อ๊อดด~
เสียงออดบอกเวลาเลิกเรียน ฉันและโมนิก้าเดินออกมาจากห้องเรียนแล้วตรงไปที่ตึกใหญ่ห้าชั้นซึ่งเป็นตึกส่วนตัวของครอบครัวแมทเทียส โมนิก้าบอกว่าคนของกิลแบร์ออกล่าเพิ่มมากขึ้นเมื่อวานนี้ แมทเทียสและทุกคนเลยต้องตรวจดูบริเวณพื้นที่ภายในโรงเรียนอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัยจนเมื่อเช้าไม่มีใครมาเรียนสักคน
ปัง!
ประตูบานใหญที่โมนิก้าเปิดออกเพราะความรีบร้อนดังขึ้น ทำให้หนุ่มๆทั้งห้าคนที่กำลังนอนพักผ่อนอยู่บนโซฟาตัวยาวสี่ห้าตัวลืมตาขึ้นมาดู
"เป็นอะไรของเธอโมนิก้า" พี่เฮคเตอร์ถามโมนิก้าที่เดินหน้ามุ่ยเข้าไปหาเขา
"นายต้องตรวจดูความปลอดภัยจนถึงเช้าทำไมไม่บอกฉันสักคำ"
"เรื่องแค่นี้เองน่า" เขาดึงเธอเข้าไปโอบกอดเบาๆ
"แล้วเป็นไงบ้าง ทุกอย่างเรียบร้อยดีมั้ย" พอโมนิก้าถามออกไป ทุกคนก็มองหน้าแมทเทียสกันอย่างพร้อมเพียง เขาลุกขึ้นนั่งฉันเลยเดินไปนั่งลงข้างเขา
"กิลแบร์จะต้องมาหาเฮเลน่าคืนนี้แน่นอน" แมทเทียสบอกแล้วมองมาทางฉัน
"คืนนี้เหรอ" โมนิก้าถามอย่างสงสัย
"ใช่ เมื่อคืนมันออกล่าด้วยตัวเองแล้วฉันก็ไปเจอมันมา"
"มันบอกว่าคืนนี้เลือดหายากต้องอยู่กับมัน" กาแอลเสริม
"งั้นเฮเลน่าก็ยิ่งตกอยู่ในอันตรายน่ะสิ" โมนิก้าถามด้วยความเป็นกังวล
"ฉันว่าคืนนี้พวกเราพักกันที่นี่แหละ" ปาสกัสเสนอความคิดเห็น
"ใช่เลย ตึกนี้มีตั้งหลายห้อง อยู่ใกล้กันไว้จะดีที่สุดเพราะเราไม่รู้ว่ากิลแบร์มันจะทำอะไรบ้าง" อองรีสรุปให้ฟังอย่างมีเหตุผล
"ฉันว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเฮเลน่าเราจะได้ช่วยทัน" โมนิก้าพูดขึ้น ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
"แล้วสรุปฉันต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ใช่มั้ย" ฉันถามหลังจากที่ฟังพวกเขาพูดคุยกันเสร็จเรียบร้อย
"ใช่ เธออยู่ห้องข้างฉันก็แล้วกัน ทุกคนมีห้องประจำอยู่ที่นี่หมดแล้วเพราะพวกนี้มันมาพักกันบ่อย" แมทเทียสบอกแล้วนั่งพิงโซฟาทำท่าทางผ่อนคลาย
"ทำไมไม่ให้เฮเลน่าอยู่ห้องเดียวกับมึงก็จบละ" ปาสกัสหันไปถามแมทเทียส
"เป็นความคิดที่ดี" แมทเทียสหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ฉัน
"เห้ยๆ ให้มันน้อยๆหน่อย น้องสาวกูเพิ่งจะสิบแปด" พี่เฮคเตอร์ขัดขึ้น
"ทีมึงยังอยู่ห้องเดียวกับโมนิก้าเลย" อองรีสวนขึ้น
"อะไรยะ ฉันเกินสิบเจ็ดหลายร้อยปีแล้วย่ะ" โมนิก้าสวนขึ้นบ้าง
"พอๆ พวกมึงจะทะเลาะกันทำไมเนี่ย" กาแอลห้ามทับไว้ก่อนที่จะมีการนองเลือดเกิดขึ้น
"ชิ เฮเลน่าเราไปเก็บของกันเถอะ" โมนิก้าลุกขึ้นลากแขนฉันให้ตามไป
เราสองคนเก็บของมาไว้ที่ตึกใหญ่เสร็จก็ลงมานั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่น ตอนนี้เป็นช่วงค่ำๆแล้ว ทุกคนคงกำลังตรวจความปลอดภัยอยู่ข้างนอก ฉันนั่งกินป๊อปคอร์นไปดูหนังไปกับโมนิก้าสองคนจนไม่รู้จะทำอะไรดี
"โมนิก้าฉันขอถามอะไรหน่อยสิ"
"อะไรเหรอ" เธอพูดแต่ยังคงจ้องดูหนังอยู่
"แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์กับเลือดผสมต่างกันยังไงเหรอ"
"แวมไพร์เลือดบริสุทธิคือแวมไพร์สายเลือดแท้ที่เป็นแวมไพร์มาตั้งแต่กำเนิดสามารถเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นแวมไพร์ได้ ส่วนแวมไพร์เลือดผสมก็คือมนุษย์ที่โดนแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์เปลี่ยนให้เป็นแวมไพร์"
"งั้นแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ก็แข็งแกร่งกว่าเลือดผสมน่ะสิ"
"อาจจะเป็นงั้น แต่ไม่แน่หรอก แวมไพร์ที่เพิ่งเกิดใหม่จะมีอาการคลุ้งคลั่งและควบคุมได้ยาก เฮคเตอร์ตอนแรกที่เขาคลุ้มคลั่งฉันก็เกือบจะเอาตัวไม่รอดเหมือนกันต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้ไปทำร้ายมนุษย์" โมนิก้าพูดแล้วมองหน้าฉันเหมือนรู้สึกผิด
"เธอไม่ต้องคิดมากเรื่องที่เปลี่ยนพี่เฮคเตอร์หรอก ฉันเข้าใจและอีกอย่างถ้าพี่เฮคเตอร์มีความสุขฉันก็มีความสุข" ฉันพูดยิ้มๆให้กับโมนิก้า
"ขอบคุณมากนะเฮเลน่า"
"เดี๋ยวฉันขอตัวไปหาอะไรกินก่อนนะ" ฉันเดินเข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นดูเผื่อจะมีอะไรที่พอจะทำอาหารได้บ้าง แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรนอกจากน้ำเปล่ากับนม ฉันก็คิดไว้แล้วแหละว่าต้องเป็นแบบนี้ก็พวกเขาไม่ต้องกินอาหารนี่นา ฉันเลยเดินไปหยิบแก้วแล้วเทนมใส่ ระหว่างที่ฉันถือแก้วกำลังจะเดินกลับไปหาโมนิก้าที่ห้องนั่งเล่นก็ได้ยินเสียงลมพัดแรงๆทางหน้าต่างที่เปิดอยู่ ฉันเลยเดินไปปิด
"ว่าไงสาวน้อย"
เพล๊ง!!
เสียงผู้ชายที่ฉันไม่รู้จักดังขึ้นข้างหลังทำให้ฉันตกใจจนทำแก้วนมที่อยู่ในมือแตก แล้วฉันก็หันไปมองผู้ชายคนนั้น เขามีผมสีทอง ตาสีน้ำตาลเข้ม รูปร่างสูงและท่าทางไม่น่าไว้ใจ
"เกิดอะไรขึ้น" โมนิก้าถามขึ้นเสียงตกใจแต่พอเธอมองเห็นผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าฉัน เธอก็มีท่าทีตกใจมากขึ้นกว่าเดิม
"ไง โมนิก้า" เขาหันไปยิ้มให้โมนิก้าแต่มันเป็นยิ้มที่ดูอันตรายยังไงไม่รู้
"กิลแบร์!" โมนิก้ามายืนใกล้ฉันด้วยความรวดเร็วจนฉันไม่ทันรู้ตัว
"ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นหรอกน่า ฉันแค่จะมาทักทายสาวน้อยคนนี้เฉยๆ" กิลแบร์ยื่นมือจะมาลูบแก้มฉันแต่โมนิก้าปัดมันทิ้งก่อนแล้วดันตัวฉันให้อยู่ห่างๆเขาไว้
"ออกไปจากที่นี้เดี๋ยวนี้นะ" โมนิก้ายืนจ้องหน้าข่มขู่กิลแบร์ แต่เขากลับหัวเราะออกมา
"อย่าโหดนักสิ ก็บอกแล้วไงว่าฉันแค่มาทักทาย" เขามายืนอยู่ข้างฉันตอนไหนเนี่ย ตอนนี้ข้อมือฉันถูกกิลแบร์จับไว้แน่น โมนิก้าหยิบมีดเล่มเล็กที่อยู่ด้านข้างของกางเกงออกมาแล้วพุ่งเข้าไปหากิลแบร์ เขาปล่อยมือออกจากฉันแล้วหลบมีดด้วยความเร็ว ฉันยืนนิ่งทำตัวไม่ถูกมองดูโมนิก้าต่อสู้กับกิลแบร์นิ่ง
ตุบ!!
โมนิก้าโดนกิลแบร์โยนร่างไปกระทบกับผนังแล้วร่วงลงที่พื้น ฉันตกใจรีบวิ่งเข้าไปหาเธอ กลัวเธอจะได้รับบาดเจ็บ
"โมนิก้า!!"
"ฉันไม่เป็นไร รีบขึ้นไปที่ห้องเร็ว!" โมนิก้าตะโกนบอกฉันแล้วพุ่งเข้าไปต่อสู้กับกิลแบร์ต่อเพราะเขากำลังจะเดินมาทางฉัน
"แต่ว่า.."
"เร็วเข้าเฮเลน่า!" ฉันไม่รู้จะทำยังไงได้แต่ขอโทษโมนิก้าที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้แล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองที่อยู่ชั้นสาม เสียงต่อสู่ที่ชั้นล่างตอนนี้เงียบลง ฉันรู้สึกเป็นห่วงโมนิก้ามาก ได้แต่เดินวนไปวนมาอยู่ข้างหน้าต่างห้องนอน
กึกๆ ปัง!!
เสียงประตูห้องนอนของฉันกระแทกกับผนังดังลั่น ฉันถอยหลังหนีกิลแบร์ที่กำลังเดินเข้ามาหาฉันอย่างตกใจและรู้สึกกลัวจนตัวสั่นไปหมด
"ฉันไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอกสาวน้อย" ฉันถอยหนีจนแผ่นหลังชิดกับผนังห้อง กิลแบร์เดินเข้ามาหาฉันและเขาก็จับปลายผมฉันไปดม
"อย่ามาแตะต้องตัวฉัน" ฉันรวบรวมความกล้าปัดมือเขาออก แล้วจ้องหน้าเขานิ่งถึงในใจฉันจะกลัวเขามากแค่ไหนก็ตาม
"ปากเก่งดีนี่ แล้วถ้าฉันทำแบบนี้เธอยังจะปากเก่งอยู่อีกมั้ย" กิลแบร์จับไหล่ทั้งสองข้างของฉันไว้แน่นแล้วก้มลงมาดมซอกคอฉัน ปลายจมูกของเขาแตะโดนซอกคอฉันเบาๆ
"ออกไป!" ฉันตะโกนแล้วผลักตัวเขาออกแต่เขากลับไม่ขยับสักนิด
"กลิ่นเธอหอมขนาดนี้นี่เอง ไอ้แมทเทียสมันถึงหวงนักหวงหนา" กิลแบร์ยิ้มเยาะแล้วมองตรงคอของฉันที่ยังคงมีรอยคิสมาร์คบางๆจากแมทเทียสเมื่อวานนี้
"นายต้องการอะไรกันแน่"
"เลือดของเธอและพลังอำนาจมหาศาล" เขาจับต้นแขนทั้งสองสองของฉันไว้แน่น จนฉันเจ็บไปหมด
"ปล่อยเฮเลน่าเดี๋ยวนี้" เสียงคุ้นหูดังมาจากประตูห้องนอนของฉันที่เปิดกว้างอยู่ดังขึ้น ฉันหันไปมองเห็นแมทเทียสเสื้อผ้ายับยู่ยี้ ผมที่ดูยุ่งเหยิงเหมือนเพิ่งต่อสู้มาอย่างหนักหนวง เขามองมาทางฉันแล้วหันไปมองกิลแบร์ด้วยความโกรธ
"หึ ใช้ได้นี่ที่รอดจากลูกน้องของกูมาได้" กิลแบร์ปล่อยมือจากแขนของฉันแล้วหันไปทางแมทเทียส
"มึงทำอะไรเฮเลน่า" แมทเทียสรีบมาหาฉันด้วยความเร็วแล้วดันฉันให้ไปยืนอยู่ด้านหลังของเขา ฉันได้แต่จับเสื้อทางด้านหลังเขาไว้แน่น
"เปล่านี่ แค่มาทักทายเฉยๆ แต่โมนิก้าดันใช้ความรุนแรงซะก่อน" พอกิลแบร์พูดถึงโมนิก้าฉันก็นึกขึ้นได้ว่าเธออยู่ข้างล่าง ไม่รู้ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง
"แมทเทียส โมนิก้าอยู่ข้างล่าง" ฉันรีบบอกแมทเทียสด้วยความเป็นห่วงโมนิก้าทั้งๆที่มือยังสั่นอยู่
"โมนิก้าไม่เป็นไร ไอ้เฮคกับทุกคนก็อยู่ข้างล่างด้วย"
"ห่วงกันพอหรือยัง กูจะได้ทำความรู้จักกับสาวน้อยเฮเลน่าบ้าง" กิลแบร์ยิ้มแต่มันเป็นยิ้มที่ร้ายกาจและน่ากลัวมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ
"ห้ามเข้าใกล้เฮเลน่าอีก แล้วอย่าหาว่ากูไม่เตือน" แมทเทียสโกรธจนเขาต้องกำมือไว้แน่น
"มึงห้ามกูไม่ได้หรอก ก็สาวน้อยคนนี้กลิ่นหอมจนกูอดใจไม่ไหวแล้ว" ทันทีที่กิลแบร์พูดจบแมทเทียสก็พุ่งเข้าไปต่อยที่ท้องของเขา จนร่างของกิลแบร์กระเด็นไปกระทบกับผนังเสียงดัง
"กูเตือนแล้วนะ"
"หึ คนที่นี่เนี่ยชอบใช้กำลังกันชะมัด" พอกิลแบร์ลุกขึ้นได้เขาก็พุ่งเข้าหาแมทเทียสเหมือนกัน ทั้งสองคนต่อสู่กันไปมาอยู่นาน
"แมทเทียสระวัง!" กิลแบร์หยิบปืนจากด้านในเสื้อคลุมออกมา ฉันรีบตะโกนเสียงดังทันทีที่เห็นปืนในมือของเขา กลัวว่าแมทเทียสจะได้รับบาดเจ็บ แต่กิลแบร์กลับเล็งปืนมาทางฉันซึ่งยืนอยู่อีกฝั่ง
ปัง!!
เสียงปืนที่ดังขึ้นทำให้หัวฉันโล่งไปหมด เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างหยุดเคลื่อนที่ยืนนิ่งไปชั่วขณะ พอได้สติฉันก็รับรู้ได้ว่าฉันไม่รู้สึกเจ็บสักนิดแต่กลับมีร่างสูงของแมทเทียสกำลังกอดฉันไว้แน่น ฉันกอดเขาตอบและพบว่ามือของฉันกำลังเปื้อนเลือดของเขาอยู่ แมทเทียสบังตัวฉันไว้ทำให้เขาถูกยิงแทนที่จะเป็นฉัน
"เฮเลน่า!" พี่เฮคเตอร์และทุกคนเข้ามาอยู่ในห้องและกิลแบร์หนีไปตอนไหนฉันไม่สามารถรับรู้ได้ ตอนนี้ในสมองของฉันเป็นห่วงแต่แมทเทียสเท่านั้น น้ำตาฉันไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว อย่าเป็นอะไรนะแมทเทียส