลับเองได้นายไม่ต้องยุ่ง จอดรถข้างหน้าเนี่ยล่ะ เดี๋ยวกลับเอง”

“อย่าทำให้อารมณ์เสียจะได้ไหม ตอบมาว่าอยู่ที่ไหน”

“แต่ว่า....”

“ฟังนะ! จะไปส่ง! ที่พักเธออยู่ไหน!”

ลู่หานถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ขี้เผด็จการที่สุด คนแบบนี้มันมีกี่คนบนโลกกันนะ! แต่สุดท้ายลู่หานก็ต้องยอมบอกทางเขาไปอยู่ดี เพราะแค่ไม่อยากให้เซฮุนดุไปมากกว่านี้ จึงรีบๆ บอกทางไป จะได้รีบๆ แยกย้ายกันสักที!

@คอนโดลู่หาน

พอถึงพิกัดคอนโด ลู่หานรีบลุกลงจากรถทันที แต่ด้วยความที่เป็นคนมีมารยาทจึงเคาะกระจกเรียกจนเซฮุนเปิด ลู่หานก้มหน้าลงไปในระดับที่สามารถเห็นคนขับข้างในได้ ก่อนจะเอ่ยปากขอบคุณเซฮุนแบบประชดประชันอีกตามเคย

“เซฮุน ขอบคุณนะ แต่วันหลังไม่ต้องช่วยก็ได้ ไม่ได้ขอร้องให้มาช่วยเสียหน่อย”

“ฝันอยู่เหรอ” เซฮุนตอบ

“ฝันอะไรของนาย”

“หึ ฉันหมายถึงที่บอกว่าฉันช่วยน่ะฝันอยู่เหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอวิ่งมาชนฉันจนคนพวกนั้นวิ่งมาตามถ่ายรูปฉันไปด้วย ฉันก็ไม่คิดจะช่วยหรอก”

“ก็นายมายืนขวางทางวิ่งฉันเองทำไมล่ะ!”

“เนี่ยแหละนะ คนทำผิด ไม่รู้จักผิดยังมาเถียง เด็กไม่รู้จักโตก็แบบนี้แหละ”

“โอเซฮุน! นี่นายว่าใครไม่รู้จักโตกัน! อย่ามาว่าฉันเด็กนะ”

“หึ ขี้โวยวาย”

เซฮุนพูดแค่นั้น ก่อนจะออกตัวรถไปด้วยความเร็วสูง มุ่งหน้ากลับเข้าไปที่คอนโดตัวเอง วันนี้เขาคงไม่มีอารมณ์ออกไปไหนแล้วล่ะ แต่สิ่งอื่นใดที่เขารู้สึกว่ามันน่าหงุดหงิดไปมากกว่านั้นคือ พรุ่งนี้จะมีข่าวเขาขึ้นหน้าหนึ่งหรือเปล่าไม่สามารถเดาได้เลย ที่สำคัญ พรุ่งนี้เขาดันมีไปออกงานซะด้วย นั่นล่ะ ที่เขาหงุดหงิดสุดๆ

วันถัดมา

เซฮุนต้องไปร่วมงานเปิดตัวสินค้าน้ำหอมแบรนด์ใหม่จากดาราสาวที่เขาเคยร่วมงานด้วยในภาพยนตร์เรื่องแรก ตอนแรกเขาคิดไว้ว่าจะไม่มา แต่มันคงจะดูหักหน้ากันเกินไปหน่อย อย่างน้อยก็เคยร่วมงานด้วยกันมา และเขาดันว่าง

ก้าวแรกที่เข้ามาในงาน เซฮุนกลายเป็นจุดสนใจในทันที กล้องทุกตัวพร้อมกันเก็บภาพของเขาเอาไว้ดั่งเช่นทุกงาน และไม่ว่าเซฮุนจะเป็นมนุษย์ขี้เหวี่ยงขนาดไหน แต่ความดังของเขาไม่เคยลดน้อยลงเลยสักนิด คงเป็นเพราะความสามารถที่ทุกคนยอมรับ รวมไปถึงใบหน้าที่จัดว่าหล่อวัวตายควายล้มของเขาด้วยแหละมั้งที่ยังทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจของทุกสื่อเหมือนเคย แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบใจนัก

“คุณเซฮุน ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่วันนี้มาร่วมงานเปิดตัวน้ำหอมของเยริ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นงานเล็กๆ ก็ตาม นี่รู้ไหมคะว่าคุณดูเป็นจุดสนใจมากเลย”

“ครับ คุณชวนผมต้องมา ผมว่างานไม่เล็กนะครับ โอเคอยู่นะ มันก็น่าสนใจดี”

“ฮ่าๆ แล้ววันนี้คุณชานยอลไม่มาด้วยกันเหรอคะ ปกติเห็นออกงานด้วยกัน”

“ผมมาคนเดียวครับ ชานยอลคงติดธุระ”

“งั้นเชิญคุณเซฮุนตามสบายนะคะ เยริขอตัวขึ้นไปให้สัมภาษณ์บนเวทีก่อน”

เซฮุนทำแค่เพียงพยักหน้าให้เป็นตอบรับ

พอเขาได้ยินเรื่องการให้สัมภาษณ์ขึ้นมา เขาเองก็นึกถึงเรื่องเมื่อวานด้วยเช่นกัน แต่ด้วยความที่เซฮุนมักจะรอบคอบเสมอ เขาได้เช็คข่าวมาหมดแล้วเมื่อเช้าตรู่      ซึ่งดูเหมือนจะยังไม่มีข่าวอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขาเรื่องเมื่อวาน

เซฮุนนั่งดูดาราสาวเจ้าของงานให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับน้ำหอมได้สักพักก็เริ่มเบื่อ เขาจึงตัดสินใจกลับออกมาก่อน ซึ่งปกติเซฮุนก็อยู่โดยที่งานยังไม่เลิกทุกครั้ง เป็นนิสัย

มีอะไรอีกล่ะ

เมื่อเซฮุนเดินออกไปที่บริเวณหน้าประตูทางออกตามปกติ เดินออกมาจากหน้างานไปยังลานจอดรถคันเก่ง ระหว่างเดิน สายตาของเขาดันเห็นนักข่าวยืนอออยู่ตรงบริเวณรถมายบัค เอ็กซ์เซเลโร่คันโปรดของเขาเต็มไปหมด

“พวกเราๆ นั่น คุณเซฮุนออกมาแล้ว”

นักข่าวเจอคลิปหลุดในทวีตเตอร์ถูกแชร์ต่อๆ กันมาเมื่อสักครู่ใหญ่ๆ เป็นเหตุให้มายืนรวมตัวกันรอเซฮุนตอนออกมาจากงานเปิดตัวน้ำหอมที่บริเวณลานจอดรถ เพื่อดักทางกันเซฮุนหนีกลับก่อน เพราะหวังจะสัมภาษณ์เซฮุนนอกรอบ

“คุณเซฮุนคะ คุณเห็นคลิปที่คุณวิ่งหนีไปกับคุณลู่หานหรือยังคะ ทำไมคุณสองคนไปด้วยกันได้ล่ะคะ หรือว่าพวกคุณมีซัมติงกัน”

“คุณจะให้ผมเอาเวลาไหนไปมีซัมติงกับเขาล่ะครับ เขาพึ่งตื่นมาจากเจ้าหญิงนิทราได้ไม่กี่อาทิตย์เองไม่ใช่เหรอ คุณจะให้ผมไปมีซัมติงกับเขาในฝันช่วงที่เขาหลับไปสามปีน่ะเหรอ ตลกไปหน่อยไหม”

“แปลว่าพวกคุณสองคนเพิ่งรู้จักกันถูกไหมคะ”

เซฮุนตอบอย่างเบื่อหน่าย ดูตรงๆ เหวี่ยงๆ อีกตามเคย แต่ถึงอย่างนั้นนักข่าวก็ยังจะชอบมาสัมภาษณ์เขาอยู่ดี นั่นคือสิ่งที่ทำให้เซฮุนรำคาญที่สุด

ส่วนเรื่องของลู่หาน เขากันไว้ด้วยการไปหาข้อมูลมาว่าเธอเป็นใคร? อะไร? ยังไง? แล้วก็เพิ่งรู้มาเหมือนกันว่าลู่หานหลับไปยาวนานถึงสามปี

ถึงว่า... เป็นดาราดัง ทำไมเขาไม่รู้จัก

“ครับ เมื่อวานตอนบ่ายๆ เวลา 13.32 น. เอาวินาทีด้วยไหมครับ”

“อ เอ่อ... ไม่เป็นไรค่ะ งั้นถ้าพวกคุณสองคนไม่ได้แอบคบกัน หรือมีซัมติงกัน แล้วทำไมเมื่อวานต้องไปด้วยกันสองคนล่ะคะ”

“พวกคุณรู้จักความบังเอิญหรือเปล่า แล้วทำไมครับ ไปด้วยกันจำเป็นต้องคบกันเสมอเลยเหรอ ผมอาจจะไปคุยงาน หรือว่าบังเอิญเจอกันก็ได้”

“อ่า งั้นพวกคุณจะวิ่งหนีกันทำไมล่ะคะ”

“ถามแปลก ถ้ามีคนวิ่งตามพวกคุณอยู่ พวกคุณจะยืนโง่ๆ ไหมล่ะครับ”

นักข่าวต่างหน้าซีดกันเป็นแถว ซึ่งก่อนจะมาสัมภาษณ์เซฮุนได้ ต้องผ่านการทำใจเอาไว้แล้ว เพราะทุกๆ คนรู้ดีว่าต้องหน้าชากันขนาดไหนในขณะถือไมค์จ่อปากร้ายๆ นั่นเพื่อจะเอาข่าว เรียกได้ว่า พวกเขาเป็นนักข่าวที่เอาไว้สัมภาษณ์โอเซฮุนโดยเฉพาะ เนื่องจากต้องคุ้นชิน และผ่านการทำใจก่อนมาสัมภาษณ์

“เมื่อวานคุณเซฮุนไปทำอะไรที่ห้างคะ ถึงได้บังเอิญไปเจอคุณลู่หานได้”

“ในห้างมีอะไรให้ทำเยอะแยะครับพวกคุณลองไปดู ส่วนเรื่องผมไปเจอลู่หานได้ยังไง จะให้ผมตอบว่ายังไงดีล่ะครับ ความบังเอิญก็คือความบังเอิญ มันคงไม่เหมือนการที่พวกคุณมาดักรอผมถึงลานจอดรถหรอกครับ ถูกไหม?”

“แล้วถ้ามีความบังเอิญขนาดนี้ จะมีสิทธิ์ลุ้นว่า คุณทั้งคู่จะมาคบกันไหมคะ”

“มันเป็นเรื่องของอนาคตครับ ผมไม่รู้”

“ตอบแบบนี้ แสดงว่า คุณเซฮุนก็อาจจะคบกับคุณลู่หานในอนาคตเหรอคะ”

“พวกคุณไม่เข้าใจคำว่าอนาคตเหรอครับ พวกคุณรู้อนาคตตัวเองกันหรือเปล่า ถ้าพวกคุณไม่รู้ อย่าถามผมครับ เพราะผมก็ไม่รู้”

“คุณ........” นักข่าวกำลังจะถาม แต่ดูเหมือนคำถามนี้จะไม่ได้รับคำตอบ

“พอครับ! ผมมีธุระต้องไปทำต่อ ขอตัว”

เซฮุนพูดเสียงดังขึ้นนิดหน่อย เพื่อแทรกเสียงนักข่าวมากมายให้หยุดชะงักลง ก่อนจะเดินหนีพวกนักข่าวไปอีกด้านในตำแหน่งคนขับ เจ้าตัวรีบขึ้นรถก่อนจะปลดกระจกรถลง พูดกับพวกนักข่าวที่ยังไม่ยอมเดินหนีไปไหนอีกครั้ง แถมยังยืนขวางทางรถเขาอีกต่างหาก

“หลบด้วยครับ! อย่าขวางทาง รถมันแรง!”

พวกนักข่าวได้ยินเสียงเซฮุนคำรามจึงรีบหลบทางให้

เมื่อเซฮุนเห็นนักข่าวหลบทางให้จึงรีบออกตัวรถไปด้วยความเร็วสูง เหมือนกับอารมณ์ที่กำลังพุ่งขึ้นสูงพอๆ กัน

 

เหอะ มันน่าโมโหขนาดไหนกันที่ดันเป็นข่าวเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง แถมพวกนักข่าวยังใจกล้ามาดักเพื่อรอสัมภาษณ์เขาถึงลานจอดรถขนาดนี้อีก ซึ่งสำหรับเซฮุน ในบางครั้ง พวกนักข่าวก็ดูทำเกินไปจริงๆ สำหรับเขา แต่ยังไงซะ เขาเองก็ต้องทำใจเหมือนกัน ในเมื่อเอาชีวิตมาพัวพันกับวงการบันเทิงเข้าซะแล้ว

 

 

100%

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว