ณ. โรงแรมสิริธาร...
ในงานแต่งงานที่สวยงามหรูหราจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมฐานะทางสังคมของครอบครัวสองตระกูล
แขกผู้มีเกียรติมากมายต่างทยอยกันเข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวกันอย่างไม่ขาดสาย...
ภาวัต ติณทโสภณ. หรือ แทน.
ชายหนุ่มรูปร่างสูงกำยำไหล่กว้าง จากการออกกำลังกายอย่างหนัก สายตาคมเข้มดุดันแต่ผิวพรรณขาวผ่องใสสะอาดเพราะไม่ชอบตากแดดหรืออยู่กลางแจ้งนานๆ คนร่างสูงสวมใส่เจ๊กเก็ตสีน้ำตาลพร้อมทั้งสะพายกระเป๋าเดินทางมาเพียงใบหนึ่ง
ภาวัตตรงเข้าหาคู่บ่าวสาวอย่างอย่างเอาเรื่อง จนทุกคนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเห็นเช่นนั้นก็ต่างตกใจ
“ไอ้แทน!!! แกมาได้ยังไงว่ะ?”
ทางด้านเจ้าบ่าวก็คือ ธานินทร์ พลรัตน์. หรือ นพ. ชายหนุ่มรูปหล่อ นักธุรกิจไฟแรงหลานชายคนโตทายาทเจ้าของโรงแรงแห่งนี้...
“แทนอย่าทำอะไรพี่นพน่ะ นุชขอร้อง!!!”
ส่วนเจ้าสาวคือ วิชชุดา ญาดารัตน์. หรือ นุช หญิงสาวแสนสวย ใบหน้าหวานมีนัยน์ตาแพรวพราว ลูกสาวคนโตของ พลโท. รวิช ญาดารัตน์. กับ คุญหญิง จรรยา ญาดารัตน์.
ซึ่งทั้งสองยังมีลูกสาวคนเล็กอีกหนึ่ง ณัชชา ญาดารัตน์ หรือ ณัช.
สาวสวยรูปร่างบอบบาง ริมฝีปากอวบอิ่มอมชมพูระเรื่อ นัยน์ตาใสมีเสน่ห์เป็นประกายน่าหลงไหล
“ผมแค่อยากมาร่วมแสดงความยินดีกับผู้หญิงร้าย ผู้ชายเลวได้มั้ยครับ?”
ภาวัตเดินเข้ามาตรงกลางระหว่างเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวแล้วกระซิบถามสายตาแค้นเคือง
หลังจากเรียนจบปริญญาโท ชายหนุ่มก็รีบบินกลับมาจากประเทศอังกฤษทันที
เพื่อมาร่วมงานแต่งงานระหว่างพี่ชายคนเดียวกับหญิงสาวคนรักของเขาที่คอยพร่ำเพ้อบอกมาตลอดหลายปีว่า เรายังรักกันอยู่เสมอ...
แต่อยู่ๆวันหนึ่งก็มีข่าวออกมาว่าทั้งสองจะแต่งงานกันอย่างกระทันหัน ซึ่งบางสำนักข่าวก็ซุบซิบไปเองว่าหญิงสาวอาจจะท้องก่อนแต่งแน่นอน ภาวัตได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจแทบล้มทั้งยืนเลย
นายชยุทธ ติณทโสภณ. ชายชราวัยหกสิบหกปี แต่ต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลาเพราะปัญหาสุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เข้าออกโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำทุกสัปดาห์
ท่านเป็นเจ้าของโรงแรมสิริธารเพียงผู้เดียว แค่ได้เห็นหน้าหลานชายคนเล็กเดินทางกลับมาแล้ว
นายชยุทธก็ยิ้มอย่างดีใจผิดกับ เสาวนิตย์ พลรัตน์. บุตรสาวคนเล็ก ผู้เป็นมารดาของธานินทร์ที่มีท่าทีไม่พอใจในตัวหลานชายคนนี้อย่างเห็นได้ชัด เมื่อหลายปีก่อนรู้สึกอย่างไร.. ปัจจุบันก็ไม่ต่างไปจากเดิม
“สวัสดีครับ คุณปู่!!!”
ภาวัตวางกระเป๋านั่งลงที่พื้นพรมของโรงแรม ก่อนจะก้มลงกราบตรงตักชายชราผู้เป็นเสมือนสิ่งที่อยู่สุดในชีวิตของเขาทันที...
เพราะหลังจากพ่อกับแม่รถคว่ำเสียชีวิตไปเมื่อสิบปีก่อน ก็มีเพียงคุณปู่คนเดียวเท่านั้นที่คอยใส่ใจดูแลพร่ำสอนชายหนุ่มด้วยดีเสมอมา
“เป็นยังไงบ้าง? เจ้าแทนก็ไหน.. บอกปู่ว่าจะกลับมาเดือนหน้าไม่ใช่หรือ!!”
ชายชราอมยิ้มมือใหญ่ค่อนข้างเหี่ยวลูบผมหลานชายสุดที่รักอย่างเอ็นดู ซึ่งเห็นอย่างนั้นยิ่งสร้างความไม่พอใจให้เสาวนิตย์มากขึ้นไปอีก
“ผมอยากรีบกลับมา... งานแต่งของพี่นพน่ะครับ คุณปู่... อยากรู้ว่าพวกเขามีความสุขกันมากแค่ไหน”
ภาวัตพูดกับชายชราด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่สายตาของเขานั้นมันช่างดูสวนทางกันทุกอย่าง
ความจริง...ชายหนุ่มคิดว่าจะกลับมาพังงานแต่งนี้ให้มันจบๆไปเลย แต่พอได้เห็นหน้าปู่ผู้เป็นที่รักแล้วเขาก็ไม่สามารถทำลายความรู้สึกท่านได้ ทุกอย่างในงานจึงสามารถดำเนินต่อไปด้วยดี...
ชายหนุ่มถือแก้วน้ำสีเหลืองอำพันยืนจับจ้องไปหาพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ทั้งสองคนกำลังอยู่บนเวที โดยมีพีธีกรสาวดำเดินงานพาพูดคุยหัวเราะกันอย่างมีความสุข...
“แพล๊ง!!!”
ภาวัตเผลอปาแก้วที่อยู่ในกำมือนั้นลงพื้นเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณใกล้เคียงทำให้ทุกคนต่างก็หันมองมาที่ชายหนุ่มเป็นตาเดียว
พร้อมทั้งเสียงซุบซิบกันมากมาย แต่เขาก็ไม่สนใจอะไรเดินออกไปอย่างหน้าตาเฉย...
บริเวณด้านนอกโรงแรมเป็นสวนสีเขียวขนาดใหญ่บรรยากาศดีประดับตกแต่งด้วยไฟแสงสีสวยงาม
ภาวัตนั่งรับลมเย็นๆที่พัดมากระทบร่างแผ่วเบา สายตาคมทอดมองออกไปไกลอย่างคนที่กำลังไร้จุดหมายปลายทาง ในขณะที่มือหนาก็ยังกำกระป๋องเบียร์เอาไว้แน่น...
“พี่แทนค่ะ”
หญิงสาวคนหนึ่งเดินตามออกมายืนตรงหน้าภาวัต สายตาคมจึงหันมองหญิงสาวใบหน้าสวยเรียวคมจมูกเชิดโด่ง ริมฝีปากอวบอิ่ม ใส่ชุดเดรสเกาะอกสีขาวรัดรูปร่างผอมบาง ส่วนสูงไม่น่าถึงร้อยเจ็ดสิบ
ทั้งสองต่างมองสบสายตากันเนิ่นนาน ชายหนุ่มพยายามนิ่งครุ่นคิดว่าหญิงสาวสวยตรงหน้า เธอเป็นใครกันแน่...
“ขอโทษน่ะ เราสองคนเคยรู้จักกันด้วยหรอครับ?”
ภาวัตตัดสินใจเอ่ยถามออกไปตรงๆ ดีกว่ามายืนคิดให้เสียเวลาอยู่แบบนี้
แต่เขาไม่มีทางรู้ว่ามันได้สร้างความผิดหวังให้กับหญิงสาวมากทั้งๆที่เธอคอยเฝ้าคิดถึงเขามาตลอดหลายปี
“ฉันคงจะจำคนผิด... ขอตัวค่ะ”
หญิงสาวกำลังจะหันหน้าเดินหนี แต่ภาวัตรีบคว้าแขนเรียวบางเอาไว้ก่อน
“คุณเรียกชื่อผมถูกแสดงว่า ต้องรู้จักผมสิ!!!”
“ขอโทษน่ะค่ะ ฉันลืมไปแล้วจริงๆ ว่าคุณเป็นใคร?”
หญิงสาวพยายามแกะมือใหญ่ออกสำเร็จ แต่ภาวัตยังไม่ยอมจับแขนเธอไว้อีกครั้ง เขาเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับน้ำเสียงและแววตาคู่นี้มากจริงๆ
“ณัช!! ณัช!! ณัชชาได้ยินฉันมั้ย? คุณแม่ให้มาตามรีบเข้าไปในงานแล้วน่ะ”
เจสิตา กันยาลักษ์. หรือ แจ่ม.
หญิงสาวหน้าหมวย รูปร่างอวบอิ่มเพื่อนสนิทมากคนเดียวของณัชชา เธอเดินออกมาตะโกนร้องเรียกหาเพื่อนสาวเสียงดังลั่น
จนภาวัตได้ยินเต็มสองหูทำให้จดจำได้ทันทีว่า หญิงสาวตรงหน้าเขานี้คือใคร...
“ณัชหรอ? พี่ขอโทษน่ะ พี่จำเราไม่ได้จริงๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ณัชเข้าใจ..”
พูดจบแล้วหญิงสาวก็เดินหนีหน้าชายหนุ่มออกไปอย่างเคืองๆ
ในขณะที่ภาวัตไม่เคยคาดคิดเลยว่า สาวน้อยคนที่ชอบพูดคุยและเล่นกับเขา เมื่อสมัยก่อนพอเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาจะสวยงามมากเพียงนี้..
🤗🤗🤗🤗🤗🤗🤗🤗🤗🤗🤗
.............................................................................................