สวัสดีครับผม ริกเตอร์ คูเวต อายุ 30ปี สัญชาติเยอรมัน

เรียกผมว่า "ริก" ก็ได้ครับ ผมเป็นมาเฟียที่เริ่มจะแก่ตัว ผมอยากมีผู้หญิงที่ผมรักอยู่ข้างกาย ธุรกิจที่ผมทำส่วนมากถูกกฎหมาย แต่ก็มีบางส่วนที่ผิดกฎหมาย ซึ่งผมก็แน่ใจว่าอาชีพที่ผมทำมันเป็นอาชีพที่เสี่ยงกับชีวิต คนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของผมได้ต้องเด็ดเดี่ยวพอ ถ้าถามผมว่าผมฆ่าคนไหมผมบอกเลยว่ามันก็ต้องมีอยู่แล้วครับ อาชีพมาเฟียมีหรือที่จะไม่ฆ่าคน ผมบอกเลยว่าผมไม่เคยขาดผู้หญิง พวกเธอมาเสนอผมก็แค่สนองกลับ มีแค่เรื่องผู้หญิงนี้แหละครับที่ผมเลว ไม่มีอะไรมากครับ ผู้หญิงพวกนี้ก็แค่หิวเงินอยากได้เงินเมื่อไหร่ ก็เข้าหาแต่คนรวยๆ อย่างเช่นผมเป็นต้น แต่ตอนนี้ผมยังไม่มีใคร ผมเองก็เริ่มแก่ขึ้นเรื่อยๆ แล้วด้วยสิ เลยอยากมีคนที่สามารถดูแลผมได้ตลอดไป ขอให้ผมได้เจอคนที่จะมาดูแลทั้งกายและใจผมเร็วๆ ด้วยเถอะ

 

สวัสดีค่ะฉันชื่อ เลนิน พิทักษ์ไพศาล อายุ24 ปี สัญชาติไทย

ฉันเป็นประธานโรงแรมพิทักษ์ไพศาล ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียวพ่อกับแม่ฉันเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำตอนที่ฉันพึ่งเรียนจบ ฉันเลยได้รับช่วงต่อมาจากพ่อ ดูแลกิจการโรงเเรมทั้งในและนอกประเทศทั้งหมด ตอนนี้ฉันก็ดูแลธุรกิจโรงเเรมของพ่อมา2ปีแล้ว ถ้าถามว่าฉันเหนื่อยไหมบอกเลยว่าเหนื่อยแต่มันก็ดีอย่างเสียอย่าง อย่างดีคือฉันไม่เหงา อย่างเสียคือมันทำให้ฉันไม่ค่อยได้พักผ่อน หลายคนถามฉันว่าทำไมถึงยังไม่มีแฟน ขอตอบเลยว่าฉันยังไม่พร้อมที่จะรักใคร ตอนนี้ในหัวฉันมีแต่เรื่องงาน ไม่มีเวลาเอาไปคิดเรื่องความรักและฉันก็ไม่เชื่อเรื่องรักแท้บ้าบอคอแตกอะไรนี้หรอก ฉันชอบมิตรภาพแบบเพื่อนมากกว่า มิตรภาพแบบนี้อยู่ได้นานกว่าคนรักเยอะ ถ้าเป็นไปได้ฉันขอขึ้นคานดีกว่ามีความรักแล้วเจ็บปวดแบบเพื่อนฉัน

 

ริกเตอร์#

@ประเทศไทย

วันนี้ริกเตอร์มาคุยงานที่ประเทศไทยเกี่ยวกับการค้าอาวุธให้รัฐบาลและพวกมาเฟียในประเทศไทยเป็นเวลาหนึ่งเดือน

"นายครับ ตอน3ทุ่มนายจะให้ผมนัดคุณเจสันไปคุยที่ไหนครับ" จอนบอดี้การ์ดคนสนิทพูด

" อืม ผับErT" ริกเตอร์ตอบ

"ครับนาย ผมจะจองโต้ะVIPไว้ให้ครับ" จอนตอบมาเฟียหนุ่ม แล้วต่อด้วยการโค้งคำนับทำความเคารพจากนั้นก็เดินออกจากห้องทำงานของริกเตอร์ไปทันที

หลังจากที่จอนเดินออกไปจากห้องแล้วริกเตอร์ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา เพราะเขาได้แต่คิดในใจว่าเมื่อไหร่เขาจะเจอคนที่มาอยู่ข้างกายและดูแลหัวใจของเขาได้สักที

จากนั้นสักพักริกก็นั่งทำงานต่อจนถึงเวลาที่นัดกับลูกค้ารายใหญ่ไว้

เลนิน#

ผับErT 2ทุ่ม

"เซฮาย~ กว่าจะมาได้นะแก" เมื่อฉันมาถึงโต้ะVIP2ยัยน้ำทิพย์ก็เรียกฉันด้วยเสียงแหลมปี้ด ฉันได้แต่ส่ายหน้าให้กับเพื่อนตัวเอง

"เฮ้อ อกหักครั้งที่เท่าไรแล้วแก" ฉันถามด้วยความเหนื่อยใจ

"ครั้งที่9เองแก ฮ่าๆ ๆ " เฮ้อเพื่อนฉันสมงสมองไปหมดแล้ว

"ครั้งที่9บ้านแกดิ ครั้งที่12บางเถอะ" ฉันพูดเตือนสติ

"ฮื่อๆ แก~ เขาเป็นเกย์ เขามาสารภาพกับฉันทีหลังแล้ว แล้วฮึก ฮือออ ฮึกแล้วเขาก็บอกอีกว่าเขามาคบกับฉันเพราะเงินอ่ะแก ฮื่อออๆ ๆ" น้ำทิพย์ร้องไห้ปล่อยโหออกมาอย่างหนัก ฉันก็ทำได้แค่กอดปลอบเท่านั้น ถ้าฉันพูดอะไรออกไปมันอาจจะทำให้เพื่อนฉันเสียใจมากกว่าเดิม ฉันเลยเลือกที่จะไม่พูดและเลือกวิธีที่อบอุ่นที่สุดให้กับเพื่อน

"แล้วนี้ดินเมื่อไหร่จะมาอ่ะทิพ" ฉันถามเพื่อที่จะเปลี่ยนเรื่องคุย

"น่าจะใกล้ถึงแล้วแหละ" ทิพย์ตอบ

หลังจากที่ฉันได้คำตอบจากทิพย์แล้ว เราก็นั่งดื่มกันสักพักจนตอนนี้ฉันกันทิพย์ก็กึ่มๆที่จะเมาแล้วแต่ดินเพื่อนอีกคนของเราก็ยังไม่มาสักที

1ชั่วโมงผ่านไป~ (3ทุ่ม)

"ดี สาวๆ " เสียงทักของดินเพื่อนสนิทเราอีกคน

"กว่าจะมาได้นะแกอ่ะ ไปม้อสาวแถวไหนมาละถึงได้ช้าแบบนี้อ่ะ" ฉันพูดแขวะมันเล่นๆ

" ตัวเองอย่างอลเค้าสิเค้ามีตัวเองคนเดียวน้า~"ดินตอบฉันด้วยการอ้อนกับท่าทางกวนๆ พวกเราเรียกแทนตัวเองว่าเค้ากับตัวเองมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยแล้ว ทำให้เราสนิทกันเป็นพิเศษ

" ตัวเองชอบมองผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่เค้าอ่ะ" ฉันตอบดินด้วยท่าทางติดตลก

" แหม่~ สองคนนี้เมื่อไหร่จะคบกันย้ะ เรียกกันแบบนี้ตั้งแต่มหาลัยจนทำงานเลยนะพวกแก"

น้ำทิพย์พูดแขวะฉันกับดิน

"คบเคิบอะไรกันแกฉันคิดกับดินแค่เพื่อนพวกแกก็รู้ดี มันแค่ติดปากเรียกกันแบบนี้เฉยๆ" ฉันตอบไปตามความจริง

การตอบไปแบบนั้นของนินทำให้ดินหน้าบึ้งทันทีแต่เธอไม่ทันได้สังเกตุเห็นสีหน้าของคนข้างๆ เพราะเธออยากเข้าห้องน้ำ

" ทิพย์ ดิน เดี๋ยวเรามานะขอไปเข้าห้องน้ำแปปนึง" ฉันบอกเพื่อน

"ให้เราไปเป็นเพื่อนไหมนิน" ดินถามด้วยความเป็นห่วง

" ไม่เป็นไรแกฉันไปคนเดียวได้"ฉันตอบดินพร้อมยิ้มหวานส่งไปให้ ดินก็ยิ้มตอบแล้วพยักหน้าเป็นสัญญาณให้ฉันไปเข้าห้องน้ำได้

ในขณะที่เลนินกำลังเดินไปเข้าห้องน้ำ เธอได้เดินไปชนกับผู้ชายร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาเข้า แต่เธอก็ไม่ได้ต่อว่าเขาเพราะเธอเองก็ผิดที่เดินไม่ดูทาง

"โอ้ย ขอโทษค่ะ" ฉันพูดขอโทษแล้วรีบเดินไปยังห้องน้ำ

"เดี๋ยวครับคุณ"

ตัดภาพมาที่เหตุการณ์ก่อนเข้าผับ

อื้ด~ อื้ดๆ ~เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในขณะที่เลนินกำลังเคลียเอกสารอยู่

"ฮัลโลแกมีไรฉันกำลังเคลียเอกสารอยู่ รอแปปนะแก"

"ฮื่อๆ ๆ ๆ ~ แกฉันอกหักอีกแล้วเว้ยฮึก ฮื่อ~"

น้ำทิพย์บอกด้วยน้ำเสียงสะอื้นปนร้องไห้

"เห้ยแกอีกแล้วหรอ แกใจเย็นๆ ก่อนนะ"

ฉันบอกเพื่อนด้วยความใจเย็น

"อื้อแก~ 2ทุ่มเจอกันที่ผับErtนะ ฉันรู้ว่าตอนนี้แกยุ่งอยู่"

น้ำทิพย์บอกฉันอย่างรู้ใจ

"โอเคจ้ะเพื่อนเลิฟ 2ทุ่มเจอกันนะ"

"จ้ะ"

#เลนินend

@ปัจจุบัน

"เดี๋ยวครับคุณ" ริกเตอร์เรียกผู้หญิงที่พึ่งเดินชนกับเขาไปเมื่อครู่

"คะ? " เลนินทำหน้างงเมื่ออยู่ๆ เขาก็เรียกเธอ

"ผมขอถามชื่อคุณหน่อยได้ไหมครับ"

ริกเตอร์ถามด้วยความสนใจ

"อยากรู้ชื่อฉันไปทำไมคะ " นินตอบไปอย่างหน้าตาย

"ผมอยากจีบคุณ" ริกเตอร์ตอบด้วยสายตาจริงจัง แต่น่าเสียดายที่เลนินมองไม่เห็นเพราะความมืดผสมกับแสงไฟสลัวๆ ทำให้เธอมองไม่ค่อยชัด

เขารู้สึกถูกชะตากับเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า เขาเลยเลือกที่จะจีบเธอเป็นคนแรก

"ฉันขอปฏิเสธเลยก็แล้วกันนะคะ" เลนินตอบด้วยความเคยชินหลังจากนั้นเธอก็รีบเดินหนีออกมา เธอโดนลูกประธานบริษัทใหญ่ๆ มาจีบเธอบ่อยครั้ง จึงทำให้คำพูดของริกเตอร์เป็นคำพูดที่น่าเบื่อและไม่อยากฟัง

"ผมจะจีบคุณให้ได้คอยดู" เสียงริกเตอร์ตะโกนตามหลังเลนิน แต่เธอหาได้สนใจไม่

ผมจะตื้อคุณให้ถึงที่สุดเลยคอยดู ริกเตอร์คิดในใจ

@โต้ะVIP1

"สวัสดีครับคุณเจสัน" ริกเตอร์ทักทายลูกค้ารายใหญ่

"สวัสดีครับคุณริกเตอร์" เจสันตอบ

"เรามาเริ่มคุยกันดีกว่าครับว่าจะให้ทางเราส่งอาวุธไปที่ไหน" หลังจากทักทายกันเสร็จริกเตอร์และเขาก็เริ่มคุยหาลือเรื่องรายละเอียดการส่งอาวุธและจำนวนอาวุธที่จะส่ง

2ชั่วโมงผ่านไป

"ขอบคุณมากครับคุณริกเตอร์ ไว้ทางเราจะสั่งอาวุธเพิ่มอีกนะครับ" เจสันบอกขอบคุณอย่างเป็นมิตร

"ครับขอบคุณครับ" ริกเตอร์ตอบ

"จอนไปส่งคุณเจสันด้วย"

"ครับ" จอนตอบแบบนอบน้อมแล้วเดินไปส่งเจสัน

ในขณะที่ริกเตอร์กำลังนั่งผ่อนคลายอารมณ์ไปกับเสียงเพลงในผับ สายตาของริกเตอร์หันไปเห็นหญิงสาวที่ตัวเองหมายปอง กำลังนั่งคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง ริกเห็นแบบนี้จึงรู้สึกอยากเข้าไปขัดให้พวกเขาออกจากกัน

"สวัสดีครับคุณคนสวย เราเจอกันอีกแล้วนะครับ" เลนินหันไปตามเสียงทักของใครบางคน

"ค่ะ" เลนินตอบแบบไม่สนใจอะไรแล้วหันไปคุยกับดินต่อ

"จะไม่สนใจผมสักหน่อยหรอครับ" ริกเตอร์พูดด้วยอาการน้อยใจ เขาอุตส่าห์ลงมาทักเธอแต่เธอกลับไม่สนใจ

"ตัวเองนอกใจเค้าหรอ~ทำไมมีผู้ชายมาทักตัวเองด้วยอ่ะ" ดินพูดพร้อมกับกอดแขนเลนินไว้แล้วทำหน้าออดอ้อน ริกเตอร์เห็นภาพตรงหน้าแล้วเลือดขึ้นหน้าไม่ใช่น้อย เขาจองผู้หญิงคนนี้ไว้แล้วคนอื่นไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเธอนอกจากเขา

"เค้าไม่เคยนอกใจตัวเองนะ~" เลนินตอบพร้อมดึงแก้มของดินส่ายไปส่ายมา

ริกเตอร์เห็นดังนั้นเขายิ่งโมโห เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นไรอะไรอยู่ดีๆ ก็หงุดหงิด ที่เห็นเธอพูดคุยแล้วยังถึงเนื้อถึงตัวกับผู้ชายแบบนี้ เขาเห็นแล้วไม่ชอบ เขาเลยเดินกระฟัดกระเฟียดกลับมาที่โต้ะดังเดิม พอจอนมาถึงริกเตอร์ก็ใช้ให้จอนไปสืบหาประวัติผู้หญิงคนที่เขาหมายปอง

"จอนคืนนี้หาผู้หญิงมาให้ฉันด้วย" ริกเตอร์สั่งจอน

"ไม่ต้องหาครับนายวันนี้จีจี้มารอนายที่คอนโดแล้วครับ" จอนตอบผู้เป็นนาย

"อืม จะได้ไม่ต้องหาให้เหนื่อย"เมื่อริกเตอร์ตอบจอนขับรถมาส่งเจ้านายถึงคอนโด

@คอนโดริกเตอร์

"ถึงแล้วครับนาย" จอนเดินไปเปิดประตูพร้อมบอกกับเจ้านายตัวเอง

"อืม จะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ" ริกเตอร์บอกด้วยอารมณ์อยากปลดปล่อย

" ครับ" จอนตอบอย่างรู้งาน

@ห้องริกเตอร์

"ริกขาาา~ จีจี้มารอตั้งนานทำไมริกมาช้าแบบนี้ละคร้าาาา~" จีจี้พูดเสียงหวานพร้อมทำท่าออดอ้อนแต่มันไม่ได้ทำให้ริกเตอร์รู้สึกดีเลย

"ยุ่ง ไปรอที่เตียงเดี๋ยวฉันตามไป" ริกตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย

จีจี้ทำตามที่ริกเตอร์บอกทุกอย่างเธอไปนอนรอเขาที่เตียงพร้อมถ่างขารอริกเตอร์โดยที่เขาไม่ต้องสั่ง

"หึ ร่านจริงๆ" ริกเตอร์แสยะยิ้มพร้อมหยิบถุงยางอนามัยมาสวมเรื่องความปลอดภัยเขาไม่เคยพลาด หลังจากนั้นริกเตอร์ก็จับแก่นกายยัดเข้าไปในโพรงสวาทโดยไม่มีการเล้าโลมใดๆ ทั้งสิ้นริกกระแทกเข้าออกด้วยความเร็วและแรง

"กรี้ดดด อื้อๆ อ่าาา อ่ะๆ เบาๆ สิค่ะริก" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

"อย่ามาเรียกชื่อเล่นผม ผมไม่ชอบ" ริกเตอร์ตอบด้วยความหงุดหงิดทำเอาจีจี้หน้าเปลี่ยนสีแต่มีหรอคนแบบเขาจะสนใจ เขาเริ่มบทรักอันดิบเถื่อนต่อไปจนเกือบเช้า

ตอนเช้า

@โรงแรมพิทักษ์ไพศาล ห้องประธานโรงแรม ก๊อกๆ เสียงเคาะประตู

"ขออนุญาติค่ะท่านประธาน" เลขาสาวสวยเอ่ยขออนุญาต

"มีอะไรค่ะพี่แจน" เลนินถามพี่แจน

"คือว่าพี่เอาการ์ดแต่งงานมาให้ค่ะ"  พี่แจนพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

"ว้าว ดีใจด้วยนะค่ะพี่เจน" เลนินบอกด้วยรอยยิ้มที่สดใสและความจริงใจ

"น้องนินต้องมาให้ได้นะคะพี่อยากให้น้องนินไป"เลขาสาวออดอ้อนให้หญิงสาวไปงานแต่งของเธอให้ได้เพราะเลนินเปรียบเสมือนน้องสาวแท้ๆของเธอ

"ค่ะ นินจะเคลียงานรอเลยค่ะ" เลนินตอบด้วยความน่ารักของเธอ

"งั้นพี่ไปทำงานก่อนนะคะ" หลังจากที่เลขาสาวสวยออกไปสักพักก็มีเสียงเคาะประตูขึ้นมาอีกครั้ง ก๊อกๆ 

"เข้ามาได้เลยค่ะพี่เเจน" เลนินพูดแต่เธอก็ยังไม่ได้เงยหน้าออกจากกองเอกสาร

"มีอะไรรึเปล่าคะ" เลนินพูดพร้อมเงยหน้าออกจากกองเอกสาร เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาเจอกับร่างสูงของริกเตอร์ทำให้อารมณ์เธอเปลี่ยนอย่างเร็ว จากอารมณ์ดีสีหน้ายิ้มแย้มก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นบึ้งตึงทันที

"มาหาว่าที่เมียในอนาคตไม่ได้หรอครับ" ริกเตอร์ตอบด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่กวนบาทา

"ใครว่าที่เมียคุณไม่ทราบ แล้วคุณมาที่นี้ทำไม" เลนินตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด แทนที่เธอจะได้ทำงานแบบมีความสุขแต่ก็ต้องอารมณ์เสียเมื่อเจอเขา ว่าแต่เขารู้ได้ไงว่าเธออยู่ที่นี้

"แค่ตามหาคนของใจมันจะไม่ยากตรงไหนล่ะครับคนสวย ผมก็แค่ถ่ายรูปคุณแล้วให้คนของผมไปสืบว่าคุณเป็นใครแค่นี้เองครับ" ริกเตอร์อธิบายด้วยหน้าตายียวนกวนประสาท เลนินโกรธเป็นฝืนเป็นไฟเธอไม่ชอบให้ใครมาก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของเธอ เขามีสิทธิ์อะไรมาสืบประวัติเธอ

"ฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัว" เลนินตอบด้วยเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัว ทำให้ริกเตอร์หน้าหงอยลงทันที

"ผมขอโทษ" ริกเตอร์สำนึกผิดจากใจจริง ตามจริงเขารู้ว่าเธอไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายหรือก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว เขาแค่พูดเล่นๆไม่คิดว่าเธอจะโกรธเขาจริงๆ

"ออกไปจากห้องทำงานฉันเดี๋ยวนี้!" เลนินไล่เขาด้วยความหงุดหงิด ริกเตอร์ก็ออกไปอย่างว่าง่ายโดยไม่ขัดขืนอะไรทั้งสิ้น

หลังจากที่ริกเตอร์ออกไปจากห้องของเธอ เลนินก็ได้แต่ถอนหายใจ เธอไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับเธอ เธอรักอิสระรักความเป็นส่วนตัว เธอถึงบอกไปตั้งแต่เนิ้นๆว่ายังไม่พร้อมที่จะรักใคร

@ตกเย็น

อื้ดดดด อื้ดดดดด อื้ดดดดดด

"Say hi เพื่อนเลิฟฟฟฟ แกกกกกกลงมาร้านคาเฟ่โรงแรมตัวเองหน่อยดิฉันมีคนจะแนะนำให้แกรู้จัก"  เมื่อเลนินรับสายน้ำทิพย์ เธอก็ไม่ยอมให้เลนินพูดแทรกเพราะเธอรู้ว่าเพื่อนของเธอขี้บ่นสุดๆ

"อืม ได้จ้ะเดี๋ยวลงไปขอเคลียงานอีกแปปนะ" เลนินตอบอย่างรู้ทัน เธอรู้ว่าเพื่อนเธอต้องเอาแฟนใหม่มาแนะนำให้เธอรู้จักแน่นอน

@ร้านHello Coffee

เลนิน#

เมื่อฉันมาถึงร้านฉันก็เห็นยัยเพื่อนตัวดีนั่งรออยู่ที่โต๊ะติดกับจุดชมวิวบนตึก แต่ที่สำคัญคือโต้ะถัดไปคือคนที่ฉันไม่ชอบขี้หน้าที่สุด เห็นหน้าเขาทีไรฉันหงุดหงิดทุกที แต่ฉันทำเป็นไม่สนใจ

"ว่าไงแก จะแนะนำแฟนใหม่ให้ฉันรู้จักหรอ" ฉันพูดออกไปยิ้มๆ

"แหม่~แกก็ รู้ใจฉันตลอดเลยนะ นี่แดนแฟนใหม่ฉัน" น้ำทิพย์หันมาคุยกับฉันแล้วหันไปแนะนำแฟนเธอให้ฉันรู้จัก แต่ฉันไม่ค่อยชอบแฟนคนใหม่ของทิพย์เลย แลดูเจ้าชู้กว่าคนก่อนๆอีก "ยินดีที่ได้รู้จักนะคะฉันเลนิน พิทักษ์ไพศาล ค่ะ งั้นฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะแก" ฉันยื่นมือไปทักทายแฟนน้ำทิพย์ และเขาก็ทักทายตอบแต่ประเด็นคือเขาไม่ยอมปล่อยมือสักที ฉันก็เลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แล้วต่อมาแฟนใหม่ของทิพย์ก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำเหมือนกัน  เลนินหารู้ไม่ว่าการกระทำทุกอย่างที่เธอทำ อยู่ในสายตาของริกเตอร์ทั้งหมด เขาหงุดหงิดที่เธอยื่นมือไปจับมือกับไอหน้าจืด ซึ่งเขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเลย แต่ที่สำคัญคือไอหน้าจืดเดินตามเธอไปเข้าห้องน้ำเขาเลยเดินตามผู้ชายคนนั้นไปเพราะเขาเริ่มเป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

@ห้องน้ำ

"เดี๋ยวสิครับคุณเลนิน" ฉันเดินเข้ามาในห้องน้ำอยู่ดีๆก็มีมือใครไม่รู้มากระฉากข้อมือ พอมองไปที่ตัวต้นเหตุก็รู้ว่าเป็นใคร

"ต้องการอะไร" ฉันถามออกไปเพราะไม่ชอบยุ่งกับแฟนเพื่อน

"ต้องการคุณ" เเดนพูดจบก็เริ่มเอามือมาลูบต้นขาของฉัน ซึ่งบอกเลยว่าโคตรขยะแขยง แต่อยู่ๆก็...  พลั้วๆ ปักๆ อักๆ อยู่ดีๆก็มีคนกระฉากหมอนั้นไปต่อย ฉันเลยมองไปที่คนต่อย ฉันก็เลยรู้ว่าเป็นเขาคนที่ตามจีบฉัน อย่างน้อยเขาก็เป็นคนดีล่ะกัน ฉันมองเหตุการณ์ที่อยู่ข้างหน้าสักพักจึงเข้าไปห้ามเพราะฝ่ายที่โดนต่อยตอนนี้สภาพดูไม่ได้เลย และเดี๋ยวมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ "คุณพอได้แล้วฉันไม่อยากให้มีคนตายในโรงแรมฉัน" ฉันบอกเขาแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ฟัง พลั้วๆ เขาต่อยไปอีกสองครั้ง สภาพคนโดนต่อยนี้บอกเลยว่าดูไม่ได้เลย

"มึงจำไว้ว่าอย่ามายุ้งกับผู้หญิงของกู" เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เอ้ะทำไมใจฉันถึงเต้นแรงแปลกๆล่ะฉันไม่สบายรึเปล่า

@เหตุการณ์หลังออกมาจากห้องน้ำ

"ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยฉัน"

ฉันพูดขอบคุณด้วยความจริงใจและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

"แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะ ฉันเลนิน พิทักษ์ไพศาล เรียกฉันว่านินก็ได้ค่ะ"

หลังจากที่เลนินแนะนำตัวเสร็จเธอก็ยื่นมือออกมาเพื่อทำความรู้จัก

ประโยคแนะนำตัวของเลนินทำให้ชายหนุ่มยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวด้วยความดีใจ ชายหนุ่มรีบยื่นมือไปจับมือหญิงสาวด้วยความสุขอันเปี่ยมล้น

" ครับ ผมริกเตอร์ คูเวต ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการครับ เรียกผมสั้นๆว่าริกหรือที่รักก็ได้นะครับ" ริกเตอร์แนะนำตัวอย่างสุภาพ แต่อย่างหลังเขาพูดด้วยความทะเล้น

".... นินเป็นหนี้บุญคุณ คุณริกเตอร์แล้วนะคะ จะให้ตอบแทนยังไงก็บอกได้เลยนะ" เลนินพูดออกมาด้วยความเกรงใจและเธอเลือกที่จะไม่ตอบคำถามทะเล้นของเขาพระเธอคิดว่ามันไร้สาระ

แต่หารู้ไม่ว่าคำพูดของเธอกำลังทำให้ริกเตอร์มีโอกาสเข้าใกล้เธอมากขึ้น

"งั้นผมขอให้คุณหายโกรธผม แล้วก็.... "

ริกเตอร์พูดกำกวมเพื่อให้เธออยากรู้

" แล้วก็อะไรคะ" เลนินถามอย่างสงสัย

" แล้วก็ยอมให้ผมจีบด้วยนะครับ" ริกเตอร์ยิ้มหน้าบานเมื่อเขามีโอกาสที่จะได้จีบเธอ

"อย่างแรกที่คุณขอให้ฉันหายโกรธ ตอนนี้ฉันยกโทษให้แล้วไม่ได้โกรธอะไรคุณแล้ว แต่อย่างหลัง... " เลนินคิดหนักเรื่องที่เขาจะขอจีบเธอเพราะเธอยังไม่อยากมีความรักกับใคร

"อย่างหลังทำไมหรอคับ" ริกเตอร์พูดอย่างหมดหวัง

"คำขออันหลังของคุณ ฉันคงให้ไม่ได้นะคะ" เลนินตอบเสียงเเข็ง เพราะเธอเชื่อว่าผู้ชายบนโลกนี้ไม่มีคนที่จริงใจและจริงจังสักคน

"คำขออย่างหลังของผมถึงคุณจะไม่ได้ให้ แต่ผมจะสร้างโอกาสให้ตัวเอง แสดงให้เห็นว่าผมรักเดียวใจเดียว และมีคนเพียงคนเดียวที่ผมจะรัก" ริกเตอร์พูดอย่างหนักแน่น ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ฟังเลยก็ตาม

แต่คิดหรอว่าแค่นี้จะหยุดเขาได้ เรื่องหน้าหนาหน้าทนต้องยกให้เขาคนเดียว

"ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อนนะคะ" เลนินเลือกที่จะไม่ฟังที่เขาพูด เธอขอตัวออกมากจากเขา เพราะไม่อยากอยู่ใกล้ผู้ชายที่มีท่าทางเจ้าชู้และกะล่อน

ผมจะทำให้คุณรักผมให้ได้เลนิน ริกเตอร์พูดในใจ

เขามั่นใจเหลือเกินว่าเธอคนนี้คือแม่ของลูกเขาแน่ๆ ความรู้สึกของริกเตอร์ตอนนี้คือผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลต่อใจของเขาแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เลนิน#

หลังจากที่ฉันเดินออกมาจากเขาแบบไม่สนใจใยดี ฉันก็มาทำงานที่ค้างคาไว้ต่อจากเมื่อตอนเย็น ส่วนยัยทิพย์เพื่อนข้าพเจ้าก็หาแต่เรื่องปวดหัวมาให้ไม่เว้นเเต่ละวันเลยจริงๆ จะทำไงได้ล่ะ ก็เพื่อนกันยังไงมันก็ต้องช่วยกัน ส่วนไอพวกผู้ชายก็มักมากเหมือนกันหมดทุกคน ฉันละห่วงเพื่อนฉันจริงๆขอให้เพื่อนมันเจอคนดีๆด้วยเถ๊อะ

#เลนินend

หลังจากที่ริกเตอร์ออกมาจากโรงเเรมของเลนิน เขาไม่มีสมาธิทำงานเลยแม้แต่น้อย เอาแต่คิดวิธีที่จะตามตื้อเลนินเพื่อที่เขาจะได้ใจเธอ คิดไปสัก(5ชม.)พัก เขาก็โทรหาบอดี้การ์ดคนสนิท

ริกเตอร์#

"ฮัลโล โทรจองชั้นบนสุดทั้งหมดของภัตตาคารให้ด้วย พรุ่งนี้ตอนเย็นจะพาคนพิเศษไปดินเนอร์"

ผมโทรสั่งบอดี้การ์ดคนสนิทให้จองชั้นบนสุดของภัตตาคารสุดหรู

หึ หึ ทุกคนคงรู้ว่าผมมีแผนที่จะตื้อเลนิน รอบนี้ไม่พลาดแน่ๆ ผมต้องได้ใจเธอมาสัก50เปอร์เซ็นต์ อันนี้ผมไม่ได้หวังเยอะเลยจริงๆนะ ผมหวังน้อยม๊ากกกกก งั้นผมขอเตรียมตัวไปหาที่รักของผมก่อนนะครับทุกคน

@บ่าย3โมง

ตอนนี้ผมขึ้นลิฟท์ไปหาเธอที่ห้องทำงาน นั้นก็คือชั้นบนสุดของโรงแรม

วันนี้ผมแต่งตัวหล่อเป็นพิเศษ ปกติก็หล่อนะ แต่วันนี้ขอหล่อกว่าทุกวันนิ๊ดนึง

ตอนนี้ผมถึงชั้นที่เลนินอยู่เรียบร้อยแล้วครับ

"ขอโทษนะคะถ้าไม่ได้นัดไว้ เข้าไม่ได้นะคะ" เสียงเลขาหน้าห้องวิ่งมากันไม่ให้ผมเข้าไป

รอบที่แล้วที่ผมเข้าไปหาเธอได้เพราะผมโกหกว่านัดไว้ล่วงหน้า

"ขอโทษนะครับขนตาคุณหลุดรึเปล่า" ผมพูดโกหกเลขาหน้าห้องไป

"อุ้ย จริงหรอคะ" เลขาบอกพร้อมกับหันไปมองกระจก

ผมโกหกแล้วรีบเปิดประตูห้องเข้าไปหาเลนิน

ภาพที่ผมเห็นคือ....

......ภาพที่ผมเห็นคือ มีผู้ชายคนนึงนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเลนิน แต่ผมโคตรคุ้นหน้าไอหน้าจืดนี้มากเลย แต่ตอนนี้ชั่งหน้ามันไปก่อนเถอะ สนใจประโยคที่มันพูดดีกว่า

"นินครับเป็นแฟนกันนะ" เสียงไอหน้าจืดขอเธอเป็นแฟน หึ หน้าอย่างมันเนี่ยนะนินจะตกลงเป็นแฟนด้วยไม่มีทางเด็ดขาด

"ตกลงค่ะ" เพล้ง! เสียงหน้าผมเองแหละครับ แตกเป็นเสี่ยงๆละเอียดยิ้บ ทำไมนินตอบตกลงเป็นแฟนกับมันง่ายจังอ่ะ ทีตอนผมจีบเธอ เธอยังไม่ยอมให้จีบเลย ผมน้อยใจนะเนี่ย

"เห้ย คุณเข้ามาในห้องฉันได้ไง เลขาหน้าห้องไม่ได้บอกคุณหรอว่าถ้าไม่ได้นัดก็ห้ามเข้า"

พอเธอเห็นผมเธอก็พูดออกมาด้วยความหงุดหงิดปนตกใจ

"ผมก็เข้ามาทางประตูไง เลขาคุณห้ามแต่ผมมึนเข้ามาเอง ทำไมกลัวผมมาขัดเวลาสวีทของคุณหรอ" ผมพูดออกมาด้วยความน้อยใจ เลนินไม่เห็นเคยให้โอกาสผมแบบนี้เลย แต่คิดหรอว่าแค่นี้ผมจะยอมแพ้ ผมก็เลยเดินเข้าไปหาเลนิน แล้วก็

"อุ้บ อื้อออออ" ไม่ต้องตกใจครับผมเดินเข้าไปจูบเธอเอง หวานใช่ย่อยเลยนะเนี่ยปากเธอหวานแล้วส่วนอื่นเธอจะหวานรึเปล่านะ อยากลองชิมส่วนอื่นแล้วสิ

"อื้อ อ่อยอ่ะไออ้าาา" ผมถอดริมฝีปากออกมาช้าๆ ถึงจะอยากจูบต่อก็เถอะนะ ส่วนไอหน้าจืด หน้านี้เหวอเลยครับ อึ้งอ่ะดิหรือผมไปทับรอยมันหว่า

"ไอบ้า ไอชั่ว ไอสารเลว จูบแรกของฉัน ไอไม่หล่อ ไอคนหน้ามึน ไอๆ โอ้ยฉันไม่รู้จะด่านายยังไงแล้ว ไอหื่นกาม" ผมไม่สนใจคำพูดเธอหรอกครับแต่มีแค่สองคำที่ผมสนใจคือผมเป็นคนแรกที่จูบเธออันนี้โคตรดีใจเลยครับ แล้วไอไม่หล่อนี่ผมรับไม่ได้ครับ ถ้าริกเตอร์ คูเวต ไม่หล่อแล้วใครจะหล่อละฟร่ะ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาน้อยใจในคำพูด สนใจคนตัวเล็กข้างหน้าดีกว่า ตอนนี้โกรธหน้าดำหน้าแดงแล้ว ส่วนไอหน้าจืดที่ยืนทำหน้าเหว คงอิจฉาผมสินะ หึหึ

อ้ออีกอย่างครับทุกคน ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมเลขาหน้าห้องไม่เข้ามาห้าม ผมสั่งจอนให้ขึ้นมากันเลขาหน้าห้องเพื่อไม่ให้เข้ามากวนเวลาของผมครับ เป็นไงล่ะผมคนดีจะตาย

#ริกเตอร์end

 

"นายออกไปจากห้องฉันเลยนะ" เลนินไล่ริกเตอร์ออกไปจากห้องแบบไม่สนใจใยดี แต่ริกเตอร์ไม่แคร์ตอนนี้เขาอารมณ์ดีที่ได้จูบแรกเธอ

"ผมยังไปไม่ได้หรอกครับ ผมยังไม่ได้คุยธุระของผมเลย" ริกเตอร์พูดด้วยสายตาเจ้าเล่ห์แต่เลนินไม่เห็นเพราะตอนนี้เธอยืนก้มหน้าทั้งโกรธทั้งอาย

"อืมได้ ดินแกกลับไปก่อนนะ ถ้ามีอะไรจะให้ช่วยอีกก็โทรมานะ" เลนินตอบริกเตอร์ด้วยอารมณ์ที่เย็นลง แล้วหันไปคุยกับเพื่อนสนิทของเธอ

"โอเคตามนั้นก็ได้ ระวังตัวดีๆนะนิน แถวนี้พวกลักกินขโมยกินมันเยอะ บายนะ" ดินพูดด้วยท่าทางยียวนกวนประสาทก่อนจะออกจากห้องไป แต่คำพูดนี้ก็ไม่ค่อยสะทกสะท้านคนอย่างริกเตอร์สักเท่าไหร่ เพราะเขามันหน้าด้าน

"นายมีอะไรก็ว่ามา" เลนินบอกด้วยความเหนื่อย

"ไปกินข้าวกัน" ริกเตอร์พูดรวบรัดแบบไม่อ้อมค้อม

"ทำไมต้องไป" เธอถามด้วยความสงสัย

"ตอบแทนบุญคุญไงครับ แค่คุณไปกินข้าวกับผมก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุญแล้วครับ"

ริกเตอร์บอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

"อืมก็ได้ ขอเครียเอกสารแปปนึง นายนั่งรอก่อนก็แล้วกัน"

เลนินบอกริกเตอร์ก่อนที่เธอจะนั่งเซ็นเอกสารกองเท่าภูเขา

~1ชั่วโมงผ่านไป~

"นาย ตื่นๆ ตื่นได้แล้วฉันเซ็นต์เอกสารเสร็จหมดแล้ว"

เมื่อเลนินเซ็นเอกสารเสร็จทั้งหมดแล้ว เธอเห็นริกเตอร์นอนหลับเธอจึงเข้าไปปลุก แต่ หมับ

"นี่นายจะทำอะไร" ริกเตอร์ดึงเเขนเลนินให้นอนทับร่างของเขา

"อยากดึงว่าที่เมียในอนาคตมากอดไม่ได้หรอครับ" ริกเตอร์บอกด้วยท่าทางกวนๆแต่มีความจริงใจอยู่ลึกๆ ริกเตอร์ไม่เคยใช้คำว่าเมียกับใคร เลนินเธอเป็นคนแรกที่ให้คำนี้ด้วย

"ใครว่าที่เมียในอนาคตนายไม่ทราบ" เลนินบอกด้วยใบหน้าแดงใจเต้นแรงขึ้นๆเรื่อยๆ

"หึ เดี๋ยวก็ได้เป็นเร็วๆนี้แหละครับ"

ริกเตอร์ขำในลำคอ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าใจเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็เธอนอนทับเขาอยู่ไง อย่างน้อยๆเธอก็คงเริ่มมีใจให้เขาบ้างแล้ว

"ไปกันได้ยังคะหิวแล้ว" เธอบอกด้วยท่าทางเขินอาย เกิดมา24ปีพึ่งรู้สึกแบบนี้ครั้งแรก

"ครับไปกินข้าวกัน" ริกเตอร์ตอบพร้อมกลับค่อยๆลุกออกจากโซฟา

หลังจากนั้นริกเตอร์ก็ขับรถพาเลนินไปภัตตาคารสุดหรูที่เขาจองไว้สำหรับเธอโดยเฉพาะ

เนลิน#

ตอนนี้ฉันกับนายริกเตอร์มาถึงภัตตาคารแล้ว เรากำลังจะขึ้นไปชั้นบนสุด

ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นชั้นบนสุดแค่เลี้ยงข้าวแค่นี้จำเป็นต้องขึ้นไปสูงไหมเนี่ย คนสวยชักเพลียเฮ้อ

พอๆฉันจะเลิกบ่นละ คนสวยจะมาเล่าเหตุการณ์ก่อนที่ไอบ้ากามริกเตอร์จะเข้ามาในห้องทำงานละกัน

คือตอนนั้นฉันก็นั่งเซ็นต์เอกสารปกติเหมือนทุกวันนั้นแหละ แต่อยู่ๆดินก็เข้ามาแล้วขอให้ช่วยซ้อมบทละคร

ตอนแรกฉันทั้งงงทั้งตกใจ

มันบอกให้ช่วยซ้อมบทให้ พอมันอธิบายฉันก็พึ่งเข้าใจว่ามันถูกทาบทามให้ไปเป็นนักแสดงโดยเซเลปชื่อดัง

ดินมันเล่าว่าตอนแรกจะไม่เข้าวงการ แต่พอดินนึกออกว่าคนที่มันแอบชอบตอนสมัยมหาลัยทำงานอยู่ในวงการนี้

มันเลยเปลี่ยนใจเป็นตอบตกลงเพราะนายดินคนหล่อของเราจะเดินหน้าจีบเต็มกำลังแล้วจ้า

พอไอหล่อดินเข้าวงการ แล้วงานหยาบอยู่ที่ใครละคะ ข้าพเจ้าไงช่วยซ้อมบทให้มัน ซ้อมบทไหนไม่ซ้อม มาซ้อมบทขอเป็นแฟน

ฉันจะบ้าตายชีวิตนี้ไม่เคยมีโมเมนต์แบบนี้ แทนที่จะให้ยัยทิพย์ช่วยยยยย แต่ทำไมไอ้ดินมันถึงเลือกฉันมาซ้อมบทแบบนี้กับมัน

อยากจะร้องไห้~ แต่ให้ทำไงได้ก็เพื่อนนิมีอะไรช่วยได้ก็ช่วยกันไป สุดท้ายก็ต้องตอบตกลงแบบจำใจ แต่ใครจะไปคิดละว่าจะมีคนเข้ามาตอนซ้อมบท ฉันก็อายเป็นนะเว้ย ถ้าคนอื่นเห็น ฉันจะไม่ว่าเลยแต่นี้ผู้ชายที่บอกจะจีบฉันตั้งสองครั้ง

พอเขาได้ยินแบบนี้เขาจะรู้สึกไม่ดีรึเปล่านะ แต่ผิดคาดนายนั้นกล้ามาก อยู่ดีๆก็มาขโมยจูบแรกของฉันไป

ตอนแรกก็ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด แต่ตอนนี้ฉันไม่อธิบายแล้วคนฉวยโอกาสแบบเขาไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้ฟังเด็ดขลาดฉันเกลียดนายไอคนชอบฉวยโอกาส

#เลนินend

 

@ปัจจุบัน

ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ที่ชั้นบนสุดของภัตตาคารสุดหรู บรรยากาศข้างบนเหมาะแก่การดินเนอร์ แสงสุริยันกำลังลับขอบฟ้า ให้ความรู้สึกโรแมนติกเหมือนอยู่กับคนรัก เลนินมองภาพบรรยากาศอย่างเพลิดเพลิน นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้มามองพระอาทิตย์ในยามเย็นแบบนี้ พอได้กลับมามองพระอาทิตย์ในช่วงเวลาแบบนี้แล้วทำให้เธอนึกถึงตอนที่พ่อแม่เธอยังอยู่ ท่านทั้งสองชอบพาเธอมาในที่แบบนี้ เพราะมันทำให้รู้สึกดี ผ่อนคลายและไม่เครียด

ในขณะที่เลนินกำลังยืนคิดอะไรเพลินๆอยู่ตรงระเบียงของชั้นบนสุด ริกเตอร์ได้จัดโต้ะและวางอาหารไว้ในมุมที่น่ารับประทาน เขาสั่งทำอาหารให้พิเศษกว่าปกติเพื่อเธอโดยเฉพาะ ตั้งแต่ริกเตอร์เจอเธอที่ผับวันนั้น เขาก็คอยสังเกตตลอดว่าวัน วันนึงเธอทำอะไรบ้าง แต่สิ่งที่เธอทำคืองานกับงาน กว่าเธอจะได้กลับบ้านก็ดึกแถมยังมาทำงานแต่เช้าทุกวันอีก เขาเลยอยากให้เธอออกมาเจอบรรยากาศดีๆแบบนี้เธอจะได้รู้สึกผ่อนคลายบ้าง เห็นริกเตอร์มึนๆแบบนี้เเต่เขาเป็นคนที่ใส่ใจความละเอียดมากเลยนะ เพราะเหตุนี้เขาเลยเลือกที่นี้เพื่อให้เธอผ่อนคลายและเพิ่มคะแนนให้กับตัวเอง

"นินครับ" ริกเตอร์เรียกเธอเสียงแผ่ว

"คะ" เสียงเรียกของริกเตอร์ทำให้เลนินหลุดออกจากภวังค์

"โต้ะอาหารพร้อมแล้วนะครับ" ริกเตอร์บอกพร้อมดึงเก้าอี้ให้เธอนั่งได้สะดวกขึ้น

"ค่ะ ขอบคุณค่ะ" เลนินหันไปยิ้มขอบคุณให้ริกเตอร์

หลังจากนั้นทั้งริกเตอร์เเละเลนินก็ไม่มีการพูดคุยระหว่างรับประทานอาหารเลย

 

1ชั่วโมงผ่านไป~

 

ริกเตอร์#

ตอนนี้ผมกำลังจะพาเธอไปส่งที่บ้าน ผมมีหนึ่งคำถามที่อยากถามเธอมากๆ ผมก็เลยถามออกไป

"นินครับ นินเป็นแฟนกับคนชื่อดินหรอครับ" ผมถามออกไปอย่างหมดหวัง ถึงแม้ผมจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ผมก็ยังจะดันทุรังถามเธออีก

"ไม่ใช่หรอกค่ะ ถ้าถึงบ้านแล้วบอกด้วยนะคะ นินขอพักสักหน่อย"

เธอบอกว่าไม่ใช่แสดงว่าผมมีโอกาสอะดิ ดีใจเว้ย คอยดูนะครับทุกคนผมจะเอาเธอมาเป็นแม่ของลูกผมให้ได้

หลังจากที่เธอพูดจบผมก็พาเธอกลับมาส่งที่บ้าน ไม่ต้องสงสัยนะครับว่าผมรู้บ้านเธอได้ไง เธอบอกทางผมก่อนที่ผมจะพาเธอมาส่ง ถึงเธอไม่บอกผมก็รู้ครับ ผมสืบประวัติ ที่อยู่หรือของที่ชอบมาหมดแล้วครับ อย่าด่าผมเลยนะครับ ก็คนมันอยากรู้จักอ่ะจะให้ผมทำไงได้ ก็คนมันใช่ยังไงมันก็ใช่นิครับ

ตอนนี้ถึงบ้านนินแล้วครับ แต่เธอยังไม่ตื่นแล้วผมก็ไม่อยากปลุกด้วย ผมก็เลยลงจากรถแล้วไปเปิดประตูรถฝั่งนิน แล้วอุ้มเธอออกมาจากรถ

"อุ้ย คุณหนูเป็นอะไรหรอคะ"

คนที่ถามดูมีอายุ เธอน่าจะเป็นแม่นมของเลนิน

"เปล่าหรอกครับ เธอแค่หลับ ห้องเธออยู่ไหนหรอครับผมจะอุ้มเธอไปส่งที่ห้องให้" ผมพูดด้วยความหวังดีไม่มีการคิดร้ายกับเธอเลยสักนิด เลนินเป็นคนแรกที่ผมอุ้ม ผมจะทำทุกอย่างเพื่อเธอและผมสัญญาว่าจะทำให้ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่มีความสุขที่สุดจะไม่ทำให้เธอเสียใจเด็ดขลาด

"ห้องคุณหนูอยู่ข้างบนชั้นสองอยู่ทางขวามือห้องริมสุดคะ"

แม่นมบอกทางอย่างละเอียด

"ขอบคุณครับ" ผมบอกขอบคุณด้วยความสุภาพ

หลังจากที่คุยกับแม่นมเสร็จแล้วผมก็อุ้มเลนินมาวางไว้บนเตียงอย่างเบามือ ผมจัดการห่มผ้าให้เธอแล้วเดินออกมาจากห้อง

 

อื้ดดดดดด อื้ดดดดดดด อื้ดดดดดด

เสียงโทรศัพท์เข้า

"มีอะไร" ผมพูดเสียงเรียบ

"นายครับ โรงงานผลิตอาวุธที่ฝรั่งเศสมีปัญหาครับ"

เสียงโรเบิร์ดลูกน้องคนสนิทอีกคนของผมพูด

"อืมได้จะรีบไป" ผมพูดจบแล้วตัดสายทิ้งแล้วรีบตรงไปที่สนามบินทันที ถ้าไปช้ากว่านี้เดี๋ยวโรงงานผมจะมีปัญหาเยอะกว่าเดิม

#ริกเตอร์end

ติ้ดๆ ติ้ดๆ ติ้ดๆ เสียงนาฬิกาปลุกของเลนินดังขึ้น

"อื้อออออออ" เสียงเลนินบิดขี้เกลียด เธอบิดตัวไปมาบนที่นอนสองสามครั้งแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างสลึมสลือ เธอพยายามนึกว่าเมื่อคืน ใครเป็นคนพาเธอขึ้นมาบนห้องนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก เธอเลยลุกไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปทำงาน

 

เลนิน#

 

"นมคะ มีอะไรกินบ้างอ่าาาาา"

ฉันถามแม่นมด้วยความหิวสุดๆ

"วันนี้มีโจ๊กกุ้งค่ะคุณหนู"

แม่นมบอกพร้อมกับยิ้มเอ็นดูมาให้ฉัน

"ขอบคุณค่ะนม นมคะเมื่อคืนใครเป็นคนพาหนูขึ้นไปนอนบนห้องหรอคะ"

ฉันหันไปขอบคุณนม พร้อมกับถามว่าใครเป็นคนพาฉันขึ้นไปบนห้อง

"เอ่อ.....เป็นผู้ชายที่ขับพาคุณหนูมาส่งที่บ้านคะ"

นมทำท่าคิดก่อนจะบอกว่าใครเป็นคนพาฉันขึ้นไปนอนบนห้อง งั้นแสดงว่านายชอบฉวยโอกาสเป็นคนอุ้มฉันขึ้นไปนอนใช่ไหม น่าตกใจมากคะท่านผู้อ่าน ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนดีนะเนี่ย แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือเขาไม่ได้ทำอะไรฉัน ไม่มีส่วนไหนบุบสลายเลยสักนิด คิดๆดูแล้วเขาก็เป็นสุภาพบุรุษเหมือนกันนะเนี่ย แล้วทำไมเมื่อคืนเขาไม่ค้างที่บ้านฉันละ ตอนที่เขามาส่งฉันก็น่าจะดึกมาแล้วด้วย เพราะบ้านคนสวยๆแบบฉันชอบอยู่ไกลจากชาวโลกกกกกก

"นมคะ แล้วทำไมเขาไม่พักทีนี่ละคะ"

ไวกว่าความคิดก็ปากฉันเนี่ยแหละ จะอยากรู้เรื่องของเขาไปทำไมก็ไม่รู้ ไม่ได้เป็นไรกันสักหน่อย

"อ๋อ เมื่อคืนนมเห็นเขารีบร้อนออกไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ คุณหนูมีอะไรรึเปล่าคะ"

นมบอกฉันพร้อมถามแบบยิ้มกรุ้มกริ่ม ฉันเห็นแล้วขนลุกเลยอ่ะ

งานนี้คุณหนูสละโสดแน่นอน นมคิดในใจ

"เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรค่ะนม" เหอะรีบออกไปหาสาวอ่ะดิ ส่งเราเสร็จก็รีบไปหาคนอื่นต่อเลยสินะ ถึงว่าสิไม่เห็นทำอะไรฉันเลยที่แท้ก็รีบไปหาผู้หญิงของนายนี่เอง

หลังจากที่ฉันกินข้าวเสร็จแล้วฉันก็ออกมาทำงานตามปกติของฉัน แต่ที่ไม่ปกติก็คือฉันเนี่ยแหละ เอาแต่คิดเรื่องของนายริกเตอร์ ไม่มีสมาธิอ่านเอกสารเลยสักนิด ตอนนี้ก็เกือบจะเย็นแล้วด้วย สรุปวันนี้ทั้งวันฉันไม่ได้เซ็นเอกสารสักฉบับ

อื้ดดดดดด อื้ดดดดดด อื้ดดดดดด

เสียงโทรศัพท์ของฉันเองแหละ

"มีไรแก" ฉันถามไปอย่างเซ็งๆ

"ไปผับErTกันแก" ยัยน้ำทิพย์โทรชวนฉันไปผับได้เหมาะเจาะมากบอกเลย กำลังเบื่อๆพอดี

"ตกลงแก"

"3ทุ่มเจอกัน แต่งตัวแซ่บๆนะแก"

แหม่จะหาผู้ให้เพื่อนก็บอกมาเถอะไม่ต้องอ้อมค้อม

"จ้ะได้เลยจ้ะ เพื่อเพื่อนคนสวย แต่สวยน้อยกว่าฉันนะฮ่าๆๆ"

ฉันบอกแบบติดตลก

"ชิ เรื่องความสวยฉันยอมแพ้ แต่เรื่องความอ่อนแอฉันไม่แพ้ใครนะแก"

ยัยทิพย์เอ้ยพูดได้ทำร้ายตัวเองมาก ข้อดีเพื่อนฉันมันก็มีเยอะแต่มันแค่เป็นพวกไม่ค่อยชอบบอกความดีของตัวเองสักเท่าไหร่

"ข้อดีแกก็มีม่ะ ทำไมชอบพูดแต่ข้อเสีย"

ฉันต้องบ่นเพื่อนตัวเองจนได้

"จร้าๆ3ทุ่มเจอกันนะ บาย"

ยัยทิพย์บอกก่อนจะวางสายไป ตอนนี้ฉันกำลังกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่จะได้สดชื่นขึ้นบ้าง วันนี้ฉันเลือกใส่เดรสรัดรูปสีดำสั้นแค่คืบ คืนนี้แหละฉันจะกินให้เมาเลยคอยดู

#เลนินend

@3ทุ่ม ผับErT

ตอนนี้ทั้งน้ำทิพย์และเลนินอยู่ที่โต้ะ VIP3 ชั้นสองของผับ ข้างในผับเริ่มคึกคื้นเพราะเริ่มได้เวลาของผีเสื้อราตรีออกมาวาดลวดลายกันแล้ว แต่มีเพียงคนเดียวที่ไม่สนใจเสียงดนตรี สนใจแต่การดื่ม เธอดื่มเอาๆเพราะในหัวของเธอตอนนี้มีแต่เรื่องของริกเตอร์

'เขาหายไปไหนทำไมไม่มากวนฉันแบบเดิม' ความคิดของเลนิน ตอนนี้เธอค่อนข้างที่จะเมาแล้ว ส่วนน้ำทิพย์ตอนนี้ก็ขอตัวออกไปวาดลวดลายด้านล่างแล้ว

"ขอโทษนะครับ ขอชนแก้วด้วยได้ไหมครับ" มีผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งผิวขาวตาตี่แต่หล่อ ตอนนี้เขาทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่เลนิน เหมือนจะกินเธอเข้าไปทั้งตัว

"อ๋ออออออออออ ด้ายยยยเล้ยยยยยคร้าาาา เอ้าาาาาาชนนนนนน"

เลนินตอบแบบมึนๆ ตอนนี้เธอเริ่มพูดไม่รู้เรื่องแล้ว ดูเหมือนว่าการกระทำของเลนินจะเข้าทางคนที่มาขอชนแก้วกับเธอ

"ผมว่าคุณเริ่มเมาแล้วนะครับ เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บ้านดีกว่า"

ฌามิสบอกพร้อมกับอุ้มเลนินไปที่รถ ตอนนี้เลนินหลับไปเรียบร้อยแล้ว

'เสร็จแน่รายนี้เด็ดโคตร' ฌามิสนึกในใจ

@ล้านจอดรถผับErT

"ไอมิสมึงจะกลับแล้วหรอ" ริกเตอร์ถามเพื่อนอย่างสงสัย ปกติกว่ามันจะกลับนู้นผับเกือบจะปิดแล้วมันถึงกลับ

"เออกูจะกลับล่ะ" ฌามิสพูอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่ริกเตอร์กำลังคุยกับฌามิส ริกเตอร์ก็หันไปเห็นผู้หญิงที่อยู่ในรถ

"เห้ยไอมิสมึงไปอุ้มสาวมาจากไหนว่ะ" เสียงของริกเตอร์ถามเพื่อนสนิท

"เจอของเด็ดว่ะ" ฌามิสพูดติดอารมณ์ดี

"ไหนกูขอดูหน้าหน่อย" ริกเตอร์พูดเสร็จก็เดินเข้าไปดูหน้าคนที่ฌามิสอุ้มมาไว้ในรถ พอริกเตอร์เปิดประตูรถก็เห็นหน้าคนที่ตัวเองกำลังตามจีบอยู่ เขาถึงกับอุทานออกมาก

"เชี่ย"

"เป็นไงสวยอ่ะดิไม่รู้จะเด็ดรึเปล่าเดี๋ยวคืนนี้กูจัดการ แล้วพรุ่งนี้กูจะมาบอกว่าเด็ดไม่เด็ดนะ"ฌามิสพูดติดทะเล้นพร้อมทำท่าหื่นส่งไปทางเลนิน

แต่หารู้ไม่ว่าคนที่ฟังอยู่กำลังเดือด เขาโมโหที่เธอกินเหล้าจนเมา แล้วโดนเพื่อนเขาอุ้มมาแบบนี้ ถ้าเขาไม่เดินมาทักป่านนี้เธอคงเป็นเมียเพื่อนไปแล้ว

"ไอสั*มิสเมียกู" ริกเตอร์พูดแบบหัวเสีย

"ได้กันล่ะ" ฌามิสถามติดกวนตีน

"ยัง" ริกเตอร์ตอบด้วยเสียงที่เย็นลง

"งั้นแสดงว่าไม่ใช่เมียมึง งั้นคืนนี้กูขอ" ฌามิสแกล้งพูดกวนอวัยวะเบื่องล่าง ฌามิสแปลกใจที่เพื่อนตัวเองเรียกผู้หญิงคนนี้ว่าเมียได้เต็มปากเต็มคำ ทั้งๆที่ยังไม่เคยมีอะไรกัน แสดงว่า

เพื่อนของเขาต้องรักผู้หญิงคนนี้มากแน่นอน

"ไอเชี่ยมิสของเพื่อนป่ะ" ริกเตอร์ตอบอย่างหัวเสีย

ริกเตอร์#

ทุกคนคงสงสัยว่าผมกลับมาตอนไหน ผมพึ่งกลับมาตอนหัวค่ำครับ ปัญหาที่โรงงานผลิตอาวุธตอนนี้ผมแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้วครับ เหลือแต่บางส่วนผมเลยให้ลูกน้องคนสนิทจัดการให้ พอจัดการอะไรเสร็จหมดแล้วผมก็รีบบินกลับมา มาหาเลนิน แต่ผมมาพร้อมกับฌามิสเพื่อนสนิทผมเอง ตอนแรกผมกลับมาผมกะจะไปหาคนตัวเล็กของผม แต่พอดีไอมิสมันชวนผมมาผับ ผมเลยมากับมันก่อนเพราะนานๆที่มันจะโผล่หน้ามาให้ผมเห็น

@ปัจจุบัน

ผมบอกตรงๆเลยนะครับว่าแม่งโคตรหงุดหงิดเลยครับ เพื่อนผมแม่งมันอุ้มตัวเล็กของผมด้วย แต่ที่น่าหงุดหงิดกว่านั้นคือใครปล่อยให้นินออกมาเที่ยวผับแล้วดื่มเหล้าเข้าไปเยอะขนาดนี่เนี่ย ถ้าเป็นลูกผมนะผมจะจับตีให้ก้นลายเลย

"ไอ้คุณริกเตอร์ครับ เพื่อนพูดเล่นครับอย่าทำหน้าหงุดหงิดดิเดี๋ยวแก่ไวแล้วไม่มีคนเอานะเว้ย" มิสมันพูดติเตลก แต่ผมไม่ตลกไง ผมรักคนนี้ผมหวงคนนี้ ผมไม่อยากให้เธอยุ่งกับผู้ชายคนไหนนอกจากผม

"อืม คลาวหลังอย่าไปอุ้มเมียใครเขามาอีกล่ะ ถ้าไม่ใช่กูมึงโดนรุมตื้บไปนานล่ะ" ผมตอบไปแบบจริงจังปนกวนบาทา

"อ้าวไอ้คุณริกครับ ไม่แช่งเพื่อนดิครับ" มันตอบผมเหมือนจะจริงจังแต่หน้ามันนี้ไปคนละทางกับคำพูดเลยครับ

"อึก ฮึก อยากอ้วกกกกก" เสียงคนตัวเล็กบ่นอยากอ้วก ผมเลยรีบไปประคองเธอลงมาจากรถแล้วพาเธอออกมาอ้วก

"นินคะหนูเป็นยังไงบ้าง ยังอยากอ้วกอยู่ไหม" ผมถามเธอด้วยความเป็นห่วง

"หือออ ครายยยยยยยย พี่ริกเตอร์หราาาาาค้าาาาาา" หึ เมาได้น่ารักจริงๆเลยตัวเล็กของผม เวลาเมาแล้วรู้ว่าเธอจะเรียกผมว่าพี่นะ เดี๋ยวผมจะทำให้เมาทุกวันเลยครับ ผมไม่ได้จะให้เธอเมาเหล้านะครับ แต่ผมจะให้เธอเมารัก

"ใช่ค่ะ พี่เอง" ผมตอบพร้อมยิ้มกลับไปให้เธอ

"ฮึกๆ ฮืออออออ ฮึก พี่ริกเตอร์ ฮึกใจร้าย พอส่งหนูเสร็จพี่ก็รีบไปหาผู้หญิงคนอื่นเลย พี่ทำแบบนี้หนูควรรับพี่มาพิจารณาไหม หนูน้อยใจ หนูหึง หนูหวง อย่าไปหาผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่หนูนะ"

ตอนแรกผมตกใจเลยครับอยู่ดีๆเธอก็ร้องไห้ อีกสักพักเธอก็หยุดร้องไห้พอเธอพูดจบเธอก็หลับไปเฉยเลย แต่เลนินหลุดคำพูดที่ในชีวิตจริงเธอไม่น่าจะพูดออกมา นี้สินะครับเขาถึงบอกว่าคนเมาจะพูดความจริง ผมแอบดีใจนะครับ เพราะปกติคำพวกนี้แทบจะไม่หลุดออกมาจากปากเธอเลย แสดงว่าที่เมื่อคืนผมหายไปเธอคงคิดว่าผมออกไปหาผู้หญิงสินะ เด็กน้อยเอ้ยเด็กน้อย น่ารักจริงๆ

ตอนนี้เลนินอยู่ในรถผมแล้วนะครับ ผมบอกให้ไอมิสกลับคอนโดมันไปก่อนเดี๋ยวค่อยนัดคุยกันใหม่ ผมกำลังจะพาเลนินไปคอนโดผม เพราะถ้ากลับบ้านไปสภาพนี้มีหวังแตกตื่นกันทั้งบ้านแน่

#ริกเตอร์end

@คอนโดริกเตอร์

ตอนนี้ริกเตอร์พาเลนินมาวางไว้บนเตียงนอนเรียบร้อยแล้ว ริกเตอร์ทำการเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เธอ แต่เขาเลือกที่จะเช็ดส่วนที่เช็ดได้เท่านั้น ส่วนอื่นเขาไม่อยากล้วงเกิน กลัวเธอจะไม่ชอบ

พอริกเตอร์เช็ดตัวให้เลนินเขาก็ห่มผ้าให้เธอแล้วไปอาบน้ำแต่งตัว คอนโดที่ริกเตอร์อยู่มีสองห้อง เขาเลยเลือกที่จะนอนอีกห้องนึงเพราะไม่อยากให้เธอตื่นมาแล้วตกใจ

~ตอนเช้า~

"อื้ออออ~'' เสียงเลนินบิดขี้เกลียด เธอค่อยๆกระพริบตาเพื่อที่เธอจะได้มองชัดขึ้น พอเธอเริ่มมองชัดขึ้นเธอเริ่มเอะใจแล้วว่านี้ไม่ใช่ห้องเธอ แล้วนี้ห้องใคร เลนินจึงค่อยๆลุกออกจากเตียง แล้วเดินออกไปเปิดประตูเพื่อที่จะดูว่าที่นี่คือที่ไหน พอเลนินเปิดประตูออกมา เธอก็เห็นภาพผู้หญิงใส่ชุดเดรสเกาะอกสีแดงเพลิงกอดคอริกเตอร์อยู่ ผู้หญิงคนนั้นทั้งหอมแก้มทั้งกอดริกเตอร์ ริกเตอร์ไม่ปฏิเสธการกระทำของผู้หญิงคนนั้นแถมยังกอดตอบและพวกเขากำลังจะเล่นหนังสดให้เธอดู พอเลนินเห็นดังนั้นเธอค่อยๆปิดประตู เธอจึงเลือกที่จะไปอาบน้ำเพราะถ้าเขาเข้ามาเธอจะได้กลับบ้านเลย

ตอนนี้เลนินไม่สนว่าเธอมาที่นี้ได้ยังไงเธอสนแค่ว่าตอนนี้เธอไม่อยากอยู่ที่นี้แล้ว

หลังจากที่เลนินอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอก็นั่งรอเขาสักพักใหญ่ๆ แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าเขาจะพาเธอกลับบ้านเลย เธอตัดสินใจเปิดประตูออกไปข้างนอกห้อง แต่เเล้วเธอก็พบกับความว่างเปล่านอกห้อง

อ่ะ อื้ออออ ริกคะ บะ เบาหน่อยคะ ริต้าเสียว อ่ะอ่าาา

อือ จะให้ผมเบาได้ไงครับ ก็ริต้าเอามันนิ อื้อซี้ดดดด

เลนินเธอได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาจากอีกห้องนึง ซึ่งมันเป็นเสียงที่เธอรังเกลียด แต่เธอก็อยากเดินเข้าไปให้เห็นกับตาว่าเป็นเขาจริงๆใช่ไหม ไม่รู้ว่าโชคเข้าข้าง หรืออะไรดลใจทำให้ประตูมันแง้มอยู่ เธอเลือกที่จะมองแค่แปปเดียว แล้วทำใจเดินไปหยิบกระเป๋าออกจากห้องนี้ไป เธอปฏิญาณกับตัวเองว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนี้อีกเด็ดขาด เธอจะเปิดโอกาสให้สำหรับคนที่จริงใจกับเธอจริงๆ แต่เขาริกเตอร์เธอกำลังจะเปิดใจและให้โอกาสเขา ยังไม่ทันได้เริ่มมันก็พังสะแล้ว พอแล้วรักแท้ไม่มีอยู่จริง เลนินคิดในใจ

เธอลงมายืนรอรถแท็กซี่สักพัก รถก็มาเธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย เพิ่มเติมคือโหมงานหนักกว่าเดิม เธอไม่อยากเอาแต่คิดเรื่องของผู้ชายมักมาก

~หลายวันต่อมา~

เลนิน#

ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่เจอเขาอีกเลย เขาคงมีความสุขดี แต่ทำไมฉันไม่มีความสุขเลย ฉันเอาแต่คิดถึงเขา แล้วเขาละจะคิดถึงฉันบ้างไหม ฉันจะตัดใจจากคนมักมากให้ได้

โอกาสสำหรับคนมักมากแบบนายไม่มีอีกแล้วริกเตอร์ เลนินคิดในใจ

ตอนนี้ฉันลงมากินข้าวที่แคนทีนของโรงแรม

"คุณครับๆ"

"คะ?" มีผู้ชายคนนึงเรียกฉันทำให้ฉันหลุดออกจาภวังค์

"คุณจำผมได้ไหม เราเจอกันที่ผับ" เขาบอกว่าจำเขาได้ไหมแสดงว่าต้องเคยเจอกัน เจอที่ผับหรอ

"ขอโทษนะคะ ฉันจำคุณไม่ได้จริงๆค่ะ" ฉันตอบด้วยความจริงสุดๆเพราะจำไม่ได้ สงสัยวันนั้นฉันเมามาก แถมตื่นมายังเจอเรื่องที่ไม่อยากเจออีก วันนั้นมันคงเป็นวันซวยของฉันแหละฉันเลยไม่ค่อยอยากจำ

#เลนินend

"งั้น ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมแนะนำตัวใหม่นะครับ ผมฌามิส บรรณุวงศ์ หรือเรียกว่ามิสเฉยๆก็ได้ครับ" ฌามิสแนะนำตัว

ที่เขาเข้ามาหาเธอเพราะเขาเห็นเธอทำหน้าเศร้าเขาเลยเข้ามาทัก เขาไม่อยากให้เธอเศร้า ถึงเพื่อนเขาจะบอกว่าเป็นผู้หญิงของเพื่อนก็เถอะ เขาก็ยังชอบเธออยู่ดี เธอไม่เหมือนคนอื่น เธอไม่เข้าหาผู้ชายก่อนแบบผู้หญิงคนอื่นๆ

 

"ค่ะ ฉันเลนิน พิทักษ์ไพศาล หรือเรียกว่านินเฉยๆก็ได้คะ" หญิงสาวแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร

หลังจากที่เธอแนะนำตัวเสร็จเธอก็นั่งเหม่อลอยคิดถึงเขาคนนั้นอีกแล้ว ทำไมเขาถึงมีอิทธิพลต่อใจเธอนัก

"ครับ ผมขอเสียมารยาทถามได้ไหมครับว่าทำไมคุณถึงทำหน้าเศร้า" ฌามิสถามออกไปอย่างเป็นห่วง

"อ๋อไม่มีอะไรค่ะ เครียดเรื่องงานนิดหน่อยค่ะ"

เลนินตอบพร้อมยิ้มหวานกลับมาให้ เธอไม่อยากทำให้ตัวเองอ่อนแอ ต่อไปนี้เธอต้องไม่คิดถึงผู้ชายมักมากคนนั่นอีก

"งั้นผมขอนั่งเป็นเพื่อนนะครับ เผื่อคุณจะเคลียดน้อยลงบ้าง" ฌามิสพูดอย่างเป็นมิตร เขาชอบผู้หญิงคนนี้มาก เขาเชื่อว่าเธอไม่ได้เครียดเรื่องงาน เขารู้ว่าเธอเครียดเรื่องหัวใจ เขาอยากบรรเทาความเศร้าให้เธอ

"ได้ค่ะ" เลนินตอบ

หลังจากที่เลนินอนุญาตให้ฌามิสนั่งเป็นเพื่อน เขาก็ชวนเธอคุยอย่างสนุกสนาน เธอเริ่มยิ้มออกมาบ้าง ฌามิสแอบดีใจที่เขาทำให้เธอยิ้มได้

 

ฝั่งด้านริกเตอร์

ริกเตอร์#

หลังจากวันที่ผมพามาเลนินมานอนที่คอนโดผม ผมก็ดูแลเธออย่างดี จนตอนเช้าริต้าเธอเป็นคู่ขาของผมตอนนี้ เธอเข้ามาหาผม เธอเข้ามาอ้อนจนผมเคลิ้มตาม หลังจากนั้นผมก็ลืมไปว่ามีคนตัวเล็กอยู่ที่ห้อง กว่าผมจะเสร็จกิจกรรมบนเตียงก็ปาไปหกโมงเย็นแล้วครับ ถึงผมจะจีบเลนินอยู่แต่ผมก็อยากนะครับ พอริต้ามาที่คอนโดผมเมื่อเช้าผมเลยจัดให้เธอชุดใหญ่เลย พอผมออกมาจากห้องที่ผมทำกิจกรรมบนเตียงเสร็จ ผมก็เดินมาที่ห้องของผมที่เลนินนอนอยู่ แต่ผมไม่เห็นเธออยู่ในห้อง ผมไม่ได้เอะใจอะไรเพราะเธออาจจะกลับบ้านเองไปแล้ว เพราะนี้ก็จะทุ่มนึงอยู่แล้ว

หลายวันผ่านไปผมก็ยังไม่ไปหาเลนินหรอกครับ เพราะตอนนี้ผมควงริต้าอยู่เธอขี้อ้อนดีนะครับผมชอบ ผมยังติดใจริต้าอยู่ครับผมยังไม่เบื่อเธอ ส่วนเลนินเอาไว้ก่อนก็ได้เดี๋ยวผมค่อยไปจีบเธอใหม่ ยังไงเธอก็ไม่เปิดใจให้ใครหรอกนอกจากผม ตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าผมรักเลนินจริงรึเปล่า ตอนนี้ผมอาจจะรักริต้าก็ได้ จะว่าไปตอนนี้ผมก็เริ่มเบื่อเลนินแล้วแหละ คืนนี้ผมขอจัดกับริต้าต่อสักแปดยกแล้วค่อยให้เธอนอนแล้วกัน หึหึ

#ริกเตอร์end

 

~2เดือนผ่านไป~

@โรงเเรมพิทักษ์ไพศาล

ตอนนี้เลนินนั่งเซ็นต์เอกสารอยู่บนห้องทำงาน เธอเริ่มที่จะไม่รู้สึกอะไรกับริกเตอร์แล้ว เพราะตอนนี้เธอมีฌามิสคอยดูแลเอาใจใส่ทุกวัน เธอเลยเริ่มที่จะลืมริกเตอร์ไปเกือบหมดแล้ว

ตั้งแต่วันที่ฌามิสทักเลนินที่แคนทีนวันนั้นจนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาสองเดือนแล้ว เขาก็ยังแวะเวียนมาหาเธอตลอด เขารู้ว่าริกเตอร์ เพื่อนสนิทของเขามันทำเธอเจ็บ ที่ฌามิสรู้เพราะว่าหลังจากที่เขาคุยกับเลนินเสร็จแล้วฌามิสก็ออกมาหาซื้อของสดเข้าห้องตัวเอง แต่เขาดันเห็นริกเตอร์กับนางแบบสาวชื่อดังเดินควงกันอย่างสนิทแนบเนื้ออยู่บนห้าง ฌามิสเห็นแบบนั้นเขาเลยไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมเลนินถึงทำหน้าหงอยวันนั้น เขาเลยคิดที่จะเริ่มจีบเธอตั้งแต่นั้นมา

ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตู

"เข้ามาได้ค่ะ" เลนินบอกพร้อมเงยหน้าออกจากกองเอกสาร

"น้องนินคะพี่จะหยุดงานตั้งแต่วันนี้นะคะ วันมะรืนอย่าลืมไปงานแต่งพี่นะ แต่งตัวสวยๆมาด้วยนะเผื่อจะมีคนเข้ามาคุยบ้าง" เลขาสาวสวยหน้าห้องเดินเข้ามาบอกเกี่ยวกับการหยุดงาน เพราะเธอกำลังจะไปแต่งงานกับมาเฟียหนุ่ม เธอแอบแซวให้เลนินแต่งตัวสวยๆจะได้มีคนเข้ามาคุยบ้าง เพราะว่าช่วงนี้เลนินหงอยๆ แต่เลขาสาวไม่รู้ว่าฌามิสกำลังตามจีบเลนินอยู่ เพราะช่วงที่ฌามิสมาหาเลนินเป็นช่วงเย็นหรือไม่ก็พักกลางวัน จึงไม่ได้เจอกับเลขาสาว

"แหม่พี่แจนก็ แซวหนูตลอดเลยนะ" หญิงสาวทำท่างอลแบบติดตลก

"ก็พี่เป็นห่วงเรานิ เห็นเอาแต่ทำงาน" เลยอยากให้มีคนเข้ามาหาน้องนินบ้าง" แจนเลขาสาวพูดอย่างเป็นห่วง

"งั้นเดี๋ยวหนูจะควงหนุ่มสุดหล่อไปงานแต่งพี่เเจนเองนะคะ" เลนินบอกอย่างทะเล้นพร้อมกับยิ้มตาหยีให้พี่เลขาสาว

"ให้มันจริงเถอะ ไม่ใช่ว่าวันจริงพี่เห็นนินเดินเข้างานคนเดียวพี่จะหาหนุ่มให้นินเลยนะ" แจนพูดแบบจับผิดเลนิน เพราะเธอไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่ว่าเจ้านายของเธอจะควงหนุ่มไปงาน

"พี่แจนคอยดูได้เลยคะ หนูไม่โกหก" เลนินตอบพร้อมกับยิ้มหวานให้เเจน

"จ้ะ งั้นพี่ไม่กวนเราทำงานล่ะ" แจนบอกก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องของเลนิน

'เฮ้อ ไม่มีพี่แจนมาคอยช่วยทำงานแบบทุกวันสินะ สงสัยเราคงต้องหาเลขาใหม่มาช่วยงานละ'เลนินคิดในใจ ถ้าเธอไม่มีเลขางานเธอก็จะหนักกว่าเดิมแค่ช่วงนี้เธอก็แทบจะไม่ได้พักแล้ว

หลังจากนั้นเลนินก็นั่งเซ็นเอกสารต่อจนถึงเย็นโดยที่เธอไม่ได้นึกริกเตอร์เลยแม้แต่น้อย

ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตู(ของฌามิส)

ในระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมาเลนินกับฌามิสมีช่วงเวลาดีๆต่อกันมากมาย จนตอนนี้พวกเขาแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นในการคุยกัน

"เข้ามาได้เลยจ้ะ" เลนินดีใจที่ได้ยินเสียงเคาะประตูของฌามิส

ทุกคนคงสงสัยล่ะสิว่าทำไมเลนินถึงรู้ว่าเป็นฌามิส เพราะเวลาฌามิสมาหาเธอเขาจะเคาะประตูแค่สองครั้งเท่านั้น

"นึกว่าจะไม่รู้สะแล้ว" ฌามิสบอกพร้อมยิ้มดีใจ

"ก็เคาะประตูสองครั้งแบบนี้มีแค่นายคนเดียวนิ" เลนินบอกพร้อมกับยิ้มกวนๆไปให้ฌามิส

"เดี๋ยวนี้คุณเลนินคนสวยของเรารู้จักยิ้มบ่อยขึ้นนะครับ" ฌามิสพูดกวนเลนินกลับ

"ก็นายเป็นคนทำให้ฉันยิ้มเองไม่ใช่หรอ" เลนินบอกพร้อมกับยิ้มหวานให้ฌามิส และกับเก็บอาการเขินอายไว้

ตอนนี้เลนินไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับฌามิสกันแน่ เธอขอเลาพิสูจน์อีกสักพักเธอถึงจะแน่ใจ

"ฌามิสอีกสองวันนายว่างไหมอ่ะ นินจะชวนไปงานแต่ง" หญิงสาวถามพร้อมกับทำหน้าอ้อนๆใส่ฌามิสอย่างต้องการคำตอบ

"อืม มิสหรอ มิสก็ต้องไปงานแต่งของเพื่อนเหมือนกันแต่กับนิน มิสก็อยากไป" ฌามิสตอบอย่างลังเลใจ อีกคนก็เพื่อนอีกคนก็คนที่แอบชอบเขาเลยไม่รู้จะทำยังไง

"อ้าวหรอ งั้นไม่เป็นไร" เลนินตอบเสียงอ่อย

ฌามิสเห็นอย่างนั้นจึงใจอ่อน เพราะเขาไม่ชอบให้หญิงสาวที่ตนชอบทำหน้าเศร้า

'เพื่อนช่างมันไปก่อนเดี๋ยวไปเคลียทีหลังได้ แต่ตอนนี้สนใจคนที่เรารักดีกว่า' ความคิดของฌามิส

"มิสได้คำตอบแล้วนะนิน มิสจะไปกับนินครับ" ฌามิสบอกพร้อมกับยิ้มตาหยี แล้วเอามือไปยีผมเลนินจนยุ่ง

"เย้ จริงนะฌามิสนายพูดเเล้วนะ" หญิงสาวบอกอย่างดีใจ

"ใช่ครับ มิสจะไปกับนิน" ฌามิสตอบพร้อมกับเอามือไปยีผมคนตัวเล็กต่อ

"มิสเลิกยีหัวนินได้แล้ว มันยุ่งแล้วนะ" เลนินบอกพร้อมกับทำหน้ามุ้ย

"ฮ่าๆๆๆ โอ๋ๆ มาๆเดี๋ยวนายฌามิสจะจัดผมให้เองครับ" ฌามิสบอกท่าทางติดตลกแล้วเดินไปจัดผมให้เลนิน

"จัดดีๆนะฌามิสเอาให้สวยเหมือนเดิม" เลนินบอกพร้อมกับยิ้มกวนประสาทมาให้ฌามิส

หลังจากที่ฌามิสก็จัดผมให้เลนินเป็นที่เรียบร้อย แล้ว พวกเขาทั้งสองคนก็ออกห้องทำงานของเลนินแล้วตรงไปที่ร้านอาหารเพื่อรับประทานอาหารเย็น

 

~2วันผ่านไป~

@งานแต่ง

ตอนนี้ฌามิสกำลังเดินอ้อมไปเปิดประตูรถ ฝั่ง

ด้านที่เลนินนั่งอยู่ วันนี้ทั้งคู่แต่งตัวสวยหล่อเหมือนกิ่งทองใบหยก มีนักข่าวมาขอถ่ายภาพบ้างบางเวลา เพราะงานแต่งที่พวกเขามาเป็นงานแต่งของมาเฟีย ไม่แปลกที่จะมีนักข่าว

หลังจากที่ทั้งคู่เดินเข้ามาในงานแล้วพวกเขาก็เดินเข้าไปทักคู่บ่าวสาวที่ยืนต้อนรับอยู่หน้างาน

"สวัสดีค่ะพี่แจน วันนี้พี่สวยที่สุดในงานเลย" เลนินบอกพร้อมกับยิ้มน่ารักให้อดีตเลขาสาวของเธอ ในขณะที่สองสาวกำลังคุยกันอยู่สายตาเจ้าบ่าวก็หันไปเห็นเพื่อนสนิทในกลุ่มที่บอกว่าจะไม่มางานแต่งเขา

"ไอมิสไหนบอกไม่มาไง" เสียงเจ้าบ่าวพูดกับฌามิส

"เอ้านี้งานเเต่งมึงหรอไอกาย ถึงว่าดิสถานที่จัดงานคุ้นๆ" ฌามิสละสายตาออกจากเลนินเพราะโดนเสียงที่คุ้นหูเรียก พอเขาหันไปจึงเห็นหน้าเพื่อนตัวเขาเลยนึกออกว่าเพื่อนเขาก็จัดงานแต่งที่นี้

ในขณะที่สองหนุ่มกำลังคุยกัน หญิงสาวทั้งสองคนก็หันไปหาเขาทั้งคู่พร้อมกับทำหน้างงเพราะสงสัยว่าสองคนนี้รู้จักกันได้ไง

ก่อนที่กายเจ้าบ่าวสุดหล่อกำลังจะตอบคำถามเพื่อนก็ต้องหันมาตอบเจ้าสาวคนสวยของเขาที่ยืนทำหน้างงว่าเขาทั้งสองคนรู้จักกันได้ยังไง

"แจนครับนี้ฌามิสเพื่อนสนิทพี่อีกคนครับ" กายแนะนำฌามิสให้รู้จักกัน

หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็ทำความรู้จักกันเป็นที่เรียบร้อย ต่อจากนั้นกายก็หันไปตอบคำถามฌามิสที่ถามค้างไว้เมื่อกี้ แต่ข้อสงสัยของเจ้าสาวก็ยังไม่หมด

"พี่กายคะทำไมฌามิสมากับเลนินได้ละคะ" แจนถามเจ้าบ่างอย่างอยากรู้ เจ้าบ่าวเองก็ลืมถามเรื่องนี้ไปเลย ทั้งคู่เลยหันไปถามทั้งฌามิสและเลนิน

"ทำไมทั้งคู่ถึงมาด้วยกันได้ละ" แจนและกายถามพร้อมกัน

ฌามิสและเลนินมองหน้ากันแล้วยิ้มให้กับความน่ารักของบ่าวสาว

"อ๋อ คือตอนนี้เรากำลังศึกษาดูใจกันอยู่นะครับ" ฌามิสหันไปตอบทั้งคู่อย่างสุภาพ

"ใช่คะตามนั้น งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะคะ" เลนินตอบพร้อมกับขอตัวออกมาจากบ่าวสาว เพราะตอนนี้เธอรู้สึกหิวแล้ว

"นินครับพี่มีอะไรจะบอก" ฌามิสบอกในขณะที่เลนินกำลังเดินเลือกของกิน

"มีอะไรหรอคะ"เลนินถามกลับพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาคุยกับฌามิส

"เป็นแฟนกับพี่นะ พี่จะดูแลนินอย่างดีพี่จะไม่ทำให้นินเสียใจ" ฌามิสบอกเสียงหนักเเน่นและจริงจัง

เลนินชั่งใจคิดสักพักก่อนที่เธอจะตอบ

"อืม ตกลงค่ะ ดูแลนินดีนะคะอย่าทำให้นินเสียใจ" หญิงสาวตอบพร้อมกับยิ้มหวานไปให้ฌามิส ตอนนี้ฌามิสดีใจจนพูดอะไรไม่ออกได้แต่ยิ้มอย่างเดียว

"ทำไมนินทำแบบนี้ละ" ?????

ฝั่งทางด้านริกเตอร์

เป็นแฟนกับพี่นะ

"ตกลงค่ะ"

หลังจากที่เลนินตอบตกลงเป็นแฟนกับฌามิสเรียบร้อยแล้ว อยู่ๆก็มีเสียงปริศนาที่คุ้นหูดังขึ้น

"ทำไมนินทำกับพี่แบบนี้ละ" ริกเตอร์ถามขึ้นเสียงดัง

ทำให้ทั้งสามคนกลายเป็นจุดสนใจในงาน

การเจอกันของเลนินกับริกเตอร์ในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ทั้งสองคนไม่คิดว่าจะได้บังเอิญมาเจอกัน

"..." เลนินเลือกที่จะไม่ตอบ เพราะไม่อยากยุ่งกับคนใจร้ายแบบเขาอีก

"ปกตินินไม่ตกลงคบกับใครง่ายๆนิครับ แล้วทำไมถึงไปคบกับไอ้มิสได้ละ นินเอาพี่ไปไว้ไหน"

ริกเตอร์ถามเลนินเสียงอ่อย ตอนนี้ริกเตอร์ไม่สนใครทั้งนั้น เขาสนแค่เธอคนเดียว

"..." เลนินก็เลือกที่จะไม่ตอบอีกตามเคย

"นินครับ ตอบพี่หน่อยสิคนดี" ริกเตอร์บอกด้วยใจที่กระตุกวู้บ เลนินไม่เคยมีอาการแบบนี้กับเขามาก่อน และเขาก็ไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน เลนินเป็นคนแรกที่ทำให้เขาเกิดอาการแบบนี้

"ไอริกมึงเลิกยุ่งกับนินไปตั้งนานแล้ว แล้วตอนนี้มึงจะกลับมาหาเธออีกทำไมว่ะ" หลังจากที่ฌามิสยืนฟังอยู่นานเขาก็ทนเห็นเลนินอึดอัดไม่ได้ เขาเลยทนฟังคำพูดของเพื่อนสนิทตัวเองไม่ไหว ฌามิสเลยเดือดกลับบ้าง

"ไอมิสมึงอย่ายุ่งดิ เรื่องนี้เป็นเรื่องของกูกับนินมึงไม่เกี่ยว" ริกเตอร์พูดติดเหวี่ยงใส่เพื่อนสนิทตัวเอง เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของเลนินกับเขาคนอกอย่างฌามิสไม่เกี่ยว

"ไอริกมึงลืมไปแล้วหรอว่านินกับกูพึ่งตกลงเป็นแฟนกัน เพราะฉะนั้นเรื่องของนินก็คือเรื่องของกู จะให้กูไม่ยุ่งไม่ได้หรอก ไอริกไม่มีใครที่อยากทนเห็นแฟนตัวเองเสียใจกับเรื่องในอดีตหรอกนะมึง ปล่อยให้นินมีความสุขเถอะ ส่วนมึงก็กลับไปสงบสติอารมณ์ แล้วหาคนที่พร้อมจะอยู่ข้างมึงใหม่สะ ที่กูพูดมาทั้งหมดหวังว่ามึงจะคิดได้นะ" ในคราแรกฌามิสพูดติดอารมณ์เสีย แต่ตอนหลังเขาพยายามพูดให้ริกเตอร์เย็นลงและให้คำเตือนสติเพื่อน ในภายหลังฌามิสหวังว่าคำพูดของเขาจะทำให้ริกเตอร์คิดได้บ้าง

"..." ริกเตอร์ไม่ตอบอะไรแล้วยอมเดินกลับไปแต่โดยดี

"มิส นินอยากกลับบ้านแล้ว พานินไปส่งหน่อย"

"ครับ" ฌามิสไม่ได้พูดมากอะไรเพราะตอนนี้เขาเข้าใจความรู้สึกเธอดี

หลังจากที่เลนินขอให้ฌามิสมาส่งที่บ้าน เธอก็ไม่พูดอะไรอีกเลย เธอนั่งเงียบมาตลอดทางจนถึงบ้าน ตอนนี้เลนินเธอเหมือนคนสับสน เธอคิดว่าตัวเองลืมริกเตอร์ได้แล้ว แต่ไม่เลยเธอไม่ได้ลืมเขาเลยสักนิด แค่เธอเจอหน้าเขาเเปปเดียวเรื่องราวในอดีตมันก็เด่นชัดขึ้นมาในทันที เธอคิดมากเรื่องริกเตอร์จนทำให้เธอเผลอหลับไป

ริกเตอร์#

หลังจากที่ผมไปงานแต่งเพื่อนร่วมธุรกิจ ผมก็เห็นเลนินในงานแต่ง วันนี้เลนินเธอสวยมาก สวยจนผมรู้สึกหวงเธอขึ้นมา ผมไม่ชอบให้ใครมามองนินด้วยสายตาหื่นแบบนั้น ผมเลยรีบเดินไปหาหวังจะเอาเสื้อสูทผมไปคลุมให้เธอ แต่ผมดันได้ยินสิ่งที่ผมไม่ควรได้ยิน ไอฌามิสมันขอเลนินเป็นแฟนซึ่งเธอตอบตกลง พอผมได้ยินดังนั้นผมสติแตกเลยครับ ปกตินินไม่ตอบเป็นแฟนใครง่ายๆนิ แล้วรอบนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ซ้อมบทหรือคุยเล่นกับไอมิสแน่ เพราะเวลามิสมันขอใครเป็นแฟนมันจริงจังกับทุกคน ผมเลยระเบิดลงทันทีโกรธหน้าดำหน้าแดงไม่สนใครทั้งนั้น อีกทั้งนินไม่ยอมตอบคำถามผมสักคำ ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร ผมอยากคุยกับนินให้รู้เรื่อง แต่เธอไม่แม้แต่จะมองหน้าผม

ผมพยายามทำให้นินคุยกับผมทุกทางแต่เธอก็ยังไม่สนใจผมเหมือนเดิม จนไอมิสมันพูดย้ำสถานะมันกับนินมันทำให้ผมจุก แต่มันก็ยังหวังดีให้สติผม ทำให้ผมกลับมาคิดหาวิธีว่าจะทำยังไงให้นินกลับมาเป็นแบบเดิม ผมไม่สนไอมิสหรอกครับ ผมจะทำให้สองคนนั้นเลิกกันให้ได้ แล้วผมจะเลวให้ดู

"ริกคะ ไหนบอกจะไปงานแต่งไงคะทำไมกลับมาเร็วจัง" ริต้าคู่ขาผมเองครับ ผมยังไม่เบื่อเธอผมเลยเก็บเธอไว้ เธอรู้งานดีทุกอย่าง ถ้าทิ้งริต้าไปผมคงเสียดายแย่ ผมบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่าถ้าผมได้นินกลับมาผมอาจจะยังไม่ทิ้งริต้า เพราะเธอถึงใจผมที่สุดแล้ว

"มีเรื่องนิดหน่อยนะ ทำให้ผมหายหงุดหงิดที" ผมตอบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เพราะตอนนี้ริต้าเธอใส่ชุดนอนสายเดี่ยวเนื้อผ้าซาตินบางสีขาว ตอนนี้ชุดนอนของเธอล่วงไปอยู่ที่พื้นเรียบร้อยแล้วครับ

"ได้เลยคะที่รัก รับลองหายหงุดหงิดแน่นอนค่ะ" เธอตอบพร้อมกับขึ้นคร่อมหน้าตักผม และผมก็มอบจูบอันเร่าร้อนให้กับเธอ จากนั้นเราก็บรรเลงเพลงรักกันจนฟ้าเหลืองเลยครับ

อื้ออออออ เสียงริต้าคราง

"เอ้ะ ริกคะเมื่อคืนยังไม่พออีกหรอคะ" ริต้าถามผมพร้อมกับยิ้มยั่วยวนมาให้

ก็เธอเป็นสะเเบบนี้ไงผมเลยยังไม่เบื่อเธอ เดี๋ยวผมก็ยกให้เธอเป็นเมียคนแรกส่ะเลยนิ

"ใครจะไปพอครับ ก็เมียพี่เด็ดนิ" ผมบอกพร้อมกับทำหน้าหื่นใส่ริต้า

"หืมเมียเลยหรอคะ ไหนทำให้เมียพอใจหน่อยสิ อ้ะ!" พอริต้าพูดจบผมก็เริ่มจัดการเธอทันที

#ริกเตอร์end

หลังจากที่เลนินผ่านเหตุการณ์เลวร้ายเมื่อคืนมาได้ เธอก็ไม่ได้สับสนเท่าเมื่อคืนแล้ว อย่างน้อยที่เธอนอนคิดเมื่อคืนมันก็ทำให้เธอรู้ว่าเธอเริ่มรักฌามิสขึ้นมาแล้วจริงๆ พอตอนเช้าเธอเลยโทรหาฌามิสเพื่อที่จะนัดฌามิสออกมากินมื้อเที่ยงด้วยกันที่บ้าน เธอตั้งใจนัดฌามิสมาเพื่อจะถามเรื่องริกเตอร์ เพราะเธอยังคาใจเรื่องที่ริกเตอร์รู้จักกับฌามิส และเธอจะคุยเรื่องที่คบกันกับฌามิส เพราะเลนินไม่เคยมีแฟนเธอเลยอยากถามฌามิสว่าเธอควรทำตัวแบบไหน

@ตอนเที่ยง

"นินครับเราไปทานข้าวข้างนอกกันไหมครับ พี่ไม่อยากให้นินอยู่แต่ในบ้าน" ฌามิสบอกด้วยความเป็นห่วง

"ก็ได้คะ"

หลังจากที่เลนินตอบว่าได้แล้ว ฌามิสก็อาสาพาเลนินมาทานมื้อเที่ยงในห้างหรูใจกลางเมือง แต่การมาทานมื้อเที่ยงครั้งนี้ ทำให้เลนินประหม่าเพราะเธอรู้ตัวว่าเริ่มชอบฌามิสแล้วทำให้เลนินทำตัวไม่ถูก

"นินครับเป็นอะไรรึเปล่า หรือว่าพี่ปรับแอร์เย็นเกินไปครับ" ฌามิสถามด้วยความเป็นห่วง

"อ๋อ ปะ เปล่าคะ นินแค่เริ่มหิวข้าวอ่ะคะแฮร่ๆ" เลนินเลือกที่จะไม่ตอบความจริงเพราะเขินอยู่เธอเลยขำแห้งกลบเกลื่อนความเขิน

"โอเคเดี๋ยวพี่จะรีบขับรถ จะได้ถึงร้านอาหารไวๆ" ฌามิสบอกพร้อมกับยิ้มหวานให้เลนิน

@ร้านอาหาร

พอมาถึงร้านอาหารเลนินก็สั่งเอาๆ ทำให้ฌามิสมองจนเพลินตา เลนินเธอก็ไม่ได้ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ตลอดเวลา บางเวลาเธอก็อยากทำตัวให้ดูเด็กบ้าง เพราะทุกวันนี้เธอทำแต่งานไม่ค่อยมีเวลาให้ตัวเอง พออาหารมาเสิร์ฟเลนินเลือกที่จะกินสเต็กเนื้อก่อนเพราะเธอชอบกินเนื้อที่สุด

"นินครับซอสเปื้อนปากครับ"

"คะ? อื้อออ" ฌามิสบอกเลนินเพื่อหวังให้เธอเช็ดปากเอาซอสออก แต่ความน่ารักของเธอทำให้ ฌามิสต้องโน้มหน้าเข้าไปจูบเธออย่างดูดดื่ม อีกฝั่งของร้านอาหารริกเตอร์ก็พาริต้ามาทานมื้อเที่ยงร้านเดียวกันกับเลนิน ตอนที่ริกเตอร์เดินเข้ามาในร้านเธอเห็นเลนินกับฌามิสตั้งแต่เเรกอยู่แล้ว แต่ทั้งสองคนไม่เห็นริกเตอร์เพราะกำลังสั่งอาหารกันอยู่ ริกเตอร์คอยมองและสังเกตการกระทำของฌามิสและเลนิน จนถึงฉากที่เขขาต้องทนเห็นเพื่อนสนิทตัวเองมาทับรอยจูบของเขา ริกเตอร์เห็นแบบนี้ถึงกับโมโหเลยทันที แต่เขาก็ต้องเก็บอาการเพราะ ไม่อยากให้ริต้าน้อยใจ

'คืนนี้เจอดีแน่เลนิน' ริกเตอร์นึกในใจพร้อมกับแผนที่จะจัดการเธอคืนนี้ หลังจากที่ฌามิสทำเลนินเขินอายอยู่สักพัก ทั้งคู่ก็รับประทานอาหารต่อ โดยที่ไม่รู้ตัวว่ามีสายตาอำมหิตคอยจ้องพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ส่วนเลนินเธอพึ่งนึกออกว่าจะถามอะไรกับฌามิสบ้าง

"พี่ฌามิสคะ พี่เป็นอะไรกับนายริกเตอร์หรอคะ" เลนินถามอย่างสงสัย

"อ๋อคือว่าพี่กับมันเป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วก็....." ฌามิสตอบพร้อมกับอธิบายยาวเหยียวให้เลนินฟัง

ฌามิสรู้ว่าเลนินเป็นคนขี้สงสัย เขาเลยอธิบายและเล่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาและริกเตอร์ โดยไม่มีอะไรปิดบังเธอเลยแม้เเต่น้อย

"พี่มิสคะ พี่โอเคหรอคะที่หนูเคยรักเพื่อนพี่มาก่อน" เลนินพูดพร้อมทำหน้าเศร้า

"นินครับ เรื่องนี้พี่ไม่ซีหรอกครับ พี่ขอแค่เราสองคนรักกันก็พอครับ"

ตอนแรกฌามิสพูดอย่างจริงจังและหนักแน่น ส่วนภายหลังเขาพูดพร้อมกับจ้องตาเลนิน ทำให้เธอเขินจนทำอะไรไม่ถูก

แต่พวกเขาทั้งสองหารู้ไม่ว่ามีอีกคนกำลังเดือดดาล เพราะการกระทำของทั้งคู่

"ขอบคุณนะคะที่รักนิน นินก็รักพี่มิสนะคะถึงจะยังรักไม่มากแต่นินเชื่อว่านินสามารถรักพี่มิสเพิ่มขึ้นได้ทุกวันคะ" เลนินบอกความรู้สึกของตนให้ฌามิสฟังพร้อมกับยื่นหน้าไปหอมแก้มหนึ่งที

ฟอดดดดดด เสียงหอมแก้ม

"นินน่ารักแบบนี้ไงคะ พี่เลยติดนินอยู่แบบนี้" ฌามิสพูดพร้อมกับยิ้มตาหยีให้เธอ

เลนินเธอก็ยิ้มเขินอายกลับไปให้เขาเช่นกัน

พอฌามิสกับเลนินเดินออกจากร้านอาหารไป ริกเตอร์ก็บอกให้ริต้ากลับไปก่อน ส่วนตัวเขานั้นขับรถตามเลนินไปที่บ้านของเธอ แต่เขายังไม่คิดที่จะเข้าไปในข้างบ้านตอนนี้ เขากำลังรอโอกาสที่เหมาะในการเข้าไปหาเลนิน ผ่านไปสองชั่วโมงริกเตอร์ก็เริ่มทำตามแผนที่ตัวเองวางไว้

แกร๊ก ปึก เสียงบิดลูกบิดประตูและเสียงปิดประตู

ตอนนี้ริกเตอร์เข้ารอเลนินในห้องนอนเธอเรียบร้อยแล้ว ริกเตอร์รู้ว่าตอนนี้เลนินเธอกำลังอาบน้ำอยู่เขาเลยใช้โอกาสนี้เพื่อที่จะทำใหเธอกลายเป็นของเขา เเต่ก็ต้องรอให้เธอออกมาจากห้องน้ำสะก่อน

ผ่านไปสักพักริกเตอร์ก็ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก เขารีบเดินไปที่หน้าประตูห้องน้ำทันทีก่อนที่จะไม่มีโอกาสทำตามแผน ในขณะที่เลนินกำลังเดินออกจากห้องน้ำเพื่อที่จะไปใส่เสื้อผ้าในห้องแต่งตัว จู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงที่คุ้นหูจากทางด้านหลัง

"ว่าไงครับที่รัก" ริกเตอร์ทักเลนินด้วยสายตาลวนลาม

"..." แต่เลนินไม่ตอบ แต่กับเดินเลี่ยงไปหยิบเสื้อผ้าที่จะสวม แล้วเดินไปในห้องน้ำทันที

แต่มีหรอที่จะหนีคนอย่างริกเตอร์ได้ ริกเตอร์จับแขนเรียวเล็กของเลนินพร้อมกับดึงเข้าหาตัว เพื่อที่เธอจะได้ไม่หนีไปไหน

"อยากหนีผมมากใช่ไหมนิน ได้!ในเมื่อผมเอาคุณกลับมาเป็นแบบเดิมไม่ได้ งั้นผมขอเอาคุณเป็นนางบำเรอแทนก็แล้วกัน" ริกเตอร์ทนไม่ไหวกับการกระทำของเลนิน เขาเลยพูดเสียงรอดไรฟันปนอารมณ์โมโห

"..." เลนินเลือกที่จะไม่ตอบ เพราะเธอไม่อยากเจอหน้าคนที่เคยบอกว่ารักเธอ แต่กลับไปเอากับผู้หญิงคนอื่น

"หึ ตกลงจะไม่ตอบใช่ไหมนิน งั้นก็เก็บเสียงไว้ครางชื่อผัวก็แล้วกัน" ริกเตอร์เค้นขำในลำคออย่างหัวเสีย จากนั้นเขาก็โยนเลนินไปไว้ที่เตียงด้วยความรุนแรง

เลนินรู้สึกจุกมวลท้องไปหมด ถึงเตียงนอนจะนุ่มแค่ไหนถ้าโดนแรงกระแทกเข้าไปยังไงก็เจ็บและจุกอยู่ดี จากตอนแรกที่เธอเกลียดเขาอยู่แล้ว ยิ่งเขาทำแบบนี้กับเธอ เธอยิ่งเกลียดเขาหนักกว่าเดิม ตอนนี้น้ำตาลูกผู้หญิงของเลนินค่อยๆไหลลงมาอาบแก้มเนียนทั้งสองข้าง เธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ เธอเคยรักคนแบบนี้ไปได้ยังไง

"อึก ฮึก ฮือออ" เสียงเลนินสะอึกจากการร้องไห้ ที่เธอร้องไห้ไม่ใช่ว่ากลัวการกระทำของริกเตอร์ แต่เธอเจ็บ เจ็บทั้งกายและใจ

"ร้องไห้หรอคนดี ไม่ต้องกลัว ยังไงเธอก็ต้องเป็นกลายเป็นของฉัน เธอไม่ดีใจหน่อยหรอมีผัวเพิ่มอีกหนี่งคน หึ" ว่าจบแล้วริกเตอร์ก็จัดการปลดเปลื้งเสื้อผ้าของทั้งเขาและเธออย่างรวดเร็ว และจับแก่นกายที่แข็งชูชันรออยู่แล้วยัดเข้าไปในช่องทางรักคับแคบแคบแต่เข้าไปไม่หมด เขาจึงเพิ่มแรงในการร่วมรักเพิ่มเป็นเท่าตัว ปึก ปึก ปึก

กรี้ดดดดดด เอาออกไปฉันเจ็บ ฮึก

เมื่อริกเตอร์รู้ว่านี้คือครั้งแรกของเลนิน เขาหาได้สนใจไม่ เพราะอารมณ์ดิบเถื่อนของเขามันไม่ลดลงเลยแต่มันกลับเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมสะอีก  ตอนนี้ในหัวของริกเตอร์คิดอยู่แค่อย่างเดียว คือ เขาต้องการทำให้เลนินเจ็บปวดและทรมาน จะได้ไม่ต้องร่านไปหาฌามิสเพื่อนสนิทของเขาอีก

ริกเตอร์ได้มอบบทเพลงรักที่แสนโหดเหี้ยมกับเลนิน และอีกต่อหลายชั่วโมงต่อมาการกระทำที่รุนแรงและป่าเถื่อนของริกเตอร์ก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุดเลยสักนิด ริกเตอร์หารู้ไม่ว่าการกระทำของเขาทำให้เลนินเกลียดเขายิ่งกว่าเดิม 

เมื่อริกเตอร์มอบบทเพลงรักที่แสนโหดเหี้ยมและป่าเถื่อนให้กับเลนินเสร็จเรียบร้อยเเล้ว เขาก็โยนแผงยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินมาให้เลนินกินพร้อมกับแต่งตัว

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้เลนินรู้สึกผิดกับฌามิสเป็นอย่างมาก และเธอไม่อยากให้ใครมารับรู้เหตุการณ์อันเลวร้ายที่เกิดชึ้นกับเธอในวันนี้ เธอรู้สึกขยะแขยงกับรอยที่ริกเตอร์ฝากไว้บนตัว เธอพยายามจะลบรอยพวกนี้ออกไปจากตัวแต่ลบยังไงมันก็ไม่ออกสักที เธอทำได้แค่กลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลลงมาให้กับเหตุการณ์อันแสนเลวร้าย

"แล้วฉันจะมาใช้บริการ 'นางบำเรอ' แบบเธอบ่อยๆ" ริกเตอร์พูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินออกจากห้องของเลนิน

ฝั่งของเลนินเมื่อเธอแน่ใจว่าริกเตอร์เดินห่างจากห้องเธอไปไกลแล้ว เธอก็พยายามพาร่างกายแสนบอบช้ำลุกขึ้นมากินยาคุมฉุกเฉินพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาเป็นทางทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังพอกลั้นไว้ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถกลั้นน้ำตาที่ไหลลงมาได้อีกแล้ว ความรู้สึกของเธอไม่ได้แค่เจ็บอีกแล้ว แต่มันเพิ่มทั้งความเจ็บทั้งความช้ำกายและใจให้กับเธอ

2 อาทิตย์ต่อมา

สองอาทิตย์ที่ผ่านมาเลนินไม่ได้ออกจากบ้านเลย แต่เลนินก็ยังทำงานอยู่ตลอดเวลา โดยให้เลขาคนใหม่ส่งเอกสารมาให้เซ็นที่บ้าน ตั้งแต่วันที่ริกเตอร์เข้ามาทำร้าบร่างกายและจิตใจวันนั้น เธอก็เลือกที่จะไม่ติดต่อใครเลยแม้กระทั้งฌามิส เธอไม่อยากออกไปเจอใคร เลนินรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองนั้นสกปรกไม่คู่ควรกับฌามิสอีกต่อไป

ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตู

"คุณหนูคะมีคนมาขอพบคะ"

"บอกไปว่าฉันไม่ว่างที่จะพบใคร" เลนินตอบคนรับใช้เสียงเรียบ

"หืม แม้แต่พี่คนนี้ก็ไม่อยากเจอหรอจ้ะ"

หลังจากที่เลนินได้ยินเสียงของหญิงสาวที่คุ้นเคย เธอรีบเงยหน้าออกจากกองเอกสารแล้วยิ้มกว้างออกมาทันที

"พี่ริเดียมาได้ไงคะเนี่ย" เลนินเอ่ยทักพี่สาวที่เป็นลูกของป้าแท้ๆอย่างดีใจ

"พี่หายตัวมาจ้ะ" ริเดียตอบแบบกวนๆ

"พี่เดียอ่ะ ตอบหนูดีๆสิคะ" เลนินบอกพร้อมทำหน้างอนๆใส่ริเดีย เลนินดีใจที่ริเดียมาหาเธอจนทำให้เธอลืมเรื่องเศร้าๆที่ผ่าน

"จ้ะ พี่พึ่งกลับมาจากอังกฤษ พี่คิดถึงเลยมาหานินก่อนไง แล้วสรุปน้องสาวพี่เป็นอะไรทำไมไม่ยอมรับแขก หรือใครทำอะไรน้องพี่" ริเดียวถามเลนินด้วยความเป็นห่วง ปกติเธอแทบจะไม่เห็นเลนินทำหน้าเศร้าแบบนี้นานแล้ว ตั้งแต่ที่พ่อกับแม่ของเลนินเสีย

"ถ้าหนูพูดไปพี่รังเกลียดหนูไหม พี่จะยังรักหนูอยู่ไหม ฮึก ฮืออออ" จู่ๆเลนินก็ร้องไห้เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่แสนเลวร้าย

"นิน นินฟังพี่นะ ไม่ว่านินจะเป็นอะไรหรือนินจะลำบากแค่ไหนพี่ก็ยังรักและไม่เคยคิดที่จะรังเกลียดน้องสาวคนนี้เลยแม้แต่น้อย" ริเดียบอกด้วยความรู้สึกจากใจจริง

"ขอบคุณนะคะพี่เดีย"

หลังจากที่เลนินได้ฟังความรู้สึกที่มาจากใจจริงของริเดียเธอเริ่มรู้สึกมั่นใจที่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่สาวคนนี้ฟัง

"ทำไมนายริกเตอร์อะไรนั่นถึงกล้าทำขนาดนี้ นายนั่นยังมีหัวใจอยู่รึเปล่า แล้วแฟนนินรู้เรื่องนี้ยัง" พอริเดียฟังเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องสาวตัวเองจบ เธอก็เดือดแทนน้องสาวทันทีทันใดพร้อมกับถามกลับไปว่ามีใครรู้เรื่องนี้แล้วรึยัง

"ไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากพี่กับนินค่ะ" เลนินบอกพร้อมกับทำหน้าเศร้า

"นิน ถ้าอีกสองวันพี่จะชวนนินกับเพื่อนแล้วก็แฟนของนินไปเที่ยวทะเล จะไปไหม" ริเดียถามน้องสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

"ไปสิคะ พี่เดียอุตส่าห์ชวนทั้งที" เลนินตอบไปอย่างดีใจ

"นินรู้ใช่ไหมจุดประสงค์ที่พี่ชวนไปทะเลคืออะไร นินพร้อมใช่ไหม" ริเดียพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

"ค่ะ ทราบค่ะ นินพร้อมเสมอถ้ามีพี่เดียอยู่ด้วย" เลนินตอบด้วยใบหน้าอ้อนๆ

"อีกสองวันเตรียมตัวให้พร้อมนะนิน งั้นพี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้อาบน้ำเลย" ริเดียบอกก่อนที่จะเอามือมายีหัวเลนินอย่างรักใคร่เอ็นดู แล้วเดินออกจากห้องเลนินไป

พอริเดียออกจากห้องไปเลนินก็ต่อสายโทรไปชวนเพื่อนทั้งสองคนและผู้เป็นที่รักอย่างฌามิสเพื่อที่จะชวนไปเที่ยวทะเล

ฌามิสเมื่อเห็นว่าเลนินโทรมาเขาก็ยิ้มดีใจแทบบ้า เพราะตลอดระยะเวลาสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาติดต่อเธอไม่ได้เลย แต่ที่สิ่งที่เขาดีใจยิ่งกว่าการที่เธอโทรมาคือเธอชวนเขาไปเที่ยวทะเล ฌามิสเลยไม่ลังเลที่จะตอบตกลง

2 วันต่อมา

 

ตอนนี้ทั้งริเดียและเลนินกับเพื่อนๆแล้วก็ฌามิสมาถึงบ้านพักต่างอากาศเรียบร้อยแล้ว ทุกคนกำลังนำสิ่งของเครื่องใช้เข้าไปเก็บในห้อง ในบ้านหลังนี้ทุกคนมีห้องแยกเป็นของตัวเอง บ้านพักที่ทุกคนมาพักเป็นของเลินิน พ่อแม่ของเธอซื้อไว้ก่อนที่ท่านจะเสีย บ้านหลังนี้ใหญ่พอที่จะให้ทุกคนนอนคนละห้อง ทุกคนเลยสะดวกในการทำกิจวัตรของตัวเอง

 

ก๊อก ก็อก ก็อก เสียงเคาะประตู

 

"นินพร้อมแล้วใช่ไหม" ริเดียถามเลนินด้วยความเป็นห่วงเพราะตอนนี้ใกล้ถึงเวลาที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องราวอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเลนิน

"ค่ะ นินพร้อมแล้ว" เลนินบอกด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมกับยิ้มอ่อนๆให้ริเดีย

ก่อนทีจะลงจากรถ ริเดียบอกกับทุกคนไว้ว่าถ้าใครเก็บของเสร็จแล้วให้ลงมาเจอกันที่ห้องนั่งเล่นเธอมีอะไรจะคุยกับทุกคน ทุกคนที่มาเที่ยวทะเลกับเลนินในวันนี้เลยเกิดความสงสยว่า ทำไมต้องเรียกทุกคนลงมาที่ห้องนั่งเล่นหลังจากเก็บข้าวของเครื่องใช้เสร็จแล้ว

"มาพร้อมกันแล้วใช่ไหมคะทุกคน งั้นฉันขออณุญาตเล่าเลยก็แล้วกัน" ริเดียเอ่ยถามทุกคนในห้องนั่งเล่นพร้อมกับเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเลนินทั้งหมด

"เห้ยทำไมเลวแบบนี้ ทีตอนแรกทำเป็นจริงจังกับนินแล้วทำไมเป็นแบบนี้ละ" ดินพูดออกมาด้วยความโกรธและโมโห เขาอุตส่าห์ยอมถอยเพื่อให้ริกเตอร์จีบเลนินได้สะดวกขึ้น แต่ทำไมริกเตอร์ถึงทำลายโอกาสได้ง่ายดายขนาดนี้

"ดินแกใจเย็นก่อน พี่ต้องการให้พวกเธอคอยช่วยและดูแลเลนินแบบใกล้ชิด เพราะถ้ามีช่องโหว่แม้แต่นิดเดียว ผู้ชายแบบริกเตอร์ก็จะสามารเข้ามาทำร้ายนินได้ตลอดเวลา" ริเดียบอกด้วยสีหน้าจริงจัง

"ตกลงค่ะ/ครับ พวกเราจะดูแลนินอย่างสุดความสามาถ" ดินและน้ำทิพย์บอกเป็นเสียงเดียวกัน

หลังจากนั้นทุกคนก็พูดให้กำลังใจเลนิน มีแต่ฌามิสที่นิ่งอึ้งแบบไม่รับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว

 

ฌามิส#

หลังจากที่ผมรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเลนินทั้งหมดผมก็เกิดอาการอึ้ง ตื้อ สมองไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นครับ เพราะผมกับมันเคยสัญญากันว่าจะไม่แย้งผู้หญิงที่เพื่อนรัก ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม แต่ตอนนี้ไอริกมันผิดกฎ ผมโมโหและโกรธมันอย่างให้อภัยไม่ได้ เพราะสิ่งที่มันทำเลวยิ่งกว่าอะไรดี ถึงนินจะโดนมันทำร้ายมาหนักแค่ไหนแต่ผมก็พร้อมที่จะดูแลและรักษานินไปตลอด ผมจะไม่ยอมให้ไอริกมันมาทำร้ายนินอีกแน่นอน สิ่งที่นินเสียไปแล้วผมก็ไม่ถือสาเพราะความรักมันไม่ได้เกิดจากการร่วมรัก แต่ความรักเกิดจากสิ่งที่คนสองคนพยายามสร้างขึ้นมาด้วยความจริงใจและไว้ใจกัน

"นินครับ มิสขอโทษนะที่ดูแลและปกป้องนินไม่ดีเอง แต่ต่อไปนี้มิสสัญญาว่าจะดูแลนินอย่างดี และจะไม่ทำให้นินเสียใจครับ"หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายไปห้องของตัวเอง ผมก็เห็นนินเดินออกมานั่งร้องไห้ตรงสวนหน้าบ้านพัก ผมเลยนั่งลงข้างๆนินพร้อมกับขอโทษและให้คำหมั้นสัญญาอย่างหนักแน่น

"พี่มิส ฮึกไม่รัง ฮึกๆเกลียดนินหรอคะ ฮึกนินสกปรกฮืออออออออ" น้องบอกผมทั้งๆที่น้องยังร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ ผมบอกเลยว่าผมเเม่งโคตรสงสารน้องเลย ไม่น่าปล่อยน้องให้อยู่บ้านคนเดียวเลย

"พี่ไม่เคยรังเกลียดนินครับ พี่ยังรักนินเหมือนเดิม เลิกร้องได้แล้วนะครับคนดีเดี๋ยวไม่สวยเอานะ" ผมบอกน้องพร้อมกับยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้น้องอย่างเอ็นดู

"ขอบคุณนะคะที่ไม่รังเกลียดหนู ขอบคุณที่ยังรักหนูเหมือนเดิมนะคะ" น้องพูดพร้อมกับกอดผมแล้วเอาหน้ามาซุกผมแบบอ้อน แต่่เอ้ะน้องแทนตัวเองว่าหนูหรอ

"หืมนินแทนตัวเองว่าหนูหรอครับ" ผมถามน้องออกไปอย่างอยากรู้

"นินไม่เคยใช้คำแทนตัวเองว่าหนูกับใครนอกจากพ่อกับแม่ ถ้านินแทนตัวเองว่าหนูกับใครแสดงว่าคนๆนั้นต้องพิเศษสำหรับนินคะ" น้องอธิบายให้ผมฟังพร้อมกับยิ้มตาหยีให้ผม น้องน่ารักแบบนี้ไงครับจะไม่ให้ผมรักน้องได้ยังไง

"พี่ก็ขอบคุณหนูนะที่หนูให้โอกาสพี่ในมุกๆเรื่อง ถ้าหนูไม่ได้ให้โอกาสพี่ในวันนั้น ก็คงไม่มีเราในวันนี้นะครับ ป่ะเข้าบ้านกันครับ" ผมบอกขอบคุณน้องอย่างจริงใจพร้อมกับก้มลงไปจูบหน้าผากน้องหนึ่งที แล้วพาเข้าบ้าน

 

ตกดึก

 

ก๊อก ก๊อก

"พี่มิสหรอคะ เข้ามาได้เลยคะ" สัญญาณการเคาะประตูสองครั้งของผมนี้ได้ผลดีจริงๆครับ มันทำให้นินรู้ว่าผมเป็นคนมาหาเธอ

"ใช่ครับพี่เอง วันนี้พี่จะมานอนเฝ้าเรา แต่พี่จะนอนโซฟาครับไม่ต้องห่วง" ผมบอกน้องด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น แล้วน้องเดินเข้ามาหาผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ผมอดไม่ได้ที่จะไม่ยีหัวน้อง คนอะไรน่ารักตลอดเวลา

"งื้ออออออ คนอะไรไม่รู้ชอบทำผมหนูยุ่ง" น้องบอกพร้อมกับทำหน้ามุ้ยใส่ผม แต่ผมไม่ได้คิดว่ามันน่ากลัว ผมคิดว่ามันน่ารักมากกว่า

"แล้วคนอะไรละครับชอบทำตัวน่ารักตลอดเวลา ตอนนี้ดึกแล้วนะครับไปนอนได้แล้ว" ผมบอกให้น้องไปนอนพร้อมกับหอมแก้มน้องไปสองที แต่น้องก็ไม่น้อยหน้านะครับมีการหอมแก้มผมกลับด้วย

"คะ ฝันดีนะคะพี่มิสของหนู"

"ฝันดีครับคนดีของพี่" น้องบอกฝันดีผมแล้วก็ไปนอน ส่วนผมก็บอกฝันดีน้องแล้วรอให้น้องหลับก่อน ผมค่อยหลับ

ผ่านไปสักพักน้องก็หลับแล้ว ตอนนี้ผมก็กำลังจะนอน แต่ผมได้ยินเสียงอะไรทางหน้าต่างผมเลยเลือกที่จะไม่หลับต่อ

"อื้อออ พี่มิสช่วยหนูด้วย พี่มิส" ทันใดนั้นเองครับผมได้ยินเสียงน้องร้องให้ช่วยผมรีบวิ่งไปเปิดไฟแล้วเห็นไอริกนั่งคร่อมเเล้วเอามือปิดปากน้องไว้อยู่

ผมรีบดึงตัวมันออกมาจากน้องพร้อมกับชกมันไปสองหมัดครับ ผั้วะ ผั้วะ

"ไอริก มึงควรเลิกยุ่งกับนินได้แล้วนะเว้ย" ผมบอกมันไปอย่างหัวเสีย

"กูไม่เลิกนินเป็นนางบำเรอ กูจะทำอะไรก็ได้ป่ะวะ หึ ทำไมหวงก้างหรอ ได้ข่าวว่ากูเป็นคนแรกของนิน งั้นมึงหวงอะไรวะ" ผมทนไม่ได้กับคำพูดของไอริกผมเลยต่อยมันไม่อีกหนึ่งที ผั้วะ

"ถึงกูจะไม่ใช่คนแรกของนิน แต่กูทำทุกอย่างให้นินด้วยความรัก ไม่ใช่ความมักมากแบบมึงไอริก" ผมบอกมันด้วยใบหน้าที่โมโหและพร้อมต่อยมันอีกหลายๆรอบ

"ได้ รอบนี้กูจะยอม แต่รอบหน้ากูไม่ยอมแน่" ไอริกบอกพร้อมกระโดดลงจากหน้าต่าง

"นินครับหนูเป็นอะไรไหม" ผมถามน้องด้วยความเป้นห่วง

"ขอบคุณนะคะพี่มิส คืนนี้หนูขอนอนตักพี่มิสนะคะ" น้องบอกขอบคุณผม แล้วเอาหัวมาหนุนที่ตักของผม

"ครับ ฝันดีครั้งที่สองนะคนดีของพี่" ผมบอกฝันดีคนตัวเล็กบนตักเสียงเบา พร้อมกับเอามือลูบหัวน้องอย่างเอ็นดูและผมก็ค่อยๆเข้าสู่ห้วงนิทราตามไปติดๆ

 

#ฌามิสend

 

วันหยุดพักผ่อนที่ผ่านมาฌามิสดูแลเลนินดีทุกอย่าง ไม่มีขลาดตกบกพร่องตรงไหนเลยแม้แต่น้อย การดูแลของเขาที่ทะเล ทำให้ฌามิสรู้สึกที่จะอยากดูแลเลนินไปตลอดชีวิตด้วยความรักที่มีต่อเธอทั้งหมด หนึ่งอาทิตย์ให้หลังฌามิสแอบเตรียมแผนการที่จะเซอร์ไพรขอเลนินแต่งงาน การขอเธอแต่งงานในครั้งนี้มีความเสี่ยงที่จะสำเร็จและล้มเหลวอย่างละห้าสิบเปอร์เซ็นต์

 

ผลจะออกมาเป็นยังไงก็ต้องรับให้ได้เอาวะฌามิสพูดให้กำลังตัวเอง

 

@วันเซอร์ไพรขอแต่งงาน

 

ฌามิสพาเลนินมาที่สวนดอกไม้แห่งหนึ่งในสวนสาธารณะ ซึ่งมีการจัดเตรียมของที่จะทำการเซอร์ไพรเลนินอยู่ที่นั้นทั้งหมด

 

นินครับรอพี่อยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ ห้ามไปไหนเด็ดขลาดนะ

 

โอเคค่ะ รอแค่นี้จิ้บจ้อยมากค่ะ ขนาดพี่มิสรอหนูตั้งนานพี่ยังรอได้เลย หนูรอพี่แค่แปปเดียวทำไมหนูจะทำไม่ได้ละคะ

 

เลนินตอบอย่างเอาใจฌามิสพร้อมกับยิ้มหวานให้เขา

 

เลนินยืนรอตามแผนของฌามิสแบบไม่ได้คิดอะไร ต่อมาเขาก็ไปพาคนที่จ้างมาเป็นคู่รัก ให้มาแสดงเป็นคนรักทั่กำลังจะขอแต่งงานกันต่อหน้าเลนิน ผ่านไปสักพักคู่รักที่ถูกจ้างมาก็ดำเดินตามแผน พอเลนินเธอได้เห็นภาพตรงหน้าเธอรู้สึกตื้นตันแทนผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างมาก เลนินเธอแอบคิดในใจว่าเธออยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเธอบ้าง พอนึกได้อย่างนั้นเธอก็รีบถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกทันที  ถึงเลนินเธอจะไม่เคยมีความรัก แต่เธอก็รู้ว่าเรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่ผู้หญิงอยากให้ผู้ชายคนที่รักทำให้มากที่สุด

 

พอใกล้จะถึงคิวของฌามิส  คู่รักที่ถูกจ้างมาแสดงขอแต่งงานต่อหน้าเลนินก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้กับเธอ เพื่อเปิดวิดีโอให้เลนินเห็นเหตุการณ์ที่ฌามิสเป็นคนเตรียมงานทั้งหมดให้เธอดู คู่รักที่ถูกจ้างมาก็ไม่ลืมที่จะบอกให้เลนินเปิดวิดีโอในเครื่องดู ในคราแรกเลนิน งงงวยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนิดหน่อยแต่เธอก็ยอมรับโทรศัพท์มือถือไว้ และเปิดวิดีโอที่อยู่ในเครื่องดูตามคำที่คู่รักบอก

 

ในขณะที่เลนินกำลังดูวิดีโออย่างซาบซึ้งและตื้นตัน อยู่ๆก็มีคนโทรมาหาฌามิสทั้งๆที่จะถึงคิวที่เขาจะต้องไปขอเลนินแต่งงานแล้วแท้ๆ

 

อืดดดดดดดดด อืดดดดดดดด อืดดดดดดดดด

 

เมื่อฌามิสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าเป็นใครที่โทรมา เขาก็ตกใจและแอบดีใจนิดๆ เพราะคนที่โทรมาคือเจนนี่ แฟนเก่าที่เขารักมากที่สุด

 

"มีอะไร" ฌามิสรับสายเสียงแข็ง เขาไม่อยากให้เจนนี่รู้ว่าเขายังรักเธออยู่ ทั้งที่ในใจอยากจะไปหาเธอให้รู้แล้วรู้รอด

 

"เปล่าแค่คิดถึง มาหาหน่อยไหม" เจนนี่พูดด้วยน้ำเสียงที่คิดถึง ซึ่งมันเข้าทางฌามิสเพราะตอนนี้เขาอยากจะไปหาเธอแทบแย่

 

"อืมได้"

 

"คอนโดJ ห้องเดิมที่มิสเคยมา" เจนนี่ได้ยินฌามิสตอบแบบนั้นเธอก็กรี้ดออกมาด้วยความดีใจ

 

พอฌามิสรู้แล้วว่าเจนนี่อยู่ที่ไหนเขาก็รีบขับรถออกไปหาเธอทันที และเขาดันลืมสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จภายในวันนี้

 

 

เมื่อเลนินดูวิดีโอในโทรศัพท์เสร็จเธอก็ยื่นโทรศัพท์คืนคู่รักด้วยร้อยยิ้มเปี่ยมสุข คู่รักที่ถูกจ้างมาก็รับโทรศัพท์มาไว้กับตัวพร้อมกับเข้าไปเชิญฌามิสที่กำลังเตรียมตัวอยู่ออกมาทำการขอแต่งงานผู้หญิงที่พวกเขายื่นโทรศัพท์ให้ แต่ทั้งสามคนก็ต้องตกใจเพราะฌามิสรีบวิ่งขึ้นรถและขับออกไปอย่างเร็ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ทำให้เลนินสตั้นไปสักพัก ร้อยยิ้มเปี่ยมสุขที่เคยยิ้มแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าเศร้าหมอง แต่เลนินเธอก็คิดในแง่ดี เธอคิดว่าเขาอาจจะมีงานด่วนเข้ามาก็ได้ การที่เลนินคิดแบบนี้ทำให้เธอไม่คิดในแง่ลบ

 

"หนูขอบคุณพี่ทั้งสองคนมากนะคะ วันนี้พวกพี่ทำเต็มที่แล้วค่ะ กลับบ้านกันดีๆนะคะ" เลนินเดินมาส่งคู่รักทั้งสองคนที่รถพร้อมบอกขอบคุณพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ

 

จากนั้นเลนินก็โทรให้คนขับรถที่บ้านมารับ เพราะขามาเธอมากับฌามิสขากลับเธอเลยต้องโทรเรียกคนขับรถที่บ้านมารับ

 

 

ทางด้านฌามิส

 

ก๊อก ก๊อก

 

เสียงเคาะประตู

 

แกร๊ก

 

เสียงเปิดประตู

 

"เชิญค่ะมิส" เจนนี่เดินออกมาเปิดประตูให้ฌามิสพร้อมเชื้อเชิญให้ฌามิสเข้าห้อง

 

"อืม"

 

"ยังเคาะประตูห้องสองครั้งเหมือนเดิมเลยนะ" เจนนี่พูดพร้อมกับยิ้มดีใจ

 

"อยากล้ำลึกความหลังรึเปล่าละ" ฌามิสเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของเจนนี่ แต่เขาพูดความต้องการที่เขาอยากทำกับเธอพร้อมกับอุ้มท่าเจ้าแล้วก้มลงไปจูบอย่างดูดดื่มเเละเร้าร้อน

 

"ขอนะ" ฌามิสพูดเสียงแหบพร่า

 

เจนนี่ไม่ตอบอะไรเธอแค่พยักหน้าอยากเดียว

 

หลังจากนั้นฌามิสก็อุ้มเจนนี้ไปที่เตียงพร้อมกับเริ่มบทรักอันแสนอ่อนโยนและเร้าร้อนในเวลาเดียวกัน

 

"อื้อ ยังแน่นเหมือนเดิมเลยนะ" ฌามิสครางในลำคอพร้อมกระซิบบอกข้างหูด้วยเสียงแหบพร่า

 

"มะ อ่ะ มิสก็ยะ อ่ะๆ ยังอ่อนโยนละ อ้ะ อื้อ และเร้าร้อนเหมือนเดิมเลยนะ อ้าาาาา" เจนนี่ตอบด้วยความเสียวและมีความสุข

 

ทั้งคู่บรรเลงบทเพลงรักกันด้วยความสุขจนถึงตอนสายของอีกวัน

 

 

จิ้บๆ จิ้บๆ จิ้บๆ เสียงนกร้อง

เช้าวันใหม่อันสดใสแต่ไม่สดใสสำหรับเลนินเพราะเหตุการณ์เมื่อวานทำให้เธอเป็นห่วงฌามิสมาก กลัวว่าจะมีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับเขา

ติ้ง ติ้ง เสียงข้อความเข้า

จู่ๆก็มีเสียงการแจ้งเตือนข้อความ ทำให้เลนินต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าข้อความที่ส่งมาคืออะไร เมื่อเปิดเข้าไปในข้อความเธอก็เจอคลิปๆหนึ่ง พร้อมกับข้อความว่า

'เขาคือของฉัน เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะแย้งเขาไปจากฉัน อย่าริอาจแย่งผัวชาวบ้านถ้าไม่รู้ว่าเขามีเมียอยู่แล้ว'

ตอนแรกเธอคิดว่าโรคจิตส่งข้อความมาหาเธอเพราะว่าข้อความนี้ถูกส่งมาจากเบอร์ที่เธอไม่คุ้น แต่พออ่านข้อคความใต้คลิปเธอก็แอบงงๆอยู่นิดหน่อยแต่พอเลนินเปิดคลิปดู เธอก็ต้องตกใจเพราะคนในคลิปคือฌามิสกับผู้หญิงอีกคนที่เธอไม่รู้จัก เลนินถึงกับมือไม้แค่งขาอ่อน โทรศัพท์หล่นลงพื้นโดยอัตโนมัติ

'ฉันต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกสักกี่ครั้ง ต้องทรมานอีกกี่หน'

เลนินพูดกับใจตัวเองด้วยความอ่อนล้าและอ่อนแอทางจิตใจ ตอนนี้เลนินได้แต่นั่งเสียใจให้กับเหตุการณ์ที่เกิิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง

ตอนนี้เธอไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว เธอเจ็บ เจ็บเหลือเกิน ทำไมเหตุการณ์เลวร้ายถึงได้เกิดขึ้นกับเธอ

หรือว่าเธอไม่ควรมีความรักตั้งแต่แรก ความรักที่ทำให้เธอเจ็บช้ำและเสียใจเธอไม่ต้องการและเธอไม่อยากได้ความรักอีกต่อไปเธอจะอยู่แบบนี้ใช้ชีวิตแบบเดิมไม่ต้องการมีใครเพิ่มเข้ามาในชีวิตอีกแล้ว

วันนี้ทั้งวันเลนินขังตัวเองไว้ในห้อง เธอไม่ยอมออกไปไหนเลยแต่ยังดีที่เธอยอมทานข้าวที่แม่บ้านเอาขึ้นมาให้

ตกดึก

แกร็ก เสียงไขกุญแจ

"หึ หลับแล้วสินะ" คืนนี้ริกเตอร์มาหาเลนินเพราะริต้าคู่ขาเขาไม่อยู่ เขาเลยต้องมาหาเลนินแทน

วันนี้เลนินเธอรีบนอนตั้งแต่หัวค่ำเพราะเธอไม่อยากคิดมากเรื่องของฌามิส แต่เธอหารู้ไม่ว่าริกเตอร์กำลังกลับมาทำให้เธอบอบช้ำอีีกรอบ

ริกเตอร์#

ตอนนี้ผมปลดเปลื้องเสื้อผ้าทั้งของผมและของเลนินออกหมดเรียบร้อยแล้วครับ ต่อไปผมก็จะกินเธอ หึ ลักหลับคนมาน่าตื่นเต้นแบบนี้นี่เอง ผมค่อยๆสอดใส่ความเป็นชายใส่เลนินอย่างยากลำบากเพราะของเธอแน่เหลือเกินและผมก็ค่อยๆดำเนินบทเพลงรักไปเรื่อยๆ จนตอนนี้ผมจะเสร็จแล้วเธอก็ยังไม่ตื่น

"อื้อ อ้ะๆ อ่ะ" หึ เธอตื่นแล้วครับ

"ว่าไงจ้ะเมียจ๋า ตื่นแล้วหรอ นึกว่าต้องให้เสร็จก่อนถึงจะตื่น" ผมพูดด้วยความสะใจและเย้ยหยันเพราะเธอมันคือที่ละบายความใคร่ของผม

"..." เลนินเธอไม่ตอบผมอีกแล้วครับ แล้วไงใครแคร์ ผมไม่จำเป็นต้องแคร์เธอครับ

ในเมื่อเธอไม่ตอบ ผมก็จัดการมอบบทเพลงรักที่แสนจะรุนแรงนิดนึงให้กับเธอจนถึงเช้าของอีกวัน

ตอนนี้เช้าเกือบจะสายแล้วครับแต่ผมมันอึดเลยไม่สลบเหมือนกับเลนินหรอกครับ เมื่อคืนเธอมีครางบ้างเป็นบางครั้งแต่สีหน้าเธอเศร้าเเปลกๆผมเลยยอมหยุดบทเพลงรักที่ผมมอบให้ในตอนเช้า ผมนอนมองหน้าเลนินอย่างนึกหมั่นเขี้ยวผมเลยจูบหนักๆไปที่ปากเธอหนึ่งที ทำให้คนนอ้อมกอดผมพลิกตัวหนี แต่ถ้าเธอขยับอีกรอบองผมตื่นแน่นอนเเพราะยอมยังไม่ได้ถอดแก่นกายออกจากช่องทางรักของเธอ

แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวของเลนินร้อนๆเหมือนเธอจะไม่สะบาย ผมเลยจำเป็นต้องถอดแก่นกายออกและหาเสื้อผ้าใส่ให้ตัวเองเพื่อที่จะไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้เธอ ผมคิดถึงโมเมนต์นี้จัง คืนก่อนที่เธอจะไปจากผม ผมก็เช็ดตัวให้เธอแต่เธอคงจำไม่ได้เพราะตอนนั้นเธอทั้งเมาทั้งอ้วกสภาพเธอตอนนั้นแทบจะดูไม่ได้เลย คิดๆดูแล้วผมก็อยากกลับมาดูเเลนินเหมือนเดิมนะ เพราะตอนนี้ริต้าเธอเริ่มเผยธาตุแท้ของเธอออกมาแล้ว ริต้าเธอผลาญเงินผมเป็นว่าเล่น แต่ที่สำคัญคือเธอจะยอมนอนกับผู้ชายที่รวยพร้อมกันหลายๆคน ที่ช่องทางรักของริต้าเธอแน่นเพราะเธอเอาเงินที่นอนกับพวกเสี่ยไปทำให้มันเฟิร์ม กระชับ แต่สำหรับเลนินช่องทางรักของเธอแน่นเพราะไม่ได้ผ่านการร่วมรักกับใครผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมอยากกลับมาดูแลเลนินอีกครั้งถึงแม้มันจะไม่มีโอกาสเลยสักนิดเดียว

อยู่ๆโทรศัพท์ของนินก็มีข้อความเด้งขึ้นมา แต่ผมเป็นพวกอยากรู้อยากเห็นเลยเปิดขึ้นมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือข้อความที่ส่งมาเยาะเย้ยนิน ข้อความมันบอกไว้ว่า 'ฌามิสเขาอยู่กับฉันมาสองวันแล้ว แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาเลือกฉันไม่ใช่เธอเลนิน'

ผมงงกับข้อความนิดหน่อยผมเลยเลื่อนขึ้นไปดูข้อความอันเก่าผมก็ต้องตกใจเพราะในคลิปนั้นคือเจนนี่กับไอมิสกำลังร่วมรักกันอย่างร้อนแรงและมีความสุข ผมเห็นคลิปแล้วนึกถึงตัวเองเพราะเหตุการณ์ของไอฌามิสมันเหมือนกับเหตุการณ์ของผม ตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนส่งข้อความมาหานิน และรู้อีกว่าสาเหตุที่ทำให้นินมีสีหน้าที่เศร้าแปลกๆคืออะไร

อืดดดดดดดด อืดดดดดดดด อืดดดดดดดด เสียงโทรศัพท์สั่น

"นินครับเมื่อวานพี่ขอโทษนะที่ทิ้งนินให้กลับบ้านคนเดียว ตอนเที่ยงพี่จะรับไปกินข้าวนะครับ" ไอมิสบอกด้วยความรู้สึกผิด

"..."

"ทำไมไม่ตอบพี่ล่ะคนดี โกรธพี่ใช่ไหม"

"ถ้าเอาไปเเล้วรักษาไว้ไม่ได้ กูขอคืน" ผมตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ริก? มึงรับสายได้ไง แล้วนินอยู่ไหน มึงทำอะไรนิน" ไอมิสขึ้นเสียงใส่ผม

"มึงไปถามเมียมึงก่อนไหมว่าเมียมึงทำอะไร นินคนเดียวกูเลี้ยงได้ถึงกูจะเคยทำนินเสียใจแต่ตอนนี้กูกลับใจแล้ว กูจะทำให้นินมีความสุข ส่วนมึง ไปมีความสุขกับเมียมึงเถอะ" ผมพูดแค่นั้นก่อนจะวางสาย

ริกเตอร์end#

"นมครับผมขอยืมครัวหน่อยได้ไหมครับ พอดีนินเขาป่วย" ริกเตอร์ขออนุญาตใช้ครัวด้วยท่าทางอ้อนๆแม่นม

"ได้สิค่ะ แล้วคุณหนูเป็นอะไรมากรึเปล่าคะ" นมตอบกลับด้วยรอยยิ้มอบอุ่นและถามถึงคุณหนูด้วยความเป็นห่วง

"ไข้ขึ้นนิดหน่อยครับ" ริกเตอร์ตอบ

หลังจากนั้นริกเตอร์ก็ลงมือทำโจ้กกุ้งให้เลนินอย่างขมักเขม้น

"นมครับ เอาโจ้กกุ้งขึ้นไปให้นินทานพร้อมกับยาลดไข้ แล้วก็คอยเช็ดตัวให้เธอบ่อยๆนะครับ" ริกเตอร์กำชับแม่นมอย่างจริงจัง และรีบออกไปอย่างรวดเร็วเพราะตอนนี้เขาต้องรีบไปรับลูกค้ารายใหญ่ที่สนามบิน

'ยิ่งไปรับเร็วเท่าไรยิ่งกลับมาดูแลเลนินได้เร็วเท่านั้น' ความคิดของริกเตอร์

 

 

 

หลังจากที่ริกเตอร์ไปรับลูกค้าจากสนามบินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบตรงไปหาเลนินทันที เขากลัวว่าเลนินจะไข้ขึ้นกว่าเดิม กลัวว่าเธอจะขาดเหลืออะไรรึเปล่า  เพราะถึงเขาจะฝากแม่นมของเลนินไว้แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้เพราะแม่นมก็อายุเยอะแล้วจะให้ท่านมดูแลตลอดก็เกรงใจ ท่านไม่ได้เเข็งเเรงเหมือนวัยรุ่นแล้ว

 

@บ้านเลนิน

 

"นมครับนินเป็นไงบ้างครับ" ในขณะที่ริกเตอร์กำลังเดินเข้าไปในบ้านเพื่อไปหาเลนิน แต่บังเอิญเจอกับแม่นมส่ะก่อน

 

"ตอนนี้ไข้น่าจะลดลงแล้วค่ะ" นมบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น

 

"อ๋อครับ งั้นนมไปพักเถอะครับนี่ก็จะเช้าแล้วด้วย ส่วนเลนินเดี๋ยวผมดูเเลต่อเองครับ" หลังจากที่แม่นมกับริกเตอร์คุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ริกเตอร์ก็รีบขึ้นไปดูเลนินทันที

 

เมื่อริกเตอร์มาถึงห้องของเลนินเขาก็เห็นเธอนอนขดอยู่ใต้ผ้าห่ม เขาเลยใช้ตัวของตัวเองแทรกเข้าไปในผ้าห่มแล้วดึงเธอมากอดไว้ในอ้อมอก อยู่ๆ ริกเตอร์ก็คิดในใจว่า ถ้าวันนั้นอารมณ์ไม่พาไป รู้จักระงับอารมณ์และไม่หน้ามืดอยู่กับผู้หญิงหิวเงินอย่างริต้า เขาก็คงไม่ต้องเสียเธอไปและได้อยู่กับเลนินอย่างมีความสุขแบบไม่มีอะไรมาทำลายความรักของเราได้ หลังจากที่คิดอยู่สักพักเขาก็เผลอมองหน้าคนตัวเองที่อยู่ในอ้อมกอดอย่างละสายตาไม่ได้

 

อืดดดดดดดด อืดดดดดดดดด อืดดดดดดดดดด เสียงโทรศัพท์ของริกเตอร์สั่น

 

"ริกค่ะ ทำงานอยู่หรอค่ะ" ริต้าพูดด้วยน้ำเสียงที่แหลมแสบแก้วหู

 

"อืม ผมทำงานอยู่ แค่นี้ก่อนนะผมกำลังดูเอกสารที่ต้องเข้าประชุมในตอนเช้า ตู้ดดดดด" ริกเตอร์ออกมารับสายริต้านอกห้องเพราะกลัวว่าจะทำคนป่วยตื่น เมื่อพูดเสร็จเขาก็ตัดสายไปทันที และกลับมานอนกอดคนตัวเล็กไว้เหมือนเดิม จากนั้นเปลือกตาก็ค่อยๆหนักลงเรื่อยๆ จนหลับไปในที่สุด

 

ตอนสายของวันต่อมา

 

เลนินค่อยๆกระพริบตาเพื่อพยายามที่จะลืมตาที่หนักอึ้งเพราะฤทธิ์ไข้ ความรู้สึกแรกที่เธอตื่นขึ้นมาคือปวดหัวและรู้สึกหนักตรงช่วงเอว เมื่อตาของเธอปรับจนชัดแล้วเธอค่อยๆมองไปที่เอวของตัวก็เจอกับแขนแกร่งของใครบางคน เธอเลยหันหน้าไปหาคนที่นอนกอดเธออยู่ ปรากฎณ์ว่าเขาคือริกเตอร์ เมื่อเลนินเห็นหน้าริกเตอร์จู่ๆน้ำตาของเธอก็ค่อยๆไหลออกมาเรื่อยๆ เธอเกลียด เกลียดผูเชายคนนี้ คนที่ย่ำยีและทำลายศักดิ์ศรีของเธอ แม้แต่ชื่อของริกเตอร์เธอยังไม่อยากได้ยิิน แต่นี้เขากลับมานอนกอดเธอแบบหน้าตาเฉย โดยที่เธอยังไม่ได้อนุญาต

 

ริกเตอร์#

 

"ฮึก ฮืออออ อึกๆ"

 

"นินเป็นอะไรครับ" ในขณะที่ผมกำลังนอนอยู่ ผมก็ได้ยินเสียงสะอื้นจากคนที่ผมกำลังกอดเธออยู่ ผมอดห่วงไม่ได้จึงถามว่าเธอเป็นอะไรทำไมถึงร้องไห้

 

"ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้" นินบอกให้ผมออกไปจากห้องเธอ แต่ผมไม่ออกเพราะเธอไม่สบาย ผมยังอยากดูแลเธออยู่

 

"ออก ไป เดี๋ยว นี้" นินเน้นเสียงไล่ผมทีล่ะคำแต่ผมไม่ออก

 

"นินพี่ขอโอกาสได้ไหมครับคนดี" ผมขอร้องเธอด้วยใบหน้าสำนึกผิด

 

"หึ โอกาสหรอ มันไม่มีตั้งแต่ที่นายเอากับผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นในคอนโด ทั้งๆที่ฉันก็ยังอยู่ในห้องของนาย ฉันรอนายตั้งแต่เช้าจนเย็น แต่นายก็ไม่ออกมา จนฉันต้องกลับบ้านเอง นายรู้ไหมว่าฉันเสียใจแค่ไหน ฉันยังไม่นับเรื่องที่นายพูดทำร้ายจิตใจและเรื่องที่นายขืนใจฉัน ฉันบอกเลยว่าฉันรังเกียจนาย แม้แต่ชื่อของนายฉันก็ไม่อยากได้ยิน แต่นายกลับมาขอโอกาสดื้อๆแบบนี้ มันไม่ง่ายไปหน่อยหรอ ริกเตอร์" หลังจากที่นินพูดจบผมทั้งอึ้งทั้งจุก ผมอยากขอโทษนินแต่นินคงไม่อยากได้ยินมัน

 

"ผมรู้ว่าผมมันเลว นินไม่ให้โอกาสผมก็ไม่เป็นไร ผมจะสร้างโอกาสนั้นขึ้นมาเอง" ผมบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แล้วเดินออกมาจากห้องของนิน

 

"ไอริกมึงทำอะไรนิน" พอผมลงมาจากชั้นบน ผมก็เจอกับไอมิส

 

"แล้วมึงล่ะ มึงทำอะไรไว้ก็ควรรู้ตัวนะ" ผมพูดเสร็จแล้วกำลังเดินไปหาแม่นม อยู่ๆมันก็มากระชากคอเสื้อผม ผมก็เลนกระชากคอเสื้อมันคืน

 

"หยุดนะ นี่มันบ้านของฉ้นไม่ใช่สนามมวย" เสียงนินตะโกนให้ผมกับไอ้มิสหยุดทะเลาะกัน

 

"นิน!" หลังจากที่นินตะโกนเสร็จเธอก็เป็นลม ผมรีบวิ่งไปประคองนินไว้ กลัวว่าหัวนินจะไปกระทบกับพื้น

 

"ไอริกนินเป็นอะไร" ไอมิสถามด้วยความเป็นห่วง

 

"ถ้ามึงเป็นห่วงนินจริง มึงควรกลับไปและไปถามเจนนี่ว่่าเกิดอะไรขึ้น" ผมบอกมันด้วยความหวังดี

 

"อืม ครั้งนี้กูยอมมึงเพราะกูเป็นห่วงนิน" ไอมิสบอกและยอมกลับไปแต่โดยดี

 

"นมครับ โทรเรียกหมอประจำตระกูลด่วนเลยครับ" ผมบอกนมแล้วอุ้มนินขึ้นไปนอนบนห้องของเธอ

 

ผ่านไปสักพักหมอก็มาครับ

 

"เชิญตรวจเลยครับหมอ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ แล้วผมก็นั่งรอเวลาที่หมอกำลังตรวจนินอย่างเป็นห่วง

 

"คุณเป็นแฟนคนไข้ใช่ไหมครับ" หมอพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

 

"ใช่ครับ เธอเป็นอะไรมากรึเปล่าครับหมอ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

 

"ดีใจด้วยนะครับ แฟนคุณตั้งท้องได้สองสัปดาห์แล้วครับ หลังจากนี้ก็อย่าให้เธอทำอะไรที่หักโหมแล้วก็อย่าให้เธอถือของอะไรที่หนักเกินไป เดี๋ยวหมอจะจักยาบำรุงไว้ให้นะครับ" หลังจากที่หมอบอกว่านินท้องโลกของผมหยุดหมุนทันทีครับ ผมบอกเลยว่าผมดีใจมาก ผมจะดูแลนินให้ดีกว่าเก่า ผมสัญญากับตัวเอง

 

"ขอบคุณมากนะครับหมอ" ผมเดินลงมาส่งหมอที่รถแล้วขอบคุณอย่างสุภาพ 

 

หลังจากที่ส่งหมอขึ้นรถเสร็จผมก็รีบมาหาเลนินทันที

 

"นมครับ เรื่องนีี้รู้กันแค่สองคนนะครับ ผมกลัวว่าถ้านินรู้เธอจะไม่ให้ผมเข้าใกล้มากกว่าเดิม" ผมพานมออกมาคุยตรงระเบียงห้องเลนินเพราะกลัวคนป่วยจะได้ยิน

 

"ได้ค่ะ นมไม่มีปัญหานมจะช่วยดูแลคุณหนูอีกแรงค่ะ" แม่นมเองก็ยิ้มไม่หุบเหมือนกัน เธอดีใจที่คุณหนูท้อง บ้านหลังนี้จะได้มีสีีสรรค์มากขึ้น

 

"ครับ นมไปพักเถอะครับ เดี๋ยวทางนี้ผมดูแลเอง"

 

พอผมคุยกับนมเสร็จผมก็มาดูแลนินต่อ ผมจะไม่ท้อกับโอกาสที่น้อยนิด 'น้ำหยดลงหินทุกวันมันยังกล่อน' เหมือนกับใจคนถ้าเราใช้การกระทำที่จริงใจกับเธอ ยังไงเธอก็ต้องใจอ่อนเข้าสักวัน

 

 

ริกเตอร์#

ตอนนี้เป็นเวลาตีสามครับ ผมหลับไปแล้วครั้งหนึ่งแต่ก็ต้องตื่นมาเพราะเป็นห่วงคนตัวเล็กที่ผมนอนกอดอยู่ ผมเอามือตัวเองไปอิงที่หน้าผากตัวเล็ก ดูเหมือนว่าไข้เธอจะไม่ลดลงเลย

"หนูอยากอ้วก" อยู่ๆตัวเล็กก็ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วบอกว่าอยากอ้วก ผมตกใจสิครับ รีบพยุงเธอไปที่ห้องน้ำอย่างเร็ว

"ตัวเล็กโอเคยังครับ" ผมถามพร้อมกับเอามือไปลูบหลังให้เธอ

"หึ หนูปวดหัว อยากนอน อยากอ้วกแต่ก็หิวด้วย" ผมล่ะอดยิ้มกับคำตอบของเธอไม่ได้ คนอะไรน่าฟัด เอ้ยน่ารักจริงๆ

"งั้นหนูไปนอนก่อน เดี๋ยวพี่จะไปทำข้าวต้มมาให้หนูจะได้กินยาหลังอาหารด้วย" ผมบอกพร้อมพยุงร่างเล็กไปนอนที่เตียง

พอตัวเล็กเริ่มหลับอีกรอบผมก็รีบลงมาทำข้าวต้มปลาให้เธอทันที ไม่แปลกใจเลยครับที่เธอจะหิวตอนนี้เพราะเธอไม่ได้อยู่คนเดียวแล้ว เธอมีลูกน้อยอยู่ในท้องด้วย ซึ่งผมเป็นพ่อ ผมต้องบำรุงคนอุ้มท้องให้ดีที่สุด เพราะแม่ของลูกผมมีแค่เลนินคนเดียวเท่านั้นครับ คนที่ผ่านๆผมไม่นับ เพราะผมแค่หลงแต่ผมไม่ได้รัก

ตอนนี้ผมยกข้าวต้มปลาพร้อมกับยามาให้นินเรียบร้อยแล้วครับ แต่ตัวเล็กหายไปไหนทำไมไม่อยู่บนเตียง ผมรีบวิ่งไปดูในห้องน้ำทันทีกลัวว่าเธอจะเป็นลมในห้องน้ำ พอผมเข้าไปในห้องน้ำก็เห็นตัวเล็กเป็นลมนอนอยู่กับพื้นห้องน้ำ ผมอุ้มเธอออกมาจากห้องน้ำด้วยความเร็วพร้อมกับหาผ้าชุบน้ำเย็นๆมาเช็ดหน้าให้เธอและปล่อยเธอให้พักผ่อน สักพักผมถึงจะปลุกเธอมากินข้าวและยา

-ครึ่งชั่วโมงผ่านไป-

"ตัวเล็กตื่นขึ้นมากินข้าวก่อนนะครับ จะได้กินยา" ผมปลุกตัวเล็กให้ตื่นมากินข้าวกินยาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

ผมไม่เคยใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนแบบนี้กับใครนอกจากคนในครอบครัวเท่านั้น ถ้าผมพูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้แสดงว่าเธอคนนั้นสำคัญกับผมจริงๆ

"อืม" ตัวเล็กตอบผมด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีนัก ผมค่่อยๆจัดหมอนเอาไว้ให้เธอนั่งพิงกับตัวเตียงเธอจะได้นั่งถนัด

"มาครับผมป้อนนะ กำลังร้อนๆเลย" ผมบอกเธอก่อนที่จะเป่าข้าวต้มปลาในช้อนให้เย็นลง ทุกคนคงสงสัย่าผ่านไปตั้งครึ่งชั่วโมงแต่ข้าวต้มยังร้อนอยู่ ง่ายๆครับ ผมเอาข้าวต้มไปอุ่นระหว่างรอเวลาทีจะไปลุกตัวเล็ก ตอนผมบอกจะป้อนตัวเล็กมองค้อนใส่ผมเหมือนจะไม่พอใจ แต่เธอก็ยอมให้ผมป้อนจนหมดแต่โดยดี

@ตอนเช้า

วันนี้ผมย้ายข้าวของพวกเสื้อผ้ากับเอกสารที่ผมจะต้องเซ็นต์มาไว้ในห้องตัวเล็กทั้งหมด เพราะต่อจากนี้ไปผมจะดูแลเธอไม่ให้คลาดสายตาและจะไม่ให้ขาดตกบกพร่องในหน้าที่สามีแม้แต่น้อย

"ทำไมไม่กลับบ้าน" ไม่ต้องสงสัยครับว่าเสียงใคร เสียงของตัวเล็กเองครับ เธอถามผมด้วยสีหน้าเรียบเฉยและแฝงไปด้วยเยือกเย็น

"ย้ายมาอยู่กับตัวเล็กไง" ผมตอบกวนๆอย่างซื่อๆ

"อย่ามากวน แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่ได้ชื่อตัวเล็ก อุ อุก" ตัวเล็กตอบด้วยสีหน้าไม่พอใจ อยู่ๆเธอก็วิ่งไปอ้วก ผมรีบวิ่งตามไปลูบหลังเธอทันที แพ้ท้องตั้งแต่สองสัปดาห์แรกแบบนี้ต้องได้ลูกแฝดแน่นอน (ผมมโน555) ตามจริงผมไม่รู้หรอกว่าได้ลูกเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายหรือว่าได้ลูกแฝด ผมแค่เดาเพราะผมอยากได้ลูกแฝด

"ตัวเล็กโอเคไหม" ผมถามด้วยความเป็นห่วง

"ไม่โอเค! ฉันเป็นอะไรทำไมถึงอ้วกบ่อยขนาดนี้" ตัวเล็กตอบด้วยน้ำเสียงใส่อารมณ์ แล้วผมจะบอกเธอยังไงดีว่าตอนนี้เธอท้อง

"คุณแค่อาหารเป็นพิษอีกสักวันสองวันเดี๋ยวคุณก็หาย ทีนี้คุณเข้าใจรึยังว่าทำไมผมต้องย้ายของเข้ามาห้องคุณ เพราะผมเป็นห่วงคุณ และตอนนี้ยิ่งไม่สบายผมยิ่งห่วง" คำพูดในภายหลังผมแกล้งพูดขึ้นเสียงใส่เธอ

"ขอโทษ ฮึกๆ ฮืออออ" แม่งเอ้ยแกล้งผิดเวลา ลืมไปว่าเมียท้องอารมณ์เมียไม่คงที่ เป็นไงล่ะทีนี้งานช้างเลย

"โอ๋ๆ ตัวเล็กพี่พูดเล่นนะ ไม่ร้องนะคนดี" O M G! ผมให้โอเอ็มจีกับตัวเองตัวใหญ่ๆเลยครับทั้งชีวิตไม่เคยดึงใครเข้ามากอดและโอ๋ไปด้วย ตัวเล็กเป็นคนแรกเลยครับ

"ฮึกใจร้าย อย่ามายุ่ง" ตัวเล็กดันอกผมออกเพื่อที่เธอจะได้หลุดพ้นจากการกอดของเธอ

"ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!" เธอขึ้นเสียงใส่ผม แต่ผมไม่ได้กลัวนะ ผมเกรงว่าเธอจะขึ้นเสียงแล้วเป็นลมผมเลยเดินออกไปจากห้องเธอและเดินไปนั่งที่โซฟาชั้นล่างของบ้าน

เมื่อผมมาถึงโซฟาผมก็นั่งคิดหาวิธีอยู่ในบ้านหลังนี้กับเลนินได้นานที่สุดเพราะผมอยากดูและเธอ ผมนั่งคิดจนไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาทีแล้วอยู่ๆ ผมก็ได้ยินเสียงแหลมๆของใครบางคนดังมาจากทางเข้าบ้าน

"แหม่ มากกอยู่นี้เองหรอค่ะ ไม่คิดถึงริต้าหน่อยหรอ ไอเราก็นึกว่ามาทำงานที่ไหนมากกเมียน้อยนี่เอง อื้ออออ" ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไรริต้า เธอก็จัดการประกบปากสอดลิ้นเข้ามาหยอกล้อกับปากผมอย่างสนุก

ริกเตอร์end#

"ที่นี่ไม่ใช่โรงเเรมถ้าจะทำอะไรก็เชิญออกไปข้างนอก" ตอนแรกเลนินจะลงมาขอโทษและยอมคุยดีๆกับริกเตอร์ แต่เธอก็ดันมาเห็นในสิ่งที่ไม่ควรจะเห็นอีกแล้ว

"ตัวเล็ก! ลงมาทำไมครับไม่สบายอยู่ไม่ใช่หรอ" ริกเตอร์ตกใจมากที่ได้ยินเสียงเลนิน เขารีบผลักริต้าออกจากตัวและรีบไปพยุงเลนินแต่เธอกับไม่ยอมให้แต่

"ออกไป อย่ามาแตะตัว ฉันรังเกียจ" เลนินบอกด้วยน้ำเสียงสั่นๆเพราะตอนนี้เริ่มมีน้ำใสๆไหลออกมาจากตาแล้ว

"ตัวเล็กมันไม่ใช่อย่างที่ตัวเล็กคิดนะ พี่อธิบายได้" ริกเตอร์ต้องการอธิบายให้เลนินฟังว่าเขาไม่ได้สมยอม แต่ริต้าต่างหากที่เข้ามาแบบไม่รู้ตัว

"หึ ตัวเล็กหรอ พี่หรอ เวลาพูดไม่เสนียดปากบ้างหรอ มีคนรักอยู่แล้วจะมายุ่งทำไม ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้" เลนินเค้นขำในลำคอพร้อมกับพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาพร้อมกับไล่ริกเตอร์และริต้าออกไปจากบ้าน หลังจากที่เลนินพูดเสร็จเธอก็รู้สึกหน้ามึดเหมือนจะล้มแต่ยังดีที่มีราวบรรไดให้เธอเกาะ

"ตัวเล็กเป็นอะไรครับ" ริกเตอร์ถามอย่างเป็นห่วงเพราะตอนนี้ร่างกายเลนินอ่อนแอมาก

"อย่ามาแตะเอามือสกแรกออกไป ฉันขยะแขยงเต็มทน" เลนินบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉยพร้อมกับจับราวบรรไดขึ้นไปที่ห้องนอนของเธอเอง

ตอนนี้เธอไม่มีน้ำตาให้เห็นแม้แต่หยดเดียว แต่พอเธอเข้ามาในห้องและปิดประตูเธอปล่อยน้ำตาที่ฝืนกลั้นไว้ ไหลลงมาอย่างพรั่งพรู เธอเกือบแล้ว เกือบจะให้โอกาสเขาอีกแล้ว ทำไมใจเธอถึงอ่อนแอได้ขนาดนี้ เธอควรจะเข้มแข็งไม่ควรอ่อนแอแต่เธฮไม่เคยทำได้เลย เลนินร้องไห้ไปสักพักเธอก็หยุดร้องไห้และลุกไปที่เตียงนอนของตัวเองเพื่อพักผ่อน แต่ยังไม่ทันได้ถึงเตียงนอน สติเธอก็ดับวูบเปลือกตาค่อยๆปิด ภาพที่เห็นค่อยๆพร่ามัวทีล่ะนิดทีล่ะนิดจนมืดมิดในที่สุด

 

 

เมื่อเลนินขึ้นไปข้างบนห้องเรียบร้อยแล้ว ริกเตอร์เลือกที่จะไม่ตามเธอขึ้นไปเพราะเขาต้องการเคลียกับริต้าให้เรียบร้อย

"มาทำไม!" ริกเตอร์ถามริต้าเสียงต่ำ

"ริต้าก็มาหาคุณไงค่ะ" ริต้าบอกพร้อมกับเดินเอาแขนมาคล้องคอริกเตอร์ไว้

"ร่าน" ริกเตอร์บอกและผลักร่างของริต้าออกจากตัวเขา จนก้นของริต้ากระแทกกับพื้นอย่างแรง

"กรี้ดดดดดดดดด ริกเตอร์คุณผลักฉันทำไมค่ะ" การที่ริกเตอร์ด่าว่าเธอร่าน เธอไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย แต่เธอแค้นที่เขากล้าใช้ความรุนแรงกับเธอ

"เวลาเดินก็ระวังๆหน่อยนะ เดี๋ยวนอ(นอของแรด)เธอจะไปทิ่มคนอื่นเขา จอน 'จัดการ' ยัยนี้แล้วฆ่าทิ้งส่ะ" ริกเตอร์บอกด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัยให้กับริต้าก่อนจะสั่งให้จอนจัดการเธอ

"ได้ครับนายผมจะ 'จัดการ' ให้ถึงใจเลยครับ" จอนบอกรับทราบพร้อมกับยิ้มมุมปาก คำว่าจัดการของพวกเขาคือการจจัดการด้วยเซ็กส์ที่ซาดิสและโหดเหี้ยม

"กรี้ดดดดๆ กรี้ดดดดดด นายจะพาฉันไปไหนฉันไม่ไปไม่นะไม่ ริกช่วยฉันด้วยสิ ไม่เอาแบบนี้ฮึก" ริต้าร้อวขอกับริกเตอร์อย่างน่าสมเพช

ริกเตอร์ได้แต่หายใจโล่งๆ เพราะเขาได้กำจัดตัวปัญหาในชีวิตออกไปแล้ว ทีนี้เขาก็เหลือแค่เลนิน เขาต้องทำให้เธอกลับมาเหมือนตอนที่เขากับเธอกำลังไปได้ด้วยดี เขารีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องเธอทันที พอเขาเปิดเข้าไปในห้องเขาก็ต้องตกใจเพราะตอนนี้เลนินนอนสลบอยู่ที่พื้น

"ตัวเล็กๆ ตัวเล็กได้ยินพี่ไหม" ริกเตอร์พยายามเรียกเลนินให้ได้สติแต่ไม่มีเสียงตอบรับจากเลนิน เขาไมรอช้ารีบอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวลงไปข้างล่างเพื่อจะไปโรงพยาบาลในทันที

"แม่นมครับผมฝากบ้านด้วยนะครับ ผมจะรีบพานินไปโรงพยาบาล" ริกเตอร์บอกด้วยอาการร้อนรน เขาเป็นห่วงคนในอ้อมกอดจนแทบจะอยู่ไม่สุข

@โรงพยาบาลE

"ทำไมคุณถึงปล่อยให้คนไข้เครียดจนเป็นลมบ่อยๆแบบนี้ มันอาจทำให้เกิดสภาวะแทรกซ้อนได้นะครับ คุณควรดูแลภรรยาให้ดีกว่านี้และถ้าคุณพาเธอมาส่งช้ากว่านี้เด็กในครรภ์อาจจะเสียชีวิตในท้องของคนไข้ได้นะครับ ผมขอตัวก่อนนะครับถ้ามีอะไรกดเรียกได้ตลอดเวลานะครับ" แพทย์ประจำตระกูลบอกข้อมูล

"ครับ ขอบคุณครับผมจะดูแลเธอให้ดีกว่านี้นะครับ" ริกเตอร์บอกพร้อมกับเดินไปส่งหมอที่หน้าประตู

"ตัวเล็กพี่ขอโทษนะครับ รีบตื่นมาหาพี่เร็วๆนะคนดี ลูกของเราจะได้เเข็งแรงไวๆ พี่รักตัวเล็กนะ ขอโทษที่เลวมาตลอดขอโทษทุกอย่างที่พี่เคยทำตัวเล็กเสียใจพี่รู้ว่าพี่เคยขอโทษตัวเล็กไปหลายรอบแล้ว แต่พี่ก็ยังอยากขอโทษหนูเรื่อยๆนะ ความผิดทีพี่ทำพี่รู้ว่ามันสาหัส แต่พี่จะพยายามเพื่อให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะครับ" ริกเตอร์ขอโทษเลนินถึงแม้เธอจะยังหลับอยู่ก็ตาม

เขาลุกขึ้นไปจูบหน้าผากของเลนินและก้มต่ำลงมาจูบที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างหวงแหนและรักใคร่

แกร็ก เสียงดปิดประตูห้อง

"คุณฌามิสนินเป็นยังไงบ้างค่ะ และมันเกิดอะไรขึ้นค่ะ" น้ำทิพถามริกเตอร์อย่างเป็นห่วงเลนิน

"นั้นสิครับทำไมนินถึงเข้าโรงพยาบาลปกติเธอแข็งแรงจะตายไป" บดินทร์ก็แอบสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเพื่อนของเขาถึงเข้าโรงพยาบาลได้

"คือว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะผมแล้วผมก็....." ริกเตอร์เล่าเรื่องทั้งหมดให้บดินทร์และน้ำทิพย์ฟังทุกเรื่องโดยไม่ปิดบัง

"คุณก็เลวใช่ได้เลยนะทำนินไว้ขนานนั้นแล้วยังมีหน้ามาขอโอกาสอีก แต่พวกเราเห็นใจคุณนะอย่างน้อยคุณก็รู้ว่าอะไรคือกรวดอะไรคือเพชรเม็ดงาม เดี๋ยวพวกเราจะช่วยคุณเองค่ะ" หลังจากที่น้ำทิพย์และบดินทร์ฟังเรื่องทีริกเตอร์เล่าทั้งหมดจบพวกเขาก็คุยปรึกษากันว่าจะเอาไงต่อกับริกเตอร์ และคำตอบชองพวกเขาก็คือช่วยให้เลนินใจอ่อนกับริกเตอร์ให้ได้

"ผมขอบคุณพวกคุณมากเลยนะครับ" ริกเตอร์ตอบอย่างดีใจเพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้หัวเดียวกระเทียบรีบอีกต่อไป

"เดี๋ยวเรื่องที่นินท้องเราจะช่วยดูแลเธออีกแรงนะคะ"

"ผมก็จะช่วยด้วยอีกแรงนะครับแต่อาจจะไม่ได้มาบ่อยๆนะครับ เพราะตอนนี้เมียผมก็ท้อง ถ้าผมมีวิธีเอาใจคนท้องแล้วผมจะมาบอกนะครับ พวกผมขอตัวกลับก่อนนะครับ" ทั้งบดินทร์และน้ำทิพย์ขอตัวกลับก่อนเพราะว่าตอนนี้ทั้งสองคนยุ่งมากเป็นพิเศษ

บดินทร์จะยุ่งเรื่องถ่ายแบบ เล่นละคร และดูแลภรรยาที่แสนน่ารัก ส่วนน้ำทิพย์เธอก็ยุ่งๆเกี่ยวกับงานรองประธานท่พี่ชายเธอได้มอบตำหน่งนี้ให้เธอเมื่อไม่นานมานี่เอง

ทุกคนอาจจะสงสัยว่าทำไมทั้งบดินทร์และน้ำทิพย์ถึงรู้ว่าเลนินเข้าโรงพยาบาล ริกเตอร์เป็นคนโทรไปหาทั้งสองคนเองโดยใช้โทรศัพท์ของเลนินเพราะริกเตอร์ต้องการบอกเรื่องงทุกอย่างกับเพื่อนสนิททั้งสองคนของเลนิน

"อือออออ หิวน้ำ"

"น้ำครับตัวเล็ก" เมื่อริกเตอร์ได้ยินเสียงเลนินบอกว่าหิวน้ำเขาก็ดีใจรีบวิ่งไปเทน้ำใส่แก้วแล้วเอามาให้เลนินทันที

"..." เลนินดื่มน้ำเสร็จแล้วเธอก็นอนตะแคงไม่ยอมมองหน้าริกเตอร์และไม่ยอมพูกับริกเตอรือีกเลย

ริกเตอร์ได้แแต่ถอนหายใจเหนื่อยๆ เพราะเขายังนึกวิธีที่จะทำให้เธอกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เลย เมื่อเขาเห็นว่าเธอไม่สนใจเขาก็กดปุ่มเรียกหมอเพราะตอนนี้เลนินฟื้นแล้วจึงอยากให้หมอมาดูว่าอาการของเธอเป็นยังไงบ้าง

"ตอนนี้อาการดีขึ้นมากแล้วนะครับ แต่คนไข้ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ห้ามยกของหนัก และห้ามออกกำลังกายหรือวิ่งเด็ดขาดนะครับ เดี๋ยวหมอจะสั่งยาบำรุงไว้ให้ หมอขอตัวก่อนนะครับ"

"ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ" เลนินบอกขอบคุณ คุณหมออย่างนอบน้อม

"คุณหมอครับ เด็กในท้องยังแข็งเเรงดีอยู่ใช่ไหมครับ" ริกเตอร์ถามอย่างเป็นกังวล

"ไม่ต้องห่วงนะครับถ้าคนไข้ฟื้นตัวเร็วเท่าไหร่เด็กในท้องก็จะแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ หมอขอตัวก่อนนะครับ" หมอประจำตระกูลบอกพร้อมกับยิ้มให้อย่างเป็นมิตร และขอตัวไปทำงานต่อ

ตอนที่ริกเตอร์พาเลนินมาส่งที่โรงพยาบาลเขากำชับกับแพทย์ประจำตระกูลไว้ว่าห้ามให้เลนินรู้ว่าตัวเองท้อง และให้หมอกำชับเรื่องการออกกำลังกายและการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด

"ตัวเล็กครับ อยากกิน หรืออยากให้พี่ทำอะไรให้ไหมครับ"

"....อยากให้ทำอะไรอย่างหนึ่งจะทำได้ไหม" เลนินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่งแฝงได้ด้วยความเกลียด

"ได้ ได้สิครับ ตัวเล็กจะให้พี่ทำอะไรบอกมาได้หมดเลยนะครับ" ริกเตอร์ตอบอย่างดีใจแต่หารู้ไม่ว่าเธอต้องการให้เขาไปให้พ้นเธอ

"หึดี งั้นไปตายให้ดูหน่อยสิ" เลนินบอกอย่างผู้ชนะ เพราะเธอไม่อยากอยู่ร่วมโลกกับคนแบบริกเตอร์

"ตัวเล็ก!" ริกเตอร์อึ้งกับสิ่งที่ตัวเองได้ยินเพราะเขาไม่คิดว่าเลนินไม่น่าจะพูดคำนี้ออกจากปากเธอ

"เขาไล่แล้วยังจะมีหน้าอยู่อีกหรอ?" ??????

 

 

"หึดี งั้นไปตายให้ดูหน่อยสิ"

 

"ตัวเล็ก!"

 

"เขาไล่แล้วยังจะมีหน้าอยู่อีกหรอ?"

 

"พี่โฮปมาได้ไงค่ะ ไหนบอกว่าจะไปอยู่ที่ฝรั่งเศสยาวเลยนิคะ" เมื่อเลนินได้ยินเสียงของโฮป

 

ชายหนุ่มที่เธอสนิทเป็นเป็นคนที่สอง เพราะตอนเรียนมหาลัยโฮปช่วยเลนินไว้ในหลายๆเรื่องทำให้พวกเขาสองคนสนิทกันเป็นพิเศษ

 

"พอดีวันนี้พี่มาทำธุระที่ประเทศไทย พี่เลยโทรเข้าเบอร์บ้านนิน แล้วแม่นมของนินก็เป็นคนรับสาย พอพี่ถามว่านินอยู่ไหมแม่นมก็บอกพี่ว่านินอยู่โรงบาล พอบอกว่าอยู่โรงบาลที่ก็รีบมาหานินเลย เป็นห่วงยัยแสบของพี่" โฮปอธิบายยาวเหยียดพร้อมกับเอามือมายีผมของเลนินอย่างนึกเอ็นดู

 

"แล้วพี่โฮปรู้ได้ไงคะว่านินอยู่โรงบาลนี้" เลนินถามอย่างสงสัย

 

"ยัยแสบนี่เราสนิทกันจริงป่ะเนี่ย โรงบาลประจำตระแสบมีแค่ที่นี่ที่เดียวนะ" โฮปบอกอย่างเอือมๆกับนิสัยชอบลืมของเลนิน

 

"แฮร่ๆ นินลืมเองขอโทษคร้าาาา" เลนินทำท่าเอามือมาเกาผมแก้เขิน

 

"คุยกันเสร็จยังครับ ผัวกับเมียเขาจะได้เคลียร์กัน ส่วนคนนอกไม่ควรเข้ามาเสือกนะครับ" ริกเตอร์พูดอย่างเหลืออด

 

"พี่โฮปคะ ไม่ต้องไปค่ะ อยู่กับนินที่นี่" เลนินบอกออกเสียง้ชิงคำสั่ง

 

"ถึงนินจะไม่บอกให้พี่อยู่พี่ก็จะอยู่ครับ" โฮปบอกกับเลนินด้วยน้ำเสียงที่นิ่มนวลแล้วส่งสายตาแบบผู้ชนะมองไปทางริกเตอร์

 

"ตัวเล็กครับ จะเอาคนอื่นมายุ่งกับเรื่องของเราทำไมครับ" ริกเตอร์บอกเลนินพร้อมกับทำหน้าเศร้า

 

"นายก็กลับไปสิ ฉันจะได้อยู่กับพี่โฮปสองคน" เลนินพูดอย่างไม่สนใจใยดีริกเตอร์

 

"ไม่ครับพี่จะอยู่" ริกเตอร์บอกอย่างหนักน่น

 

อืดดดดดดดดด อืดดดดดดดดด อืดดดดดดดด

 

เสียงโทรศัพท์ริกเตอร์สั่น

 

"มีอะไร" ริกเตอร์ตอบลูกน้องเสียงเรียบแต่แฝงไว้ด้วยความสุขุมและน่าเกรงขาม

 

"นายครับแย่และวครับ มีหมารอบกัดครับนาย" จอนลูกน้องคนบอกอย่างเร่งรีบ เพราะนี้สถานะการณ์ที่โกดังขนส่งอาวุธล็อตใหญ่กำลังโดนไอพวกโจสลอร์ตบุก

 

"เตรียมลูกน้องให้พร้อม งานนี้ไม่กูก็มันต้องตายกันไปข้าง" เมื่อริกเตอร์สั่งลูกน้องเสร็จ เขาก็รีบตัดสายทิ้งแล้วเดินไปหาเลนิน

 

"พี่ไปก่อนนะตัวเล็กเดี๋ยวพี่จะรีบกลับมานะ จุ้บ" ริกเตอร์บอกพร้อมกับเอามือลูบหัวของเลนินอย่างรักใคร่และมอบจุมพิตที่หน้าผากให้เลนินไปหนึ่งที พร้อมกับวิ่งออกไปจากห้องทันที

 

ตอนที่ริกเตอร์รับสายจากลูกน้องเลนินไม่ได้สนใจเชาเลยสักนิด เธอเอาแต่นอนหลับตาและเอามือปิดหูไว้เพราะไม่อยากได้เสียงหรือเห็นหน้าของริกเตอร์ ส่วนโฮปนั้นออกไปได้สักพักแล้วเพราะเขาต้องไปทำธุระต่อและกลับฝรั่งเศสในวันมะรืน

 

แต่เลนินก็ต้องตกใจเพราะอยู่ๆริกเตอร์ก็มาจุมพิตที่หน้าผากเธอ โดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว แต่ในใจก็แอบหวั่นๆกลัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับริกเตอร์ เห็นริกเตอร์รีบวิ่งไปแบบนั้นเธอก็แอบห่วงไม่ได้

 

@ฝั่งริกเตอร์

 

เมื่อมาถึงโกดังเก็บอาวุธล็อตใหญ่ริกเตอร์ก็สังเกตุได้ว่ามีลูกน้องของไอโจสลอร์ตแอบอยู่ทุกที่ แต่พวกมันหารู้ไม่ว่าลูกน้องของมันเกินครึ่งเป็นลูกน้องของริกเตอร์

 

"ไอโจอยู่ไหน" ริกเตอร์ถามเสียงเรียบ

 

"อยู่ข้างในโกดังครับนาย มันรอนายอยู่" จอนบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ

 

หลังจากที่จอนบอกเสร็จริกเตอร์ก็เดินเข้าไปกับจอนสองคนส่วนลูกน้องที่บอกให้จอนเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ ริกเตอร์ได้สั่งให้ล้อมรอบโกดังไว้ทั้งหมด

 

"มาแล้วหรอครับไอ้คุณริก" โจสลอร์ตถามอย่างกวนลูกกระสุนปืน

 

"โกดังกูทำไมกูจะไม่มา" ริกเตอร์ตอบด้วยสีหน้าทะเล้นแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัว

 

"เอ้าหรอกูนึกว่าโกดังกู มองไปทางไหนก็เห็นแต่ลูกน้องกูว่ะ ฮ่าๆๆๆ" โจสลอร์ตขำอย่างสะใจโดยที่ไม่รู้ตัวเลย ว่าตอนนี้ใกล้ถึงวันที่ตัวมันจะได้ลงนรกแล้ว

 

" 1 2 3 " ปังๆๆๆ ปังๆๆๆ เมื่อริกเตอร์นับหนึ่งถึงสามจอนก็รีบกดสัญญาณให้ลูกน้องลงมือได้ในทันที

 

"ไอริกมึงขี้โกงมึงแอบเอาลูกน้องมึงมาแฝงไว้ในแก็งค์กู" โจสลอร์ตตอบด้วยสีหน้าและท่าทางที่เหมือนคนเสียสติ

 

"มึงโง่เองนะโจ มึงเข้ามาในถิ่นกู ให้กูฆ่ามึงง่ายๆเองนะ ยิงมัน ปังๆๆ" ริเกตอร์พูดกับโจสลอร์ต ก่อนที่จะสั่งให้ลูกน้องยิงมันจนตาบ

 

ริกเตอร์สั่งลูกน้องให้เอาซากศพของไอพวกคนชั่วไปจัดการและห้ามเหลือร่องรอย จากนั้นริกเตอร์ก็เดินดูรอบโกดังหลายๆรอบ จนแน่ใจว่าพวกมันไม่ได้แอบเอายาเสพติดหรือหรือของผิดกฎหมายมาไว้ในโกดังของเขา

 

หลังจากนั้นริกเตอร์ก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านและกลับมาหาเลนินที่โรงพยาบาล

 

@โรงพยาบาล

 

ตอนนี้ริกเตอร์นั่งเฝ้าคนตัวเล็กอยู่่ข้างเตียง อย่างมีความสุข เขายินดีที่จะดูแลคนตัวเล็กทั้งชีวิต แต่ริกเตอร์ก็ต้องตกใจเพราะอยู่ๆเลนินก็กรี้ดแล้วก็เเรียกชื่อของริกเตอร์พร้อมกับร้องไห้

 

"นายครับระวัง ปังๆ"

 

"กรี้ดดดดดดดดด ริกเตอร์ หือออๆ ฮึก ฮืออ" 

 

"ตัวเล็กครับตัวเล็กเป็นอะไรครับ" ริกเตอร์ถามเลนินอย่างเป็นห่วง

 

"ฮือออออออ ริกเตอร์นายไม่เป็น ฮึก เป็นอะไรใช่ไหม ฮืออออออออ" เมื่อเลนินเห็นหน้าริกเตอร์เธอก็รีบสวมกอดทันทีเพราะกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป

 

"โอ๋ๆ ไม่ต้องกลัวนะครับ มันเป็นแค่ความฝันตอนนี้พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะครับ" ริกเตอร์ปลอบเลนินด้วยความรู้สึกหมั่นเขี้ยวกับความน่ารักของเธอ อย่างน้อยเขาก็ได้รู้แล้วว่าในใจลึกๆเลนินยังเป็นห่วงเขาอยู่เสมอ

 

ริกเตอร์ปลอบเลนินได้สักพักใหญ่ๆแต่เธอก็ไม่หยุดร้องสักที เขาเลยต้องขึ้นมนอนบนเตียงคนไข้กับเลนินเเละนอนปลอบเธอจนเธอหลับ ริกเตอร์มองหน้าเลนินสักพักก่อนที่เขาจะหลับตามเธอไป

 

การที่เขาได้มองหน้าเลนินก่อนนอนทุกคืนทำให้้เขาหลับง่ายกว่าปกติและมีความสุขที่มีเธอให้นอนกอดแบบนี้

 

 

โอ๊กกกกกก โอ๊กกกกกกก โอ๊กกกกกกกกก

 

เสียงริกเตอร์อาเจียน

 

ริกเตอร์#

 

อยู่ๆผมตื่นขึ้นมาอาเจียนกลางดึก ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรพยายามนึกแล้วนึกอีกแต่ผมก็นึกไม่ออก ผมสงสัยว่าผมกินอะไรที่ไม่สะอาดเข้าไปรึเปล่า แต่เมื่อเย็นผมยังไม่ได้กินอะไรนอกจากน้ำเปล่า งั้นเดี๋ยวตอนเช้าผมค่อยไปปรึกษาหมอก็แล้วกัน ดูจากอาการของผมน่าจะหนักพอสมควร แต่ตอนนี้รู้สึกอยากกินอะไรที่มันเปรี้ยวๆ จะออกไปซื้อตอนนี้ก็หมดแรง พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวค่อยให้จอนซื้อมาให้ ตอนนี้ผมขอไปนอนกอดเมียต่อดีกว่าคิดถึงกลิ่นเมียตัวเองจะแย่ล่ะ

 

@ตอนเช้า

 

"อื้ออออออ งัมๆ" เสียงของเมียผมเองล่ะครับ นอนเคี้ยวน้ำลายในปากแล้วเอาหน้ามาซุกอกผมไว้ทำท่าส่ะน่ารักเลยครับ เมียผมตอนนอนน่าจับกินที่สุด จนผมอดใจไม่ไหวที่จะหอมแก้มนุ่มนิ้มทั้งสองข้างแรงๆ ฟอด ฟอด

 

"อื้อออออ จานอนนนนนอย่ากวนนนนน" ผมจับคนท้องกดตรงนี้ผิดไหมครับ คนอะไรน่าจับกดตลอดเวลา

 

หลังจากที่ผมหอมแก้มเมียสุดที่รักเสร็จ ผมก็ลงจากเตียงเพื่อสั่งให้จอนเอางานมาให้ผมที่โรงพยาบาลและฝากซื้อผลไม้ที่มันเปรี้ยวๆมาด้วย

 

อุ้ พอผมวางสายจากจอน อยู่ๆผมก็เกิดอาการอยากอ้วก แล้วก็ต้องรีบวิ่งไปห้องน้ำทันที

 

โอ๊กกกกกก โอ๊กกกกก โอ๊กกกกกก

 

ผมจะตายไหมครับเนี้ย ยังไม่ทันได้เจอหน้าลูกเลย

 

#ริกเตอร์end

 

"อื้มมมม เสียงใครมาอ้วกในนี้เนี้ย" เลนินบ่นเพราะเสียงอาเจียนทำให้เธอหงุดหงืดจนต้องตื่นมาบ่นกับตัวเอง

 

"นี้ ใครอยู่ในห้องน้ำออกมาเดี๋ยวนี้นะ" ด้วยความที่เธออยากรู้ เลนินจึงตะโกนถามคนในห้องน้ำว่าคือใคร

 

"ผมเอง" ริกเตอร์บอกอย่างยากลำบาก เพราะเริ่มหมดแรงจากการอาเจียน

 

"เห้ยๆๆ เสียงไหวไหมนั้นนะ แล้วที่บอกว่า'ผมเอง'คือใครอ่ะ" ด้วยน้ำเสียงของริกเตอร์ที่เหมือนคนป่วยทำให้เลนินจำเสียงเขาไม่จนต้องลุกลงมาจากเตียงเพื่อที่จะเดินเข้าไปดูว่าใครอยู่ในห้องน้ำ แต่เธอก็ต้องตกใจ เพราะ ตอนนี้ริกเตอร์สลบคาโถส้วมไปเรียบร้อยแล้ว

 

"กลิ่นโถส้วมหอมไหมอ่ะ ทำไมไม่เลือกที่สลบให้มันดีๆหน่อยเนี้ย" เลนินบ่นกับคนตรงหน้าที่สลบ ซึ่งคนที่สลบไม่อาจรับรู้หรือได้ยินสิ่งที่เลนินบ่นออกมาเลยแม้แต่น้อย

 

"นายครับ" ในขณะที่เลนินกำลังคิดหนักว่าจะเอาริกเตอร์ออกมาจากห้องน้ำด้วยวิธีไหนดี แต่โชคดันเข้าข้างเลนินเพราะอยู่ๆจอนก็เข้ามาในห้องพักผู้ป่วยในมือถือเอกสารและผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอย่างพลุงพลังพร้อมกับร้องเรียกนายของตัวเอง

 

"จอนนายมาพอดีเลย ช่วยฉันพยุงริกเตอร์ไปนอนที่โซฟาหน่อย พอดีเขาเป็นลม" เมื่อสิ้นสุดเสียงเรียกของจอน เลนินก็รีบตะโกนให้จอนมาช่วยพยุงริกเตอร์ออกจากห้องน้ำทันที

 

"นายผมเป็นอะไรครับคุณนิน" จอนบอดี้การ์ดคนสินิทถามอย่างสัย

 

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันตื่นเพราะได้ยินเขาอ้วก พาเดินเข้ามาหาในห้องน้ำเขาก็สลบไปแล้ว จอนนายไปขอยาดมพยาบาลมาให้หน่อยสิ" เลนินบอกอาการเกี่ยวกับริกเตอร์ที่ตัวเองรู้ให้จอนฟังและวานให้จอนไปขอยาดมในตอนหลัง

 

หลังจากที่จอนกำลังเดินไปขอยาดมกับพยาบาลเลนินก็ได้บ่นกับตัวเอง

 

"สรุปนายหรือฉันที่ป่วยกันแน่เนี้ย ให้คนป่วยดูแลคนป่วยเจริญเลยเจ้าค่ะ" เลนินบ่นด้วยอาการไม่ค่อยพอใจแบบติดตลก เพราะริกเตอร์ทำเลวกับเธอไว้เยอะเหลือเกิน แต่ที่จะดูแลเพราะเห็นแก่ความดีที่เคยทำให้หรอกนะ

 

เมื่อเลนินบ่นเสร็จสักพักจอนก็เอายาดมมาให้เลนิน พร้อมกับขอตัวออกไปทำงาน ใจจริงคือจอนไม่อยากเป็นก้างขวางคอเจ้านายกับ(อนาคต)นายหญิง เพราะอยากให้เจ้านายง้อนายหญิงให้สำเร็จ เขาจะได้มีเวลากับไปอยู่กับเมียตัวเองบ้าง

 

 

 

เลนิน#

 

"หมอขอตรวจหน่อยนะครับ" เสียงหมอประจำตระกูลฉันพูดขึ้น

 

"ค่ะ"

 

"อาการตอนนี้ก็ปกติดีแล้วนะครับ แต่ต้องพักผ่อนใหเพียงพอ วันนี้กลับบ้านได้เลยนะครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ" คุณหมอบอกฉันด้วยน้ำเสียงสุภาพ

 

"เชิญค่ะ.......คุณหมอเดี๋ยวก่อนค่ะ ตกลงฉันเป็นอะไรกันแน่คะ" ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย 

 

หมอมีอาการเลิกลักแล้วก็หันหน้าไปมองหน้าริกเตอร์ที่พึ่งตื่น แล้วริกเตอร์พยักหน้้าให้คุณหมอเป็นอันว่าบอกได้ก่อนที่จะตอบฉัน

 

"เอ่อคือ...ตอนนี้คุณเลนินท้องได้สองเดือนกว่าเเล้วครับ เพราะฉะนั้นคุณนินต้องระมัดระวังให้มากขึ้นนะครับ จะได้ไม่กระทบกระเทือนถึงเด็กในท้องมาก แล้วก็กินยาบำรุงตามที่หมอสั่งให้ครบด้วยนะครับ งั้นหมอขอตัวครับ" หมอประจำตระกูลของฉันบอกก่อนที่จะขอตัวออกไปจากห้อง

 

ฉันมีอาการช็อคนิดๆตอนหมอบอก แต่ฉันก็เตรียมใจสำหรับเรื่องนี้มาสักพักแล้วล่ะ

 

"ทำไมคุณถึงไม่ดีใจเลยล่ะ" ริกเตอร์ถามฉันด้วยสีหน้าเศร้าๆ

 

"ฉันไม่อยากมีลูกกับคุณ!" ฉันบอกเสียงเรียบแสดงอาการนิ่งเฉย

 

"แต่ผมอยากมีลูกกับคุณจริงๆนะนิน" เขาบอกด้วยสีหน้าที่จริงจัง

 

แต่มีหรอฉันจะเชื่อคนที่เอาแต่ทำร้ายฉันไม่มีทางอยากมีลูกกับฉันแน่นอน ที่เขาอยากได้ก็แค่ความส่ะใจ ซ้ำเติม เอาฉันไว้เป็นที่ละบายราคะของตัวเอง ลูกจะไม่มีวันรู้ว่าพ่อของเขานั้นเลวแค่ไหน

 

"คุณไม่ได้รักฉันแล้วคุณจะอยากมีลูกกับฉันทำไม" ฉันถามพร้อมกับหันหน้าไปทางริกเตอร์

 

เขาดูไม่ตกใจเลยที่ฉันถามแบบนี้

 

"ก็เพราะผมรักคุณอยู่แล้วไง ผมถึงอยากมีลูกกับคุณ" เขาตอบด้วยน้ำเสียงกับรอยยิ้มที่อ่อนโยน

 

"คุณไม่เคยรักใครจริง แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าคุณรักฉันจริง" ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

 

" คุณก็ให้โอกาสผมสิที่รัก"

 

เขาพูดพร้อมกับเดินมานั่งข้างๆฉันบนเตียง แล้วมาจุมพิตที่หน้าผากฉัน

 

"!!!"

 

#เลนินend

 

 

นับตั้งแต่วันที่เลนินรู้ว่าตัวเองท้อง เธอก็แสดงอาการเฉยชากับริกเตอร์มาโดยตลอด เพราะเธอรู้ใจตัวเองแล้วว่าเธอไม่ได้รักเขา ที่ผ่านมาอาจจะมีหวั่นไหวแต่มันเป็นเพราะความผูกพันธ์ที่ริกเตอร์ก่อขึ้นมาในตอนแรก ส่วนฌามิสนั้นเธอแค่ลุ่มหลงความดูแลและเอาใจใส่เพียงเท่านั้น เธอจึงตัดสินใจว่าหลังจากที่เธอคลอดลูกสักหนึ่งถึงสองปีแล้ว เธอจะย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ กับลูกสองคนแล้วเปิดธุรกิจสาขาใหม่ของครอบครัวที่อังกฤษด้วยเลย ส่วนสาขาที่ไทยเธอจะให้เลขาคอยส่งเอกสารมาทางเมลล์เพื่อให้เธอเซ็นต์ ส่วนริกเตอร์นั้นเธอจะไม่บอกเขาว่าเธอจะย้ายไปอยู่อังกฤษเพราะเธอไม่อยากให้เขามาวุ่นวายกับชีวิตอีก

 

ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมฉันต้องรอให้ลูกคลอดสักหนึ่งถึงสองปีสินะคะ ฉันจะบอกให้ก็ได้ค่ะ เพราะฉันอยากให้ลูกอยู่กับพ่อของเขาและฉันจะได้ถ่ายรูปเก็บภาพความทรงจำของลูกตอนเด็กไว้ พอโตขึ้นลูกจะได้ไม่สงสัยว่าพ่อของเขาเป็นใคร อย่างน้อยๆก็มีรูปไว้ให้ลูกดูว่าพ่อของเขาหน้าตาเป็นแบบไหน แต่ถ้าลูกโตขึ้นแล้วอยากติดต่อพ่อของเขาฉันก็จะไม่ห้ามค่ะเพราะนั้นคือสิทธิ์ของลูก แต่ฉันขออย่างเดียว อย่าให้เขามายุ่งกับฉัน ที่ผ่านมาฉันเจ็บมามากพอแล้ว เจ็บมากจนมันไม่สามารถที่จะรักใครได้อีกนอกจากลูกและตัวของฉันเอง

 

@วันคลอด

 

ห้องคลอด

 

"เบ่งอีกนิดนะคะคุณแม่ ตอนนี้หัวเด็กเริ่มโผล่แล้วค่ะ" เสียงพยาบาลที่คอยบอกและคอยบิ้วอารมณ์ฉันไม่ให้หมดกำลังใจ

 

"นินครับ ไม่ต้องกลัวนะผมจะคอยอยู่ใกล้ๆคุณเอง" เสียงของริกเตอร์ที่คอยยืนให้กำลังใจฉันและจับมือฉันไว้ไม่ยอมห่าง ฉันได้แต่ยิ้มๆให้เขาแต่ไม่ตอบอะไรกลับไป เพราะที่ผ่านมาฉันเฉยชากับเขามาโดยตลอด แต่ก็ยอมให้เขาดูแล เพราะฉันก็ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ตลอดเวลา

 

"ฮึบ เฮือก กรี้ดดดด อุเเว้ๆๆ" ฉันตัดสินใจรวบรวมแรงทั้งหมดแล้วออกเเรงเบ่งสุดกำลัง จนฉันได้ยินเสียงเด็กร้อง ความรู้สึกของฉันมันตื้นตันมากที่ได้ให้กำเนิดลูกน้อยๆ น้ำตาแห่งความดีใจและตื้นตันค่อยๆไหลออกจากตาฉัน และจู่ๆตาฉันก็เริ่มพล่าเลือนและปิดไปในที่สุด เสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยินก่อนที่สติจะดับวูบไปคือเสียงของริกเตอร์ที่คอยเรียกชื่อฉันเพื่อไม่ให้ฉันสลบไป

 

"นิน นินได้ยินเสียงพี่ไหม นินตื่นก่อนสิ อย่าพึ่งหลับ นิน นินครับ"

 

#เลนินend

 

 

ริกเตอร์#

หลังจากที่นินสลบไปหมอก็รีบพานินเข้าห้องฉุกเฉินทันที ตอนนั้นผมใจหายวาบเลยครับ ผมกลัวว่าผมจะเสียนิน เพราะใจผมตอนนี้มีแต่นินคนเดียว ถึงผมอาจจะเคยเลวกับนินไว้มาก แต่ตอนนี้ผมสำนึกผิดแล้วครับ ผมรักนินแค่คนเดียวใจ ถ้านินเป็นอะไรขึ้นมาผมจะอยู่ได้ยังไง นินคือทุกอย่างในชีวิตของผมและมีอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆที่ผมก็รักมากเหมือนกับนินนั้นก็คือน้องหนูตัวเล็กครับ ตลอดระยะเวลาที่ผมดูแลนินตอนที่เธอกำลังตั้งครรภ์ ผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของนินว่าเธอนั้นไม่หลงเหลือความรักไว้ให้ผมอีกแล้ว

"คุณคือสามีคนไข้ใช่ไหมครับ" เสียงของหมอทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์

"ครับใช่ครับ ภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ" ผมรีบถามออกไปเพราะในใจผมตอนนี้เป็นห่วงเธอเหลือเกิน

"คุณทำใจไว้หน่อยก็ดีนะครับ เพราะตอนที่คนไข้ตั้งครรภ์ในช่วงแรกๆเธอมีอาการเครียดบ่อย ทำให้ร่างกายเธออ่อนแอลงเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้คนไข้อ่อนแอลงกว่าแต่ก่อนมาก แต่ก็ถือว่าเธอเก่งนะครับที่อดทนมาได้ถึงขนาดนี้ แต่ต่อไปนี้คุณต้องดูแลเธอดีๆนะครับ เพราะคนไข้อาจจะอยู่ได้อีกไม่เกินหนึ่งถึงสองปีครับ" พอผมได้คำตอบจากหมอเข่าผมแทบทรุดเพราะผมไม่เคยรู้อาการพวกนี้ของนินเลย นินไม่เคยบอกอะไรกับผม นินทำผมกลัว กลัวว่าผมจะต้องเสียเธอไปตลอดชีวิต

" ขอบคุณมากนะครับหมอ"

" งั้นหมอขอตัวนะครับ"

" ครับ"

หลังจากที่หมอเดินออกไปแล้วผมก็รีบเข้าไปดูนินทันที ใบหน้านินซีดเซียวไม่มีีสีสัน พอผมเห็นผมก็เกิดอาการเจ็บที่อกข้างซ้ายเพราะผมพึ่งมาดูแลนินได้ไม่นานและการดูแลนินที่ผ่านมาผมหวังว่ามันจะทดแทนกับสิ่งที่ผมทำเลวกับเธอไว้ได้บ้างแต่ผลปรากฎว่ามันไม่สามารถทดแทนกับสิ่งเลวๆที่ผมเคยทำไว้กับเธอได้เลยแม้แต่น้อย แต่ถึงยังไงผมก็จะดูแลนินให้ดีที่สุด

หลังจากที่ผมเช็ดตัวให้นินเสร็จผมก็เดินไปดูตัวเล็กที่ถูกเอาไปไว้ในห้องเด็กทารก ลูกของผมกับนินเป็นผู้ชายครับ โครงหน้าลูกเหมือนผมกับนินอย่างละครึ่ง แต่สีผิวลูกได้แม่มาเต็มๆเลยครับ หลังจากที่ผมยืนดูลูกจนหายคิดถึงแล้ว ผมก็เดินกลับมาดูแลนินเหมือนเดิมครับ

#ริกเตอร์end#

หลังจากวันนั้นเลนินก็กลับมารักษาตัวที่บ้านตอนนี้ระยะเวลาผ่านไปปีกว่าแล้ว อาการของเลนินไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้นเลย มีแต่แย่ลงๆ จนริกเตอร์เองก็ใจหายที่อาการของเลนินไม่ดีขึ้นเลย ตอนนี้ลูกของริกเตอร์กับเลนินก็อายุได้ปีกว่าแล้ว

"เมอร์สันต์ครับ มาให้พ่ออุ้มหน่อยครับ"

'เมอร์สันต์' เป็นชื่อที่ริกเตอร์ตั้ง ส่วนนามสกุลนั้นใช้ของเลนิน

"แอ้ๆ ปาปา คิกๆ" เสียงของหนูน้อยร่าเริงจนผู้เป็นพ่อเห็นแล้วยิ้มตามไม่ได้ แต่ในใจของชายหนุ่มก็ยังคงเศร้าอยากให้ลูกได้เห็นหน้าแม่ตอนโต แต่ฟ้าชั่งกลั่นแกล้งเขาส่ะเหลือเกินเพราะอาการของเลนินแย่ลงเรื่อยๆ ไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้นเลย

อีกฝั่งของบ้าน

"เห้อ ทำไมฟ้าชั่งกลั่นแกล้งเราแบบนี้ ให้เวลาเราเยอะกว่านี้ไม่ได้รึไง" เสียงเลนินตัดพ้อกับชีวิตตัวเอง

"อนาคตข้างหน้าที่ฉันวางไว้ คงจะไม่ได้ใช้มันแล้วสินะ เพราะฉะ ฉัน แค่กๆ เริ่มรู้สึกว่าตะ แค่ก ตัวเองนั้นไม่ไหวแล้ว" เสียงของเลนินเบาลงในตอนท้ายเพราะเธอเริ่มรู้สึกว่าตัวเองอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว แต่อยู่ๆก็มีเสียงเล็กดังเจื้อยแจ้วเข้ามา

"แอ้ๆ มาๆ แอ้ๆ คิกๆ" เสียงของลูกน้อยเมอร์สันต์ทำให้เลนินยิ้มออกมา แต่ชั่งน่าเสียดายที่เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว

" นินครับผมพาลูกขึ้นมาหาครับ" ริกเตอร์บอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

"ขะ ขอบคุณนะ......" หลังจากเลนินพูดขอบคุณริกเตอร์เสร็จเธอก็จากไปอย่างสงบ

" นินครับฮึกๆ หลับให้สบายนะครับ ผมรักนินนะ" เมื่อริกเตอร์เห็นว่าเลนินหมดลมหายใจแล้วเขาก็บอกรักเธอและทำการอำลา ตามด้วยจุมพิตที่หน้าผากเธออย่างอ่อนโยน

ส่วนหนูน้อยเมอร์สันต์เหมือนเขาจะรู้ว่าแม่ของเขาไม่อยู่แล้ว เขาก็ร้องไห้ออกมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ริกเตอร์ได้แต่ปลอบลูกทั้งๆที่ตัวเองก็เศร้าเหมือนกัน แต่ต้องเข้มแข็งเพื่อลูก

หลังจากจัดการเรื่องของเลนินเสร็จแล้วริกเตอร์ก็เอากระตูกของเลนินไว้ที่บ้านของเขาทางภาคเหนือเพราะเขาต้องการให้เลนินอยู่ในที่ที่สงบไม่มีสิ่งรบกวน เพราะตอนที่เธอมีชีวิตอยู่เธอไม่เคยได้รับความสงบเลย เธอได้รับแต่ความทุกข์ความทรมาน

"นินครับตอนนี้เราอยู่มี่แม่ฮ่องสอนนะครับ ที่นี่อากาศดีมากเลยนะครับนิน ผมว่านินต้องคิดเหมือนผมแน่ๆเลย ผมรักและคิดถึงนินนะครับที่รัก" ริกเตอร์พูดด้วยเสียงที่คิดถึงและสั่นเครือ แล้วอยู่ๆลมก็พัดเข้ามาในบ้านอย่างเเรงเหมือนเป็นสัญญาณว่าเลนินเองก็รับรู้เหมือนกัน

END

แสดงเพิ่มเติม

25K

เข้าชม

117

เพิ่มลงคลัง

92

ถูกใจ

0

ดาวน์โหลด

16

ความคิดเห็น