"คุณณฤทธิ์แน่ใจแล้วหรือครับ....?" บันลือทนายความประจำตระกูลวิริยะธรรมคุณเอ่ยถามอย่างกริ่งเกรง
"แน่ใจครับ!.
"หรือว่านายไม่เห็นด้วยอีกคน จาคอบ"
"ผมเห็นด้วยกับบอสร้อยเปอร์เซนต์ครับ ทุกคนต้องทำงาน ถ้าอยากได้เงิน"
"สองเสียงแล้วนะครับอาบันลือ"
"ผมเข้าใจเจตนาของคุณฤทธิ์ครับ แต่....เรื่องที่จะให้คุณกั้งกับคุณกุ้งมาทำงานที่นี่ เอ่อ...."
บันลือเหมือนน้ำท่วมปาก เพราะรู้ดีว่าน้องสาวต่างมารดาของณฤทธิ์ ปิยะธร หรือ กั้งวัย 27 กับ ปียากร หรือ กุ้ง 25 ต่างก็จบโทจากอเมริกา แต่ทั้งคู่ไม่ได้ทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน อาศัยแค่เงินปันผลของตระกูลหรืออาจจะเรียกได้ว่าเงินกงสีก็อยู่ได้สบายๆ ไม่เดือดร้อนอะไร วันๆ ก็เอาแต่เข้าสปาร้อยนั่น ทานอาหารดังร้านนี้หรือช้อปปิ้งแบรนด์เนมในห้างคนตนเองโดยลงบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายของกรรมการบริษัท ดังนั้นถ้าจะให้น้องสาวต่างมารดาของณฤทธิ์มาทำงานแลกเงินนี่ หนทางแทบจะเป็นไปไม่ได้ ลำพังแค่น้องต่างมารดาทั้งสองก็น่าจะยากพอดูอยู่แล้ว แต่คนที่จะเป็นกระดูกชิ้นโตที่คอยขวางให้ยากยิ่งขึ้นก็คือแม่เลี้ยงผู้มากด้วยยศศักดิ์และไม่เคยหยิบจับงานอะไรสักอย่างนอกจากออกงานสังคมที่ได้ชูหน้าชูตาเป็นนางหงส์ของชายหนุ่มต่างห่างเล่า!
"ถ้าไม่ทำ!..... ผมก็จะฝ่ายบัญชีระงับจ่ายเงินเดือนทั้งสามบัญชี"
"สามบัญชี! ละ แล้ว... บัญชีที่สามคือใครครับ" บันลือร้องถามด้วยสีหน้าตกใจ ภาวนาอย่าให้เป็นคนที่เขาคิดเลย ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่
"นางปียาพร วงศ์วิริยะธรรมคุณ" ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ ทว่าบุคคลทั้งสองที่นั่งอยู่ด้วยในห้องสัมผัสได้ถึงความเด็ดขาดในเสียงเรียบเย็นนั้น
"คุณณฤทธิ์! ครับผมเกรงว่า.....เอ่อ จะมีเรื่องยุ่งยากตามมานะครับ"
"ผมรู้ครับอาบันลือ....แต่ผมคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ทั้งในเชิงกฎหมายผมก็ศึกษามาอย่างดีด้วยเช่นกัน แด๊ดให้เวลาผมสองปีในการฟื้นฟูกิจการที่ท่านและคุณปู่ร่วมกันสร้างมาจนเติบโตสยายปีกทั่วเมืองไทย ผมจะไม่ยอมให้สิ่งที่ท่านทั้งสองสร้างมาพังเพราะคนอื่นหรอกครับ"
คนอื่นที่ชายหนุ่มเอ่ยถึงก็คือทางเครือญาติของแม่เลี้ยง นางปียาพร ที่นางปียาพรยักย้ายถ่ายเทเงินส่วนหนึ่งไปให้เพื่ออุ้มชู "หน้าตา" ของตระกูลที่เป็นตระกูลที่คนวงในเท่านั้นถึงจะรู้ว่า "รวยแต่เปลือก" มารดาของแม่เลี้ยงชายหนุ่มเป็นถึงหม่อมหลวง สืบเชื้อสายผู้ดีกว่าที่มีคนนับหน้าถือตาตั้งแต่สมัยอดีต แต่ด้วยที่มีลูกหลานหลายคนและแต่ล่ะคนไม่ได้ทำงานเป็นชิ้นเป็นอัน แถมยังใช้เงินมือเติบราวเงินสามารถงอกเงินมาจากนามสกุลเก่าแก่ได้ จึงอาศัยแต่กินบุญเก่าที่สะสมกันมาเท่านั้น หรือบางคนทำธุรกิจก็เพื่อความสนุกเท่านั้น จึงทำให้ทรัพย์สที่มีอยู่ถูกทยอยขายทอดออกมาเรื่อยๆ ญาติพี่น้องจึงมาอาศัยพึ่งใบบุญของแม่เลี้ยงตนที่ได้แต่งงานกับเจ้าสัวผู้มั่งคั่งและจิตใจเอื้ออารีอย่างบิดาของตน ณฤทธิ์ใช้เวลาหลายเดือนในการตรวจสอบเส้นทางการรั่วไรของเงินในบริษัท ก็พบว่าเงินที่เป็นเงินปันผลที่เป็นส่วนของบิดาตนถูกถ่ายโอนไปให้นางปียาพรเกือบหมด โดยไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลย มิหนำซ้ำน้องสาวของเขาทั้งสองคนก็ได้รับเงินเดือนในฐานะกรรมการของบริษัทเป็นจำนวนเงินแต่ละเดือนถึงหกหลัก ไม่รวมเงินโบนัสและสวัสดิการอื่นๆ ในฐานะกรรมการบริษัท ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารกิจการของบริษัทธรรมคุณ คอร์เปอร์เรชั่นเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ชายหนุ่มไม่เห็นด้วยและเขาจะเสนอต่อคณะกรรมการบริหารของบริษัทในวาระการประชุมใหญ่ที่จะมีอีกครั้งในเดือนหน้า
"ผมเข้าใจครับ" ทนายบันลือเองกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก ถึงแม้เขาจะทำงานกับครอบครัวนี้มานาน ค่อนข้างรู้ตื้นลึกหนาบางกับหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดีพอสมควร จึงได้แต่ลอบถอนหายใจ ทว่ายังแอบเอาใจช่วยทายาทรุ่นที่สามของธรรมคุณ คอร์เปเรชั่นคนนี้ ให้กอบกู้วิกฤติที่รายล้อมเป็นผลสำเร็จ
"ผมก็ต้องขอบคุณอาบันลือเหมือนกัน ที่คอยช่วยเหลือแด๊ดรวมทั้งผมมาตลอด" ชายหนุ่มเอ่ยจากใจจริง
"คุณณฤทธิ์ไม่ต้องขอบคุณผมเลยครับ... มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ" สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างทายาทรุ่นสองกับรุ่นสามที่ทนายประจำตระกูลเห็นได้ชัดก็คือความเด็ดขาด กล้าตัดสินใจ กล้าที่จะออกคำสั่ง ต้องการจะพูดถึงแต่ความจริงที่จับต้องได้ ไม่ชอบจัดการกับความรู้สึกของคนรอบข้างเท่าไหร่
"งั้นผมรบกวนอาบันลือให้เป็นธุระช่วยนัดน้าปียาพรกับกั้งและกุ้งให้ผมหน่อยล่ะ ในกันระหว่างที่ผมกำลังมองหาเลขาที่จะมาอยู่ในทีม New Talent คงใช้เวลาหาสักพัก"
"ยินดีมากครับคุณณฤทธิ์.... แล้วจะให้นัดที่ไหนดีครับ"
"เอาเป็นว่าที่ที่น้าปียาพรสะดวกแล้วกันครับ"
"เอ่อคุณณฤทธิ์ครับ...ยังไงช่วงนี้ก็ต้องระวังตัวด้วยนะครับ เพราะใกล้ประชุมใหญ่ครึ่งปีแรกแล้ว ผมหมายถึงทุกด้าน!" ทนายร่างท้วมลุกขึ้นจากเก้าอี้ หันมายิ้มให้จาคอบที่นั่งฟังทั้งคู่สนทนากันอย่างเงียบๆ
"ครับ. ผมทราบดี...ขอบคุณอาบันลือมากนะครับ." ทุกด้านที่ทำให้เป็นข่าวในแง่ลบ! ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประธานบริษัท ถ้าภาพลักษณ์ติดลบตำแหน่งประธานบริษัทธรรมคุณก็จะสั่นคลอนไปด้วย... มีคนรอลื่นขาเอ้าอี้ท่านประธานอีกเพียบ!
"ผมขอตัวก่อนนะครับ"
"เชิญครับ"
"จาคอบ นายช่วยไปที่ฝ่าย HR เรื่องหาเลขาเข้าทีมให้ฉันหน่อยนะ ไปเร่งให้หน่อย" ชายหนุ่มเอ่ยปากบอกพีเอคู่ใจหลังจากทนายบันลือออกไปจากห้องแล้ว
"ครับ..... แต่ผมขอถามบอสหน่อยได้ไหมครับ"
"ว่ามา??
"คุณสมบัติของเลขาที่จะเข้ามาช่วยบอสและทีม New Talent ทำไมต้องระบุว่า Preferably Married ด้วยละครับ?
"นายถามยังกับพึ่งทำงานกับฉันไม่กี่เดือน.... ฉันไม่อยากยุ่งยากทีหลัง นายก็น่าจะรู้ว่าฉันก็มีเสน่ห์พอตัว ถ้าขืนรับสาวโสดมาล่ะ....กลัวเสียงาน... คนเสียงานไม่ใช่ฉันนะ! และฉันก็ขี้เกียจหาใหม่ ระบุอายุสามสิบขึ้นไป แต่งงานแล้ว แบบนี้ดีกว่า"
"อ้อ... ครับ" แต่บอสเขาคงไม่ได้คิดถึงขั้นว่า ถึงแต่งงานมีลูกเป็นพรวน บทคนจะนอกใจ ใครๆ ก็ห้ามไม่ได้ ยิ่งเจ้านายของเขาติดหนุ่มโสดในฝันของทั้งที่เยอรมันและระดับยุโรป บวกกับรวยล้นฟ้า ทรัพย์สมบัติที่มีใช้ไปถึงชาติหน้าก็ไม่หมด สาวหน้าไหนก็อยากมาใกล้ชิดหนุ่มโสดเนื้อทองคำฝังเพชรคนนี้กันทั้งนั้น
"หรือนายไม่คิดว่าฉันเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอม"
บทจะหลงตัวเองก็หลงตัวเองได้หน้าเฉย!