หลังจากคุยในห้องประชุมกันเสร็จเรียบร้อย ก็ได้ข้อสรุปว่าฉันจำเป็นต้องมีคนของเราคอยอยู่ด้วยเพื่อความปลอดภัย ทุกคนกลับไปกันหมดแล้วเหลือเพียงฉันกับแมทเทียสที่ยังคงนั่งอยู่ในห้องนี้ ในหัวตอนนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างปะปนกันไปหมด คิดแต่ว่าทำไมต้องเป็นฉันที่เป็นเลือดหายากและทุกสิ่งทุกอย่างที่ยังดูไม่น่าเชื่อนี้ ไม่นึกเลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับฉัน
"เป็นอะไรหรือเปล่าเฮเลน่า" แมทเทียสถามขึ้นหลังจากเรานั่งเงียบและฉันเอาแต่ก้มหน้าคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
"เปล่า แค่คิดอะไรนิดหน่อย"
"เธอไม่ต้องกังวลหรอก ฉันไม่มีวันให้ใครมาทำร้ายเธอได้แน่นอน" ฉันเงยมองหน้าแมทเทียสแล้วจู่ๆน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ตั้งนานก็ไหลออกมา ฉันคิดอะไรไม่ออกไม่รู้จะทำตัวยังไงแล้วต่อไปฉันจะต้องอยู่แบบไหน มันเกินจะรับไหวที่ต้องมารู้ทุกสิ่งทุกอย่างในเวลาเดียวกัน
"ฉัน..ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไปดีแมทเทียส"
"ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว เธอจะต้องไม่เป็นไร" แมทเทียสดึงฉันเข้าไปกอดแล้วลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยน ฉันยืนกอดเขาไว้แน่นเพื่อคลายความกังวล
"แล้วกิลแบร์คือใคร" ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาเคยพูดถึงชื่อกิลแบร์ว่ากำลังต้องการเลือดหายากอยู่
"เป็นแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์เหมือนกับฉัน แต่มันเป็นตัวอันตราย เธออย่าเข้าใกล้จะดีที่สุด"
"นายเคยมีเรื่องอะไรกับเขาเหรอ"
"พวกฉันคอยตามล่าคนของกิลแบร์ที่คลุ้มคลั่งดูดเลือดมนุษย์อย่างผิดกฎ พวกนั้นไม่เคยทำตามกฎของแวมไพร์เลยสักครั้ง เป็นพวกที่กระหายในพลังและอำนาจ"
"แวมไพร์มีกฎด้วยเหรอ"
"มีสิ กฎที่มีไว้สำหรับอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้โดยการห้ามทำร้ายหรือฆ่ามนุษย์"
"แล้วเวลาหิวนายจะทำยังไง" ฉันอยากรู้การใช้ชีวิตของแมทเทียส อยากเข้าใจเขาให้มากขึ้นกว่านี้
"ฉันใช้เลือดบริจาคจากโรงพยาบาลของตระกูลกาแอลกับโมนิก้า คนของแบร์นารด์ใช้เลือดบริจาคกันทั้งหมด"
"คนของแบร์นารด์?"
"โรงเรียนนี้เป็นของตระกูลฉัน นักเรียนส่วนใหญ่เป็นแวมไพร์มีทั้งเลือดบริสุทธิ์และเลือดผสม ส่วนมนุษย์ก็มีบางส่วน เพราะคนของฉันไม่ทำร้ายมนุษย์"
"คนที่นี่รู้หรือเปล่าว่าพวกนายเป็นแวมไพร์"
"ไม่มีใครรู้หรอก ถึงรู้พวกฉันก็ลบความทรงจำออก"
"นายทำได้ด้วยเหรอ" ฉันถามด้วยความตื่นเต้น แวมไพร์นี่มีพลังหลายอย่างจนฉันสนใจขึ้นมาแล้วสิ
"เธอถามเยอะจัง" แมทเทียสส่ายหน้ากับความอยากรู้ของฉัน
"นอกจากลบความทรงจำแล้วทำอะไรได้อีกบ้าง"
"สะกดจิต"
"จริงอะ! นายลองสะกดจิตฉันดูหน่อยสิ" น่าทึ่งชะมัด ไม่ใช่ว่าแมทเทียสสะกดจิตให้ฉันรักเขาหรอกเหรอเนี่ย
"หึ ก็ได้" แมทเทียสหัวเราะเบาๆแล้วจ้องตาฉันนิ่ง ฉันนั่งลุ้นด้วยความตื่นเต้นที่จะโดนสะกดจิตครั้งแรกในชีวิต หลายนาทีต่อมาเขาก็ทำหน้าสงสัยคิ้วทั้งสองข้างชิดเข้าหากัน
"อะไรเหรอ" ฉันแปลกใจกับท่าทีของแมทเทียสที่เอาแต่จ้องหน้าฉันแล้วทำท่าทางเหมือนคิดอะไรอยู่
"ฉันสะกดจิตเธอไม่ได้"
"ทำไมล่ะ" เขาป่วยเหรอหรือว่าเขาหิวจนไม่มีพลัง
"ฉันคิดว่าคงเป็นเพราะเธอมีเลือดหายากอยู่ในตัว มันคงมีพลังในการลบล้างพลังของแวมไพร์ด้วย"
"นายรู้ได้ยังไง"
"มันเคยมีบอกในหนังสือแต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะมีมันจริงๆ เพราะส่วนใหญ่คนที่มีเลือดหายากจะมีพลังแค่อย่างเดียวคือให้พลังมหาสาร แต่เธอมีพลังลบล้างเพิ่มมาอีก"
"สรุปแวมไพร์สะกดจิตฉันไม่ได้ผล ลบความทรงจำก็ใช้กับฉันไม่ได้งั้นเหรอ" เลือดหายากที่อยู่ในตัวฉันตอนนี้ก็มีประโยชน์กับฉันบ้างแล้วสินะ
"แต่ถึงยังไงเธอก็ยังตกอยู่ในอันตรายอยู่ดี เพราะแวมไพร์มีพละกำลังมากกว่ามนุษย์หลายร้อยเท่า"
"ฉันเข้าใจแล้ว ว่าแต่นายเคยคิดที่จะดูดเลือดฉันบ้างมั้ย" แมทเทียสมองหน้าฉันนิ่ง ฉันเลยแกล้งขยับไปใกล้ๆเขา ฉันอยากจะรู้ว่าเขาจะทำยังไงเพราะอยู่ใกล้ฉันตลอดเขาคงต้องมีความพยายามในการอดทนอย่างหนักแน่นอน
"เคย ทุกครั้งที่ได้กลิ่นเธอ อยู่ใกล้เธอและสัมผัสเธอฉันต้องอดทนไม่ดูดเลือดเธอมากขนาดไหนรู้บ้างมั้ย"
"แล้วทำไมนายถึงไม่ดูดเลือดฉันล่ะ"
"ฉันไม่อยากทำให้เธอเจ็บ" แมทเทียสลูบไล้ที่แก้มฉันแผ่วเบา ฉันจับมือเย็นที่กำลังลูบอยู่ที่แก้มแล้วยิ้มให้เขา
"ดูดเลือดฉันสิแมทเทียส"
"รู้ตัวมั้ยว่าพูดอะไรออกมา" แมทเทียสอึ้งไปนิดหน่อยกับคำพูดของฉัน แต่ฉันอยากให้เขาดูดเลือดถ้ามันทำให้เขามีพลังมหาสารและไม่ทำให้เขาต้องอดทนอย่างหนักเมื่ออยู่ใกล้ฉัน
"รู้สิ ฉันอยากให้นายดูดเลือดฉัน นายจะได้ไม่ทรมานอดทนที่อยู่ใกล้ฉันอีก"
"อย่าไปพูดแบบนี้กับใคร นอกจากฉันเข้าใจมั้ยเฮเลน่า"
"ฉันไม่พูดกับใครเด็ดขาด นอกจากนาย"
ฉันพูดจบแมทเทียสก็ก้มลงมาจูบฉัน เขาจูบฉันอ่อนโยน สักพักก็เริ่มรุนแรงขึ้น ลิ้นของเขาเข้ามาในปากของฉัน ตวัดลิ้นเล็กของฉันอย่างโหยหา เราจูบกันเนิ่นนานจนลืมเวลาและพอรู้ตัวอีกทีฉันก็นอนราบอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องประชุมโดยไม่รู้ตัว แมทเทียสถอนจูบออกจากปากฉันแล้วไล้ลงไปตามซอกคอ ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อริมฝีปากของเขากดจูบลงไปที่ซอกคอฉันแรงๆ หลังจากนั้นเขาก็ไล้ริมฝีปากลงไปเรื่อยๆจนลงมาถึงเนินอกที่อยู่ภายใต้ชุดเดรสเกาะอกสีดำ ฉันรีบดันแผงอกแมทเทียสไว้ก่อนที่มันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้
"ขอโทษที เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่หอ" เขาลูบหน้าตัวเองเหมือนกำลังพยายามยามเรียกสติตัวเองกลับมาแล้วลุกขึ้นยืน ฉันลุกตามแล้วจับมือเขาเอาไว้ แมทเทียสจับมือฉันตอบเช่นกันตลอดทางที่เขาเดินมาส่งฉันที่หอพัก
ก่อนที่แมทเทียสจะกลับเขากำชับกับฉันว่าห้ามออกมาข้างนอกคนเดียว เวรเฝ้าฉันที่หอพักหญิงคือโมนิก้าเพราะผู้ชายไม่สามารถเข้ามาได้ แมทเทียสบอกว่าเขาต้องออกไปสำรวจที่ตัวเมืองทุกคืนกับพี่เฮคเตอร์ กาแอล ปาสกัสและอองรี นอกจากนั้นยังมีคนของเขาอีกมากมายที่ต้องคอยตรวจดูรอบโรงเรียน ชีวิตฉันหลังจากนี้คงต้องเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นซะแล้วสิ