ฉันสุดหายใจเอาอากาสเข้าปอดเฮือกใหญ่อย่างควบคุมสติ แต่สมองกลับทำไม่ได้อย่างที่ใจคิดเท่าไหร่นัก เพราะตอนนี้สมองของฉันมึนเบลอไปหมดแล้ว
แมทเทียสยังคงจับเอวบางของฉันให้ขยับขึ้นลงสวนกับเขาที่กระแทกแก่นกายใหญ่เข้ามาในตัวฉันอย่างช้าๆ เนิบๆ เสียงเตียงที่กระทบกับผนังพร้อมกับเสียงครางของฉันผสานกันอย่างน่าอาย
“อื้อ… แมท แผลนาย”
ฉันคล้ายอ้อมแขนที่กอดรอบลำคอแกร่งของแมทเทียสเอาไว้แน่นพร้อมกับจิกเล็บที่แผ่นหลังของเขาเพื่อคลายความเสียวซ่านออกเล็กน้อย
“หึ ไม่เป็นไร ฉันไม่เจ็บหรอก ไหวมั้ย”
“อื้อ…”
ฉันครางออกมาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่เมื่อแมทเทียสจูบซุกไซ้ที่ซอกคอของฉันแล้วลิ้นเปียกชื้นก็ไล้เลียไปมาตรงจุดชีพจรของฉันอย่างแผ่วเบา
“อดทนหน่อยนะเฮเลน่า ฉันจะทำให้เบาที่สุด”
“ฉันไม่เป็นไรแมท…อ๊ะ”
ฉันกัดริมฝีปากล่างของตัวเองเอาไว้แน่จนเจ็บแสบไปหมดเมื่อแมทเทียสฝังเขี้ยวลงมาที่ซอกคอของฉันด้วยความรวดเร็ว…
ความรู้สึกเจ็บไม่ได้มีมากมายอะไร แต่มันกลับรู้สึกตุบๆ และความเสียวซ่านจากการที่ร่างกายสูงใหญ่กำลังกระแทกกระทั้นมานั้นมันทำฉันลืมความเจ็บตรงซอกคอคอตัวเอง และเกิดความเสียวซ่านมาแทนที่จนสมองขาวโพลนไปหมด
“อ๊ะ แมท…อื้อ!”
ฉันจิกเล็บลงไปที่แผ่นหลังกว้างของแมทเทียสทันที่ที่ภายในของตัวเองตอดรัดแก่นกายใหญ่ของเขารัวเร็วพร้อมกับเสียงหอบหายใจของเราสองคนที่สอดประสานกันดังไปทั่วห้องนอน จากนั้นแมทเทียสก็ขยับเข้าออกภายในตัวฉันอีกสองครั้งแล้วเขาก็ค่อยๆ ถอนแก่นกายออกช้าๆ
“เจ็บมั้ย”
แมทเทียสจับตัวฉันให้เอนตัวนอนลงไปที่เตียงใหญ่อย่างแผ่วเบา แล้วเขาก็ยกนิ้วเรียวยาวขึ้นมาลูบไล้ที่ผิวแก้มและไล้ลงไปที่ซอกคอตรงบริเวณที่เขาฝังเขี้ยวลงไปอย่างแผ่วเบาทันที
“ไม่หรอก ฉันไม่เจ็บเลยแมท” ฉันส่ายหน้าและยกยิ้มบางส่งไปให้แมทเทียสแล้วจับที่มือใหญ่ของเขาเอาไว้
“หึ งั้นเราพักผ่อนกันดีกว่า”
แมทเทียสจับมือของฉันขึ้นไปจูบที่หลังฝ่ามืออย่างอ่อนโยน แล้วเขาก็นอนลงข้างๆ ฉันและดึงตัวฉันเข้าไปกอดเอาไว้จนหน้าฉันทิ่มไปกับแผงอกกำยำของเขาทันที
ฉันยกมือชึ้นไปลูบไล้ที่บาแผลของเขาแล้วยิ้มกว้างออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ถึงร่างกายสูงใหญ่ของแมทเทียสจะไม่ได้อุ่นเหมือนกับร่างกายของมนุษย์ทั่วไป แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกอบอุ่นไปหมดทั้งตัวแบบนี้กันนะ ให้ตายเถอะ…
ส่วนอีกฝั่งทางด้านกิลแบร์และแวมไพร์เกิดใหม่ทั้งหมดได้ย้ายไปที่บ้านหลังใหญ่ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากที่เดิมอีกหลายไมล์ บาดแผลตรงหัวไหล่จากการที่โดนแมทเทียสใช้ดาบฟันมันลึกจนเขาถึงกับเคลื่อนไหวได้ช้าลงไปมาก และเลือดยังคงไหลไม่หยุด กิลแบร์โกรธจัดและต้องการแก้แค้นแมทเทียสให้าสมกับที่ทำให้เขาต้องมานอนซมขยับแทบไม่ได้มาสองวันเต็ม
"นายเป็นไงบ้าง"
กิลแบร์ที่กำลังยืนพิงขอบหน้าต่างและมองไปบนท้องฟ้าสีดำมืดมิดอย่างใช้ความคิดว่าจะทำยังไง เพื่อที่จะสามารถแก้แค้นแมทเทียสและเอาชนะทางฝั่งของทางนั้นได้รวดเร็วที่สุดหันมามองผู้หญิงสวยสง่า ริมฝีปากแดงที่ถูกแต่งแต้มอย่างสวยงามและกำลังกรีดยิ้มมองเขามันยิ่งทำให้เธอดูงดงามมากยิ่งขึ้น
"มาเรีย" กิลแบร์มองมาเรียที่เดินเข้ามาในห้องของเขาและนั่งลงที่ปลายเตียงใหญ่โดยไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าของห้องด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
"แผลของนายยังไม่หายอีกงั้นเหรอ"
"อย่างที่เห็น เธอคงไม่มาหาฉันถึงที่ห้องเพื่อแค่มาถามเรื่องแผลฉันหรอกใช่มั้ย" กิลแบร์หันไปมองมาเรียด้วยสายตาดุดันอย่างหงุดหงิดทันที
"ฉันก็แค่เป็นห่วงนาย แต่ก็นั่นแหละ ฉันไม่ได้มาที่นี่แค่ถามเรื่องแผลของนายหรอกกิลแบร์"
มาเรียยักไหล่เล็กน้อย แล้วเดินเข้าไปใกล้กิลแบร์จากนั้นมือเรียวสวยก็ทาบทับไปที่แผงอกของร่างสูงใหญ่และลูบไล้แผ่วเบาอย่างหยอกเย้า
"มีอะไรก็รีบพูดมา"
มือใหญ่จับที่ข้อมือบางเอาไว้ให้หยุดลูบไล้ที่แผงอกกำยำของตัวเอง แล้วกิลแบร์ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อยหน่าย จนมาเรียต้องยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างเยาะเย้ยทันที
"ทำตัวห่างเหินจังนะ ยังโกรธฉันเรื่องนั้นอยู่รึไง"
"เธอมันเลี้ยงไม่เชื่อง มาเรีย" กิลแบร์ขมวดคิ้วมุ่นและจ้องมองมาเรียด้วยสายตาดุดันอย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นมือใหญ่ก็เผลอบีบข้อมือบางของเธอแน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
"แค่เพราะฉันเคยชอบแมทเทียสและช่วยเฮเลนเพียงครั้งเดียวก็อย่ามาคิดเล็กคิดน้อยสิ เรื่องมันตั้งหลายร้อยปีแล้วนะ ตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นคนจิตใจดีหรือโง่เง่าแบบนั้นแล้วกิลแบร์ นายก็น่าจะรู้หนิ" มาเรียยิ้มบางและยกมืออีกข้างขึ้นไปลูบไล้ที่สันกรามของกิลแบร์ไปมาอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง
"อย่ามาเล่นลิ้น มีอะไร"
"ฉันแค่จะมาบอกว่าฉันจะมาช่วยนาย และจับตัวเฮเลน... ไม่สิ เฮเลน่าสินะ เหอะ ไม่ว่าจะกี่ร้อยปีชื่อนี้ก็ทำให้ฉันโมโหชะมัด"
มาเรียพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อเอ่ยชื่อของคนที่เคยทำให้เธอต้องเจ็บและรู้สึกโง่เง่าอีกครั้ง ชื่อของผู้หญิงที่แมทเทียสรักหมดหัวใจ แถมยังเคยเป็นผู้หญิงที่เป็นเพื่อนรักของเธออีกต่างหาก...
"ช่วยงั้นเหรอ" กิลแบร์คลายมือใหญ่ที่จับข้อมือบางออก แล้วมองสบสายตากลมโตแต่แฝงด้วยความอันตรายและร้ายกาจไม่ต่างจากเขาอย่างสงสัย
"ใช่ ฉันมาตั้งไกลเพื่อมาช่วยนายเลยนะกิลแบร์ หายโกรธฉันเถอะน่า" มาเรียกรีดยิ้มและลูบไล้ที่แผงอกกำยำของกิลแบร์อีกครั้ง
"หึ จะลองคิดดูแล้วกัน"
ร่างเพรียวลอยขึ้นจากพื้นทันทีที่ถูกร่างสูงใหญ่อุ้มขึ้นทั้งๆ ที่หัวไหล่ของเขายังคงพันบาดแผลลึกเอาไว้ เลือดที่ไหลซึมออกมาจากผ้าพันแผลไม่อาจหยุดทั้งพวกเขาสองคนที่อยู่บนเตียงใหญ่ได้อีกต่อไป...